66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

สัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้า: วิกฤตราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาณถดถอยในปี 2025

Home / ข่าวตลาดเงิน / สัญ...

meetcinco_com | 25 6 月

สัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้า: วิกฤตราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาณถดถอยในปี 2025

ภาษีสหรัฐฯ เขย่าตลาดทองแดงโลก: วิกฤตราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาณถดถอย

สวัสดีนักลงทุนทุกท่านครับ ในโลกของการลงทุนที่ผันผวน การทำความเข้าใจปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อตลาดเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพูดถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้า ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาพเศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญกับคลื่นความผันผวนครั้งสำคัญที่เกิดจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ บทความนี้จะพาทุกท่านเจาะลึกถึงการที่นโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาทองแดงและโลหะพื้นฐานอื่นๆ รวมถึงวิเคราะห์ปฏิกิริยาของตลาดและสัญญาณเตือนของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนเหล่านี้

เราจะสำรวจข้อมูลเชิงลึก ตั้งแต่การดิ่งลงของราคาอย่างรุนแรงไปจนถึงมาตรการตอบโต้ของจีน และผลกระทบลูกโซ่ที่ขยายวงกว้างไปทั่วตลาดโลหะ เพื่อให้คุณในฐานะนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทาย และวางแผนการลงทุนได้อย่างมีข้อมูลและชาญฉลาด.

  • การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานของทองแดง
  • การติดตามนโยบายภาษีของประเทศผู้ส่งออกใหญ่
  • การวิเคราะห์ข่าวสารเศรษฐกิจจากตลาดหลักทั่วโลก

จุดเริ่มต้นของพายุ: นโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จุดชนวนความผันผวน

ทุกครั้งที่นโยบายทางการค้ามีการเปลี่ยนแปลง ตลาดการเงินย่อมตอบสนองอย่างรวดเร็วและรุนแรง และครั้งนี้ก็เช่นกัน นโยบายภาษีศุลกากรที่เข้มข้นขึ้นของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ริเริ่มโดยรัฐบาลทรัมป์ ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาในตลาดสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าและโลหะพื้นฐานอื่นๆ ทั่วโลก.

คุณอาจสงสัยว่าทำไมภาษีศุลกากรถึงมีผลกระทบต่อตลาดทองแดงมากขนาดนี้? คำตอบนั้นซับซ้อนแต่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ เมื่อสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะจีน นั่นหมายถึงต้นทุนการนำเข้าสินค้าเหล่านั้นจะสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการผลิตลดลงตามมา และเนื่องจากทองแดงเป็นโลหะสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ความต้องการทองแดงจึงลดลงเป็นลูกโซ่ และเมื่อความต้องการลดลง ราคาก็ย่อมลดตามหลักอุปสงค์และอุปทาน.

การแสดงภาพความผันผวนของตลาดทองแดงที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ในสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนมักจะเริ่มกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจโลก ความกังวลเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงทองแดง แต่ส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจับตามองตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์พร้อมกัน เมื่อข่าวเรื่องภาษีออกมาอย่างต่อเนื่อง ความไม่แน่นอนจะแผ่ซ่านไปทั่ว ทำให้เกิดความลังเลและเทขายสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ.

กลไกที่ซับซ้อน: ภาษีศุลกากรส่งผลต่อราคาทองแดงได้อย่างไรในเชิงลึก

เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบของภาษีศุลกากรที่มีต่อราคาทองแดง เราต้องพิจารณากลไกที่ซับซ้อนหลายประการ ประการแรกคือ ความคาดหวังต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ และจีนใช้มาตรการภาษีต่อกัน นักลงทุนจะมองว่านี่คือสัญญาณของความขัดแย้งทางการค้าที่อาจบานปลาย ซึ่งจะบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การคาดการณ์ที่มืดมิดนี้ทำให้ความต้องการโลหะพื้นฐาน เช่น ทองแดง ที่เป็นดัชนีสำคัญของการเติบโตอุตสาหกรรมลดลงในทันที

ประการที่สองคือ การทำลายห่วงโซ่อุปทาน การเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้สินค้าบางชนิดมีราคาแพงขึ้นและยากต่อการขนส่งข้ามพรมแดน สิ่งนี้อาจทำให้บริษัทต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนแหล่งวัตถุดิบหรือแหล่งผลิต ซึ่งนำไปสู่ความล่าช้าและต้นทุนที่สูงขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน การหยุดชะงักเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมที่พึ่งพาทองแดง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์หรืออิเล็กทรอนิกส์

การแสดงภาพความตึงเครียดทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองแดง

นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อ การเก็งกำไรในตลาด ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศนโยบายภาษี นักลงทุนจำนวนมากอาจเข้าถือสถานะในสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าโดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตและราคาจะปรับตัวสูงขึ้น แต่เมื่อมีข่าวภาษีออกมา นักลงทุนเหล่านี้ก็จำเป็นต้องปรับพอร์ตการลงทุนอย่างรวดเร็วเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งนำไปสู่การเทขายและทำให้ราคาทองแดงลดลงอย่างรุนแรง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการที่ราคา LME ทองแดงปิดต่ำลงและแตะระดับอ่อนแอที่สุดในรอบสองสัปดาห์ ขณะที่ทองแดง COMEX ก็ปรับตัวลงเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงปฏิกิริยาของตลาดที่รวดเร็วและรุนแรงต่อข่าวสารเหล่านี้

การทรุดตัวของราคาทองแดงครั้งประวัติศาสตร์: สัญญาณเตือนจาก LME และ COMEX

เราได้เห็นถึงพลังทำลายล้างของนโยบายการค้าที่มีต่อตลาดแล้ว และตัวเลขที่สะท้อนภาพชัดเจนที่สุดก็คือการดิ่งลงของสัญญาซื้อขายทองแดงสามเดือนของ LME ซึ่งลดลงถึง 6.26% ในวันที่ 4 เมษายน การลดลงในวันเดียวนั้นถือว่าเป็นการลดลงต่อวันที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การระบาดของ COVID-19 ในเดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกหยุดชะงักอย่างรุนแรง

ลองจินตนาการถึงความรู้สึกของนักลงทุนที่เห็นทองแดง ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญและมีมูลค่าสูง ลดลงในอัตราที่น่าตกใจเช่นนี้ สิ่งนี้ไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ความกังวลชั่วคราว แต่เป็นสัญญาณของความตื่นตระหนกในตลาด ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ราคาทองแดง LME ยังลดลงรวมกว่า 10% ภายในสัปดาห์นั้น บ่งชี้ว่าแรงขายไม่ได้เป็นเพียงปฏิกิริยาเริ่มต้น แต่เป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

การแสดงภาพปฏิกิริยาของนักลงทุนที่มีต่อข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายภาษี

ถึงแม้ว่าทองแดง COMEX ยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 23% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นแนวโน้มที่แตกต่างกัน แต่การลดลงอย่างรุนแรงในระยะสั้นของทองแดง LME ซึ่งเป็นตลาดอ้างอิงที่สำคัญระดับโลก ยังคงเป็นสัญญาณที่น่ากังวลต่อเสถียรภาพของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก การที่ตลาดหลักสองแห่งมีปฏิกิริยาตอบสนองต่างกัน อาจสะท้อนถึงพลวัตของตลาดที่ซับซ้อน และการรับรู้ความเสี่ยงที่แตกต่างกันตามปัจจัยเฉพาะของแต่ละตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแหล่งที่มาของอุปสงค์และอุปทาน หรือแม้แต่ลักษณะของผู้เล่นในตลาดเอง.

จีนตอบโต้: มาตรการภาษีและการควบคุมการส่งออกแร่หายาก

เมื่อสหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรที่เข้มข้นขึ้น ย่อมเป็นที่คาดการณ์ได้ว่าจีนในฐานะประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและการค้า จะไม่นิ่งเฉย และในที่สุดก็มีการตอบโต้กลับ การประกาศเก็บภาษีเพิ่มเติม 34% บนสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจีนพร้อมที่จะเผชิญหน้าในสงครามการค้าครั้งนี้

แต่มาตรการของจีนไม่ได้หยุดอยู่แค่ภาษีนำเข้าเท่านั้น ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการที่จีนได้เริ่มควบคุมการส่งออกแร่หายาก (rare earths) ซึ่งเป็นกลุ่มโลหะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงและการทหารทั่วโลก โดยจีนเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกแร่หายากรายใหญ่ที่สุดในโลก การควบคุมนี้รวมถึงการห้ามส่งออกสินค้าสองทางไปยัง 16 หน่วยงานของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการโจมตีจุดอ่อนในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยตรง

คุณลองคิดดูว่าหากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไม่สามารถเข้าถึงวัตถุดิบสำคัญเหล่านี้ได้ จะเกิดอะไรขึ้น? นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของทองแดงอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการเข้าถึงทรัพยากรพื้นฐานที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและเศรษฐกิจ การตอบโต้ของจีนไม่เพียงแต่สร้างความตึงเครียดทางการค้าให้ทวีความรุนแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลหะทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะขาดแคลนและราคาที่สูงขึ้นสำหรับแร่หายากบางชนิด แม้ว่าผลกระทบโดยตรงต่อทองแดงอาจไม่รุนแรงเท่า แต่ภาพรวมของตลาดโลหะทั้งระบบก็ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนนี้.

ความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและมุมมองของธนาคารกลาง

หนึ่งในผลกระทบที่น่ากังวลที่สุดจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศคือการเพิ่มขึ้นของโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan ได้เพิ่มโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกภายในสิ้นปีเป็น 60% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากและบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้ามได้

เมื่อเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองแดง ย่อมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการผลิตและการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ชะลอตัวลง นี่คือเหตุผลที่ราคาทองแดงมักถูกมองว่าเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาพของเศรษฐกิจโลก เพราะมันสะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม

แม้แต่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างเจอโรม พาวเวลล์ ก็ได้ออกมาแสดงความประหลาดใจต่อขอบเขตของนโยบายภาษีศุลกากรที่กว้างขวาง และยอมรับว่านโยบายเหล่านี้สร้างแรงกดดันและความไม่แน่นอนอย่างมากต่อภาคธุรกิจ ซึ่งทำให้การประเมินผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโดยรวมเป็นไปได้ยากขึ้น นี่เป็นสัญญาณที่น่าจับตา เพราะหากธนาคารกลางเองก็ยังกังวลกับสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนก็ควรที่จะต้องระมัดระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในตลาด

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเริ่มต้นการเทรดฟอเร็กซ์หรือสำรวจผลิตภัณฑ์ CFD ที่หลากหลายและต้องการแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ Moneta Markets เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจจากออสเตรเลีย ด้วยสินค้าทางการเงินกว่า 1000 รายการ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ ก็สามารถค้นหาสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้.

ผลกระทบลูกโซ่ต่อโลหะพื้นฐานอื่นๆ ในตลาด LME

วิกฤติราคาทองแดงที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่โลหะชนิดเดียว แต่ได้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังโลหะพื้นฐานอื่นๆ ในตลาดแลกเปลี่ยนโลหะลอนดอน (LME) เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียม นิกเกิล สังกะสี และตะกั่ว ต่างก็ประสบกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ประเภทโลหะ สาเหตุการลดลง
อะลูมิเนียม ลดลงอย่างรุนแรงจากความกังวลต่อความต้องการในภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง
นิกเกิล ราคาย่อตัวลงตามภาวะตลาดโดยรวมและความคาดการณ์ที่เศรษฐกิจจะชะลอตัว
สังกะสี ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงในภาคการก่อสร้างและอุตสาหกรรมยานยนต์
ตะกั่ว ก็ไม่รอดพ้นจากผลกระทบ โดยเฉพาะจากความกังวลเรื่องแบตเตอรี่และรถยนต์ที่ลดลง

สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค และตอกย้ำว่าวิกฤตที่เกิดจากนโยบายการค้านั้นส่งผลกระทบในวงกว้าง ไม่ใช่แค่เฉพาะสินค้าใดสินค้าหนึ่ง การที่โลหะหลายชนิดปรับตัวลดลงพร้อมกัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และความกังวลว่าความขัดแย้งทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจริงในวงกว้างมากขึ้น.

ตลาดที่แตกต่างกัน: COMEX ทองแดงยังคงแข็งแกร่งได้อย่างไร?

แม้ว่าทองแดง LME จะแสดงอาการอ่อนแรงอย่างชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือทองแดง COMEX ยังคงมีประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งด้วยการเพิ่มขึ้นกว่า 23% ตั้งแต่ต้นปี คุณอาจสงสัยว่าทำไมตลาดทั้งสองถึงมีแนวโน้มที่แตกต่างกันในบางช่วงเวลา?

ความแตกต่างนี้อาจบ่งชี้ถึงพลวัตของตลาดที่ซับซ้อนและการรับรู้ความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ปัจจัยหนึ่งอาจมาจากโครงสร้างของผู้เล่นในตลาดและความแตกต่างในข้อตกลงสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าของแต่ละตลาด รวมถึงแหล่งที่มาของอุปสงค์และอุปทานที่อาจไม่ทับซ้อนกันทั้งหมด

นอกจากนี้ มุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจแตกต่างจากเศรษฐกิจโลกโดยรวมก็อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง หากนักลงทุนในตลาด COMEX ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวหรือความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากกว่า พวกเขาก็อาจยังคงถือครองทองแดงไว้เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความแตกต่างนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาข้อมูลจากหลากหลายแหล่งและทำความเข้าใจถึงความเฉพาะเจาะจงของแต่ละตลาดที่คุณกำลังลงทุนอยู่เสมอ

ความสำคัญของการวิเคราะห์ PMI ภาคการผลิตและการเคลื่อนไหวตลาดจีน

เพื่อทำความเข้าใจทิศทางของราคาทองแดงและโลหะพื้นฐานอื่นๆ อย่างถ่องแท้ การติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) ของจีนถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจีนเป็นประเทศผู้บริโภคและผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุดในโลก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) และสมาพันธ์โลจิสติกส์แห่งประเทศจีน ได้เปิดเผยข้อมูล PMI ภาคการผลิตที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมภาคการผลิตที่ชะลอตัวลง นี่เป็นสัญญาณโดยตรงว่าความต้องการทองแดงในประเทศจีนอาจลดลง ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อราคาในตลาดโลก และในวันที่ 1 เมษายน CCTV News ก็รายงานว่ายอดส่งออกและการนำเข้าที่ลดลงบ่งชี้ถึงผลกระทบเชิงลบจากความขัดแย้งทางการค้าที่เกิดขึ้น

การเคลื่อนไหวของตลาดจีน เช่น ทองแดง SHFE และ นิกเกิล SHFE ก็เป็นสิ่งที่เราควรจับตาดูเช่นกัน เพราะมักจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางของตลาดโลหะทั่วโลก คุณควรพิจารณาข้อมูลเหล่านี้อย่างรอบด้าน เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนของคุณเอง.

ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องตระหนักในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์

ในฐานะนักลงทุน เราต้องย้ำเตือนกันอยู่เสมอว่าการซื้อขายตราสารทางการเงินและเงินดิจิทอลนั้นมีความเสี่ยงสูงต่อการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดหรือไม่บางส่วน และอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทุกคน คุณพร้อมที่จะรับความเสี่ยงนี้หรือไม่?

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองแดง ผันผวนอย่างรุนแรงจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือเหตุกรรมทางการเมือง ดังที่เราได้เห็นจากผลกระทบของนโยบายภาษีศุลกากร และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การซื้อขายด้วยมาร์จิน (Margin Trading) ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมันเพิ่มพลังการซื้อขายของคุณ แต่ก็เพิ่มขนาดการขาดทุนได้เช่นกัน หากคุณไม่มีความเข้าใจที่เพียงพอหรือไม่มีกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่ดีพอ การลงทุนประเภทนี้อาจนำไปสู่การสูญเสียเงินจำนวนมาก

ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนในสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าหรือสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ คุณควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณอย่างรอบคอบ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลและขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหากจำเป็น และอย่าลืมว่าข้อมูลราคาและข้อมูลประวัติศาสตร์ที่เรานำเสนอ แม้จะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตเสมอไป.

ในการเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขาย สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาความยืดหยุ่นและเทคโนโลยีที่ใช้ Moneta Markets รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4, MT5, Pro Trader และมาพร้อมกับการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วและสเปรดต่ำ เพื่อมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีเยี่ยมให้กับคุณ.

บทเรียนจากตลาด: ความไม่แน่นอนคือกุญแจสู่การวางแผนการลงทุน

สถานการณ์ปัจจุบันของตลาดสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าและโลหะพื้นฐานอื่นๆ สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกต่อความตึงเครียดทางการค้า การดำเนินนโยบายภาษีที่แข็งกร้าวระหว่างประเทศมหาอำนาจไม่เพียงแต่สร้างความผันผวนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ

ในฐานะนักลงทุน คุณไม่สามารถมองข้ามปัจจัยมหภาคเหล่านี้ได้ เพราะมันส่งผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าการลงทุนของคุณ บทเรียนสำคัญที่เราได้เรียนรู้จากวิกฤติราคาทองแดงครั้งนี้คือ ตลาดไม่เพียงตอบสนองต่ออุปสงค์และอุปทานพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจโลกด้วย

การติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด การทำความเข้าใจผลกระทบของนโยบายการค้าต่อห่วงโซ่อุปทาน และการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้าน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นนี้ และในท้ายที่สุด ความรู้และความเข้าใจที่ลึกซึ้งในหลักการเหล่านี้ จะเป็นอาวุธสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถนำทางในตลาดที่ผันผวนและสร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว.

หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีการกำกับดูแลและสามารถซื้อขายได้ทั่วโลก Moneta Markets มีการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง เช่น FSCA, ASIC, FSA พร้อมด้วยการดูแลเงินทุนแบบแยกบัญชี, บริการ VPS ฟรี, และฝ่ายบริการลูกค้าภาษาไทยตลอด 24/7 เพื่อให้มั่นใจว่าเงินลงทุนของคุณจะปลอดภัยและคุณจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่.

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้า

Q:นโยบายภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อราคาทองแดงอย่างไร?

A:นโยบายภาษีส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่การลดลงของDemand และราคาทองแดงตามมา.

Q:การตอบโต้ของจีนต่อภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ คืออะไร?

A:จีนได้ประกาศเก็บภาษีเพิ่มเติมและควบคุมการส่งออกแร่หายากเพื่อทำให้ตลาดมีความตึงเครียดมากขึ้น.

Q:การซื้อขายทองแดงมีความเสี่ยงอย่างไร?

A:การซื้อขายทองแดงมีความเสี่ยงจากการผันผวนของราคา และการสูญเสียจากการลงทุนที่อาจเกิดขึ้น.

發佈留言