66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

Put Call คืออะไร? เปิดโลก DW และ Option ฉบับเข้าใจง่าย ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นขาลง

Home / เริ่มต้นเทรด / Put...

meetcinco_com | 01 11 月

Put Call คืออะไร? เปิดโลก DW และ Option ฉบับเข้าใจง่าย ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นขาลง

ในโลกการลงทุนที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน คำว่า “Put” กับ “Call” ถือเป็นแนวคิดพื้นฐานที่นักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะคนที่สนใจเครื่องมืออนุพันธ์อย่าง Derivative Warrant (DW) หรือ Option ควรเข้าใจให้ลึกซึ้ง ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือกำลังมองหาโอกาสใหม่ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) การรู้จัก Put Call คืออะไร จะช่วยให้คุณเปิดประตูสู่โอกาสและจัดการความเสี่ยงได้อย่างชาญฉลาด

ภาพประกอบโลกการลงทุนซับซ้อนกับแนวคิด Put และ Call ที่แสดงด้วยกุญแจไขกุญแจโอกาส

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกความหมาย วิธีการทำงาน และการนำไปใช้จริงของ Call Option กับ Put Option รวมถึง Put Call ในมุมมองของ DW ที่ได้รับความนิยมในไทย เราจะสำรวจข้อควรระวัง กลยุทธ์การเลือกใช้ และความเสี่ยงที่ต้องรู้ เพื่อให้คุณลงทุนใน Put Call ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพ

ภาพประกอบการสำรวจ Call และ Put Option กับ DW ผ่านแว่นขยายพร้อมสัญลักษณ์กลไกและกลยุทธ์

Put Call คืออะไร? ความหมายพื้นฐานของ Call Option และ Put Option

本质ของ Put กับ Call คือสิทธิในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงที่ราคาและเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งต่างจากการซื้อขายหุ้นตรงๆ อย่างสิ้นเชิง

ภาพประกอบมือสองข้างถือป้ายหนึ่งเขียน Put อีกหนึ่งเขียน Call แสดงนิยามพื้นฐาน

Call Option คืออะไร?

Call Option หรือคอลออปชั่น คือสิทธิในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิง เช่น หุ้น ในราคาที่ตกลงไว้ล่วงหน้า ภายในกรอบเวลาที่กำหนด ผู้ซื้อ Call Option มักคาดว่าราคาสินทรัพย์นั้นจะเพิ่มขึ้น หากราคาตลาดทะลุราคาใช้สิทธิ ผู้ซื้อก็จะได้กำไรจากส่วนต่าง

ยกตัวอย่าง หากคุณซื้อ Call Option ของหุ้น A ที่ราคาใช้สิทธิ 100 บาท แล้วราคาหุ้นขึ้นไป 120 บาท คุณสามารถใช้อสิทธิ์ซื้อที่ 100 บาท แล้วขายในตลาดที่ 120 บาท เพื่อรับกำไรจากส่วนต่างนั้น

Put Option คืออะไร?

Put Option หรือพุทออปชั่น คือสิทธิในการขายสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ภายในเวลาที่ระบุ ผู้ซื้อ Put Option คาดว่าราคาจะลดลง หากราคาตลาดต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ ก็จะมีโอกาสทำกำไร

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณซื้อ Put Option หุ้น B ที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท แล้วราคาหุ้นตกลงมา 40 บาท คุณสามารถใช้อสิทธิ์ขายที่ 50 บาท แม้ราคาตลาดจะอยู่ที่ 40 บาท ทำให้ได้กำไรจากส่วนต่าง

ทำไมต้องมี Call และ Put Option? บทบาทในตลาดทุน

เครื่องมืออย่าง Call กับ Put Option เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์หลักสองด้านในตลาดทุน คือ การป้องกันความเสี่ยงหรือ Hedging และการเก็งกำไรหรือ Speculation สำหรับนักลงทุนที่อยากลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาหุ้น หรือใช้เป็นทางลัดในการทำกำไรจากแนวโน้มราคาในระยะสั้นถึงกลาง เครื่องมือเหล่านี้ยืดหยุ่นมาก สามารถนำไปปรับใช้ในกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบได้อย่างลงตัว

เจาะลึกกลไก: Call Put ทำงานอย่างไร? (พร้อมภาพประกอบ)

เพื่อให้เข้าใจการทำกำไรและขาดทุนจาก Call กับ Put Option อย่างถ่องแท้ เราจะมองจากมุมของผู้ซื้อเป็นหลัก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับนักลงทุน

ภาพประกอบ: (จินตนาการภาพกราฟแสดงกำไร/ขาดทุนของผู้ซื้อ Call Option)

คำอธิบายภาพ: แกน X คือราคาหุ้นอ้างอิง ณ วันหมดอายุ แกน Y คือกำไร/ขาดทุน เส้นกำไรเริ่มที่ราคาใช้สิทธิ บวกพรีเมียม แล้วพุ่งสูงขึ้นเมื่อราคาหุ้นเพิ่ม

ผู้ซื้อ Call Option มีกำไรเมื่อไหร่?

ผู้ซื้อ Call Option จะทำกำไรเมื่อราคาตลาดของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันหมดอายุ สูงกว่าราคาใช้สิทธิรวมค่าพรีเมียมที่จ่าย

  • กำไร: เมื่อ (ราคาตลาด ณ วันหมดอายุ – ราคาใช้สิทธิ) > พรีเมียม
  • ขาดทุนจำกัด: สูงสุดคือค่าพรีเมียมที่จ่ายไป
  • กำไรไม่จำกัด: ยิ่งราคาตลาดพุ่งสูง กำไรก็ยิ่งเพิ่มไม่มีขีดจำกัด

ตัวอย่าง: ถ้าซื้อ Call Option หุ้น XYZ ที่ราคาใช้สิทธิ 100 บาท จ่ายพรีเมียม 5 บาท แล้วราคาหุ้นขึ้น 110 บาท กำไรคือ (110 – 100) – 5 = 5 บาท

ภาพประกอบ: (จินตนาการภาพกราฟแสดงกำไร/ขาดทุนของผู้ซื้อ Put Option)

คำอธิบายภาพ: แกน X คือราคาหุ้นอ้างอิง ณ วันหมดอายุ แกน Y คือกำไร/ขาดทุน เส้นกำไรเริ่มที่ราคาใช้สิทธิ ลบพรีเมียม แล้วเพิ่มขึ้นเมื่อราคาหุ้นลด

ผู้ซื้อ Put Option มีกำไรเมื่อไหร่?

ผู้ซื้อ Put Option จะได้กำไรเมื่อราคาตลาดของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันหมดอายุ ต่ำกว่าราคาใช้สิทธิหักค่าพรีเมียม

  • กำไร: เมื่อ (ราคาใช้สิทธิ – ราคาตลาด ณ วันหมดอายุ) > พรีเมียม
  • ขาดทุนจำกัด: สูงสุดคือค่าพรีเมียมที่จ่ายไป
  • กำไรจำกัด: สูงสุดคือราคาใช้สิทธิ ลบพรีเมียม (เพราะราคาหุ้นไม่ต่ำกว่า zero)

ตัวอย่าง: ถ้าซื้อ Put Option หุ้น ABC ที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท จ่ายพรีเมียม 3 บาท แล้วราคาหุ้นลง 40 บาท กำไรคือ (50 – 40) – 3 = 7 บาท

องค์ประกอบสำคัญของ Call และ Put Option

การรู้จักส่วนประกอบเหล่านี้คือรากฐานในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุนอย่างมีเหตุผล

  • ราคาใช้สิทธิ (Strike Price): ราคาที่ผู้ถือสิทธิซื้อ (Call) หรือขาย (Put) สินทรัพย์อ้างอิง
  • วันหมดอายุ (Maturity Date): วันสุดท้ายใช้อสิทธิ์ หลังจากนั้น Option จะไร้ค่า
  • ราคาอ้างอิง (Underlying Asset Price): ราคาปัจจุบันของสินทรัพย์ที่ Option ผูกติด เช่น ราคาหุ้นบริษัท
  • พรีเมียม (Premium): ค่าที่ผู้ซื้อจ่ายให้ผู้ขายเพื่อแลกสิทธิ สะท้อนมูลค่าของ Option
  • เวลา (Time Decay): มูลค่าที่ลดลงตามเวลาใกล้หมดอายุ หรือที่เรียกว่านาฬิกาเสื่อมเวลา ซึ่งเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตาเสมอ

Put Call ในบริบทของ DW (Derivative Warrant) คืออะไร?

ในไทย นักลงทุนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ Derivative Warrant หรือ DW ซึ่งเป็นอนุพันธ์ยอดนิยม DW คล้าย Option แต่ปรับให้เข้ากับตลาดหุ้นไทย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ทำความรู้จัก DW: ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์

DW หรือดิวาย คือหลักทรัพย์ที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์ ให้สิทธิผู้ถือซื้อหรือขายหลักทรัพย์อ้างอิง เช่น หุ้นเดี่ยวหรือดัชนี SET50 ในราคาและเวลาที่กำหนด DW ซื้อขายใน SET เหมือนหุ้นทั่วไป จึงเข้าถึงง่ายและมีสภาพคล่องดี

DW มาพร้อมอัตราทดที่ช่วยขยายกำไรจากหุ้นอ้างอิง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงตามไปด้วย ทำให้เหมาะกับคนที่อยากใช้เงินน้อยแต่ผลตอบแทนสูง

Call DW และ Put DW ทำงานต่างกันอย่างไร?

DW แบ่งหลักเป็นสองแบบตามแนวโน้มที่คาด:

  1. Call DW (คอลดิวาย): ให้สิทธิซื้อ เหมาะกับคนที่มองว่าราคาหุ้นหรือดัชนีจะขึ้น เช่น ถ้าคุณคิดว่าหุ้น AOT จะพุ่ง ซื้อ Call DW อ้างอิง AOT ก็จะราคาขึ้นตาม
  2. Put DW (พุทดิวาย): ให้สิทธิขาย เหมาะกับคนที่มองว่าราคาจะลง เช่น ถ้าคุณคาด SET50 จะร่วง ซื้อ Put DW อ้างอิง SET50 ก็จะราคาขึ้นเมื่อดัชนีลง

ตัวอย่าง: สมมติหุ้น PTT อยู่ที่ 40 บาท ถ้าคุณเชื่อว่าจะขึ้น 45 บาท ซื้อ Call DW PTT แทนหุ้นตรงๆ เพื่อใช้ leverage แต่ถ้าคิดว่าจะลง 35 บาท เลือก Put DW PTT ก็พอ

ข้อดีและข้อควรระวังของการลงทุนใน DW (สำหรับนักลงทุนไทย)

ข้อดี:

  • อัตราทด (Leverage): ผลตอบแทนสูงกว่าลงทุนหุ้นตรงด้วยเงินทุนน้อย
  • ลงทุนได้ทั้งขาขึ้นขาลง: Call DW สำหรับขึ้น Put DW สำหรับลง
  • ทุนเริ่มต้นต่ำ: เริ่มได้ด้วยเงินไม่มาก
  • สภาพคล่องสูง: ซื้อขายสะดวกใน SET

ข้อควรระวัง:

  • ความเสี่ยงด้านเวลา (Time Decay): มูลค่าลดลงใกล้หมดอายุ
  • ความผันผวนสูง: ราคา DW สวิงแรงกว่าหุ้นอ้างอิง
  • สภาพคล่องของผู้ดูแล: ต้องพึ่งผู้ดูแลสภาพคล่องในการซื้อขาย
  • การศึกษาข้อมูล: ต้องรู้ปัจจัยอย่างอัตราทด Sensitivity Effective Gearing และ Volatility ให้ชัด

สำหรับมือใหม่ ควรศึกษาจาก แหล่งข้อมูล SET Invest Now และเข้าใจกลไกให้แน่นก่อนลงทุนจริง เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่ไม่จำเป็น

กลยุทธ์การตัดสินใจ: เมื่อไหร่ควรใช้ Call, เมื่อไหร่ควรใช้ Put?

การเลือก Call หรือ Put ขึ้นกับการพยากรณ์แนวโน้มตลาดและเป้าหมายการลงทุนของคุณเอง ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์ที่รอบคอบ

การคาดการณ์ตลาด: ทิศทางราคาคือหัวใจ

เมื่อไหร่ควรใช้ Call?

  • คาดว่าราคาหุ้นจะขึ้น: ถ้ามีมุมมองบวกต่อหุ้นหรือดัชนี และเชื่อว่าราคาจะเพิ่มชัดเจน
  • ต้องการเก็งกำไรขาขึ้น: ใช้ Call Option หรือ Call DW เพื่อขยายผลตอบแทนจากราคาขึ้น
  • ตัวอย่าง: ถ้ามีข่าวดีผลประกอบการ CPALL และคุณมั่นใจว่าราคาจะพุ่ง ลองซื้อ Call DW CPALL

เมื่อไหร่ควรใช้ Put?

  • คาดว่าราคาหุ้นจะลง: ถ้ามีมุมมองลบต่อหุ้นหรือดัชนี และเชื่อว่าราคาจะลด
  • ต้องการเก็งกำไรขาลง: ใช้ Put Option หรือ Put DW เพื่อรับกำไรจากราคาลด
  • ตัวอย่าง: ถ้ามีข่าวร้ายเศรษฐกิจโลกและคุณคิดว่า SET50 จะลง ซื้อ Put DW SET50 ก็ตอบโจทย์

การป้องกันความเสี่ยง (Hedging): บทบาทของ Put Option

นอกจากเก็งกำไร Put Option ยังใช้ hedging พอร์ตที่มีอยู่ได้ ถ้าคุณถือหุ้นเยอะและกังวลว่าราคาจะร่วงระยะสั้น ซื้อ Put Option อ้างอิงหุ้นนั้นๆ จะช่วย

มันเหมือนซื้อประกันให้พอร์ต ถ้าราคาหุ้นตกจริง กำไรจาก Put จะชดเชยขาดทุนจากหุ้น ทำให้ควบคุมความเสี่ยงขาลงได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องขายหุ้นจริง

Put-Call Ratio: ดัชนีชี้วัดอารมณ์ตลาดเบื้องต้น

Put-Call Ratio คือตัวชี้วัดความเชื่อมั่นจากปริมาณซื้อขาย Put เทียบ Call ในช่วงเวลาใดๆ

  • ค่า Ratio สูง: Put ซื้อมากกว่า Call แสดงความกลัวหรือมุมลบในตลาด
  • ค่า Ratio ต่ำ: Call ซื้อมากกว่า Put แสดงความมั่นใจหรือมุมบวก

เครื่องมือนี้ช่วยวิเคราะห์อารมณ์ตลาด แต่ไม่ควรใช้เดี่ยวๆ ควรรวมกับพื้นฐานและเทคนิคอื่นๆ ข้อมูล Option ใน TFEX ก็ช่วยวิเคราะห์ Ratio ได้ดี

ข้อควรพิจารณาและความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนไทย (สรุป)

การลงทุน Put Call ไม่ว่าจะ Option หรือ DW มีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นปกติ นักลงทุนไทยจึงต้องพิจารณาให้รอบด้านเพื่อความปลอดภัย

การบริหารความเสี่ยง: หัวใจสำคัญของการลงทุน Call Put

  • จำกัดเงินลงทุน: อย่าเอาเงินทั้งหมดมาเล่น ใช้เฉพาะส่วนที่ยอมเสียได้
  • ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss): กำหนดขีดจำกัดขาดทุนเพื่อหยุดความเสียหายถ้าทิศทางผิด
  • ศึกษาและทำความเข้าใจ: รู้กลไกและปัจจัยที่กระทบราคาให้ชัดเจน
  • ติดตามข่าวสาร: จับตาข่าวเศรษฐกิจ การเมือง และข่าวหุ้นอ้างอิงอย่างสม่ำเสมอ

ศึกษาข้อมูลและเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม

ก่อนลงทุนจริง ศึกษาจากแหล่งน่าเชื่อถือ และเลือกโบรกเกอร์ที่น่าไว้วางใจ มีเครื่องมือวิเคราะห์ DW หรือ Option ที่ใช้งานง่าย พร้อมบทวิเคราะห์สดใหม่

โบรกเกอร์ DW ในไทยมีหลายเจ้า เช่น บล.บัวหลวง (Bualuang) บล.เคจีไอ (KGI) บล.แมคควอรี (Macquarie) แพลตฟอร์มอย่าง Dime หรือ InnovestX ก็เป็นตัวเลือกดีสำหรับเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้

Put Call เป็นเครื่องมือทรงพลังสำหรับสร้างผลตอบแทนและจัดการความเสี่ยง ถ้ามีความรู้ถูกต้องและกลยุทธ์ดี ก็จะช่วยให้การลงทุนไทยของคุณก้าวหน้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Put Call (FAQ)

Put กับ Call ต่างกันยังไงแบบเข้าใจง่ายที่สุด?

สรุปง่ายๆ คือ:

  • Call: ซื้อสิทธิเพื่อ “ซื้อ” คาดว่าราคาจะ “ขึ้น”
  • Put: ซื้อสิทธิเพื่อ “ขาย” คาดว่าราคาจะ “ลง”

ลองคิดว่า Call เหมือนเดิมพันว่าสินค้าจะแพงขึ้น ส่วน Put คือเดิมพันว่าจะถูกลง

DW กับ Option เหมือนหรือต่างกันตรงไหน และเหมาะกับมือใหม่ไหม?

ความเหมือน: ทั้งคู่เป็นอนุพันธ์ให้สิทธิซื้อ/ขายสินทรัพย์อ้างอิง มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุ

ความต่าง:

  • DW: ออกโดยโบรกเกอร์ ซื้อขายใน SET เหมือนหุ้น มีอัตราทดสูง มีผู้ดูแลสภาพคล่อง
  • Option: ซื้อขายใน TFEX ซับซ้อนกว่า มีผู้ซื้อผู้ขายจริงๆ ไม่ใช่โบรกเกอร์ออก

สำหรับมือใหม่ DW เข้าถึงง่ายกว่า เพราะเล่นในตลาดหุ้นและมีผู้ดูแล แต่เสี่ยงสูง ต้องศึกษาดี ส่วน Option เหมาะกับคนมีประสบการณ์

ถ้าซื้อ Call DW แล้วหุ้นไม่ขึ้น จะขาดทุนเท่าไหร่?

ถ้าหุ้นอ้างอิงไม่ขึ้น หรือขึ้นไม่ถึงจุดคุ้มทุน หรือราคาลง ขาดทุนสูงสุดคือ “เงินค่าพรีเมียม (ราคา DW) ที่จ่ายทั้งหมด”

อีกทั้ง เวลาผ่านไป (Time Decay) ก็ทำให้มูลค่าลด แม้หุ้นนิ่งก็ตาม

ราคาพรีเมียมของ Put Call DW คำนวณมาจากอะไรบ้าง?

ราคาพรีเมียม (ราคา DW) มาจากปัจจัยหลักๆ เช่น:

  • ราคาหุ้นอ้างอิง: ราคาปัจจุบันของหุ้นที่ผูกติด
  • ราคาใช้สิทธิ (Strike Price): ราคากำหนดใน DW
  • วันหมดอายุ (Maturity Date): เวลาที่เหลือ ยิ่งน้อยพรีเมียมยิ่งต่ำ
  • ความผันผวนของหุ้นอ้างอิง (Implied Volatility): ผันผวนมาก พรีเมียมสูง
  • อัตราดอกเบี้ย: ผลน้อย
  • อัตราเงินปันผล: ผลน้อย

คำนวณด้วยโมเดลทางการเงินซับซ้อน

นักลงทุนไทยนิยมใช้ Put Call ในกลยุทธ์อะไรบ้าง?

นักลงทุนไทยชอบใช้ Put Call (โดยเฉพาะ DW) ในกลยุทธ์หลักๆ:

  • การเก็งกำไร (Speculation): ทำกำไรจากทิศทางราคาสั้น-กลาง ใช้ leverage
  • การป้องกันความเสี่ยง (Hedging): ซื้อ Put DW ป้องกันพอร์ตขาลง
  • สร้างผลตอบแทนตลาด Sideways: กลยุทธ์ซับซ้อนแต่ใช้ Call/Put สร้างรายได้ในตลาดนิ่ง

มีแหล่งข้อมูลหรือเครื่องมืออะไรบ้างที่ช่วยวิเคราะห์ Put Call DW ในตลาดไทย?

แหล่งและเครื่องมือวิเคราะห์ DW ในไทยมีหลายอย่าง:

  • เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET): ข้อมูล DW และบทความศึกษา
  • เว็บไซต์ผู้ออก DW: โบรกเกอร์อย่าง Bualuang KGI Macquarie มีข้อมูล DW ตารางราคา เครื่องมือคำนวณ
  • SET Invest Now: รวมความรู้การลงทุน
  • โปรแกรม Streaming: ข้อมูลราคา สถิติ DW
  • บทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์: คำแนะนำและวิเคราะห์ DW

ถ้าเราถือ Put Option ไว้ แล้วราคาหุ้นขึ้น จะเกิดอะไรขึ้น?

ถ้าถือ Put Option แล้วราคาหุ้น “ขึ้น” สวนทางคาด มูลค่า Put จะ “ลดลง”

ถ้าขึ้นสูงกว่าราคาใช้สิทธิมากและยังสูงถึงหมดอายุ Put จะไร้ค่า ขาดทุนเต็มพรีเมียม

การลงทุนใน Put Call มีความเสี่ยงอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษในตลาดหุ้นไทย?

ความเสี่ยงพิเศษในตลาดไทยสำหรับ Put Call (DW) คือ:

  • ความเสี่ยงด้านเวลา (Time Decay): มูลค่าลดทุกวัน ไม่ว่าหุ้นจะขยับไหม
  • ความผันผวนสูง: ราคา DW สวิงรุนแรง ขาดทุนเร็วถ้าผิดทาง
  • ความเสี่ยงของผู้ออก: ถ้าผู้ออกมีปัญหา สภาพคล่องกระทบ
  • ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอัตราทด: กำไรเยอะแต่ขาดทุนก็เยอะ
  • สภาพคล่อง: มีผู้ดูแลแต่บางทีซื้อขายไม่คล่อง

Put Call Ratio บอกอะไรกับเราได้บ้างเกี่ยวกับตลาด?

Put-Call Ratio ชี้ “อารมณ์นักลงทุน” ในตลาด

  • Ratio สูง: ซื้อ Put มากกว่า Call แสดงกังวลหรือมุมลบ (กลัวลง)
  • Ratio ต่ำ: ซื้อ Call มากกว่า Put แสดงมั่นใจหรือมุมบวก (คาดขึ้น)

แต่เป็นเครื่องมือเดียว ไม่ควรตัดสินใจจากมันอย่างเดียว เพราะตลาดอาจสวนทางอารมณ์大众

สามารถซื้อขาย Call Option และ Put Option ได้ที่ไหนในประเทศไทย?

ในไทย:

  • Derivative Warrant (DW): ซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ผ่านบัญชีหุ้นปกติ
  • Options (Futures & Options): ซื้อขายใน ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (TFEX) ต้องเปิดบัญชีอนุพันธ์กับโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาต

ทั้งสองตลาดต่างกัน ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขให้ดีก่อนเริ่ม

發佈留言