1. Costco คืออะไร? ทำความเข้าใจโมเดลธุรกิจคลังสินค้าสมาชิก

Costco Wholesale Corporation หรือที่คนทั่วไปเรียกกันสั้นๆ ว่า Costco คือหนึ่งในยักษ์ใหญ่ของวงการค้าปลีกแบบคลังสินค้า warehouse club ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความแตกต่างที่ชัดเจนของ Costco จากร้านค้าปลีกทั่วไปอยู่ที่รูปแบบธุรกิจที่เน้นระบบสมาชิก โดยลูกค้าต้องจ่ายค่าสมาชิกรายปีเพื่อเข้าถึงสิทธิ์ในการซื้อสินค้าและบริการพิเศษ

หลักการสำคัญของ Costco คือการนำเสนอสินค้าคุณภาพดีในปริมาณมาก ด้วยราคาที่แข่งขันได้ โดยบริษัทลดต้นทุนจากการดำเนินงาน เช่น การจัดวางสินค้าในสไตล์คลังสินค้า การจำกัดจำนวนประเภทสินค้าที่ขาย หรือที่เรียกว่า SKU และการพึ่งพารายได้หลักจากค่าสมาชิก ซึ่งช่วยให้ Costco สามารถขายสินค้าในราคาต่ำกว่าคู่แข่งแต่ยังคงกำไรได้อย่างมั่นคง

อีกหนึ่งจุดเด่นคือแบรนด์สินค้าส่วนตัวที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ นั่นคือ Kirkland Signature ซึ่งครอบคลุมสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่ของกินของใช้ไปจนถึงสินค้าที่ยั่งยืน แบรนด์นี้ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ดัง แต่ราคาถูกกว่า ทำให้เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้าประจำและรักษาฐานลูกค้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

2. เส้นทางสู่ความสำเร็จ: ประวัติและวิวัฒนาการของ Costco

เรื่องราวของ Costco เริ่มต้นในปี 1983 เมื่อ James Sinegal และ Jeffrey Brotman ร่วมก่อตั้งบริษัท Costco Wholesale ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะสร้างรูปแบบค้าปลีกที่ขายสินค้าคุณภาพสูงในราคาถูก สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและสมาชิกทั่วไป

ก่อนหน้านั้น James Sinegal เคยทำงานกับ Sol Price ผู้ก่อตั้ง Price Club ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกโมเดลคลังสินค้าสมาชิกรายแรกในสหรัฐ ประสบการณ์เหล่านี้ได้หล่อหลอมแนวคิดให้ Sinegal สร้าง Costco ขึ้นมาให้แตกต่างและแข็งแกร่ง

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 1993 เมื่อ Costco ควบรวมกิจการกับ Price Club ส่งผลให้เกิด Price/Costco และเปลี่ยนชื่อเป็น Costco Wholesale Corporation ในปี 1997 การรวมตัวครั้งนี้ทำให้บริษัทขยายขนาดอย่างรวดเร็ว มีฐานสมาชิกที่แข็งแกร่ง และเครือข่ายสาขาที่กว้างไกล

หลังจากนั้น Costco ขยายสาขาไปทั่วโลก รวมถึงแคนาดา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย สเปน จีน และไอซ์แลนด์ การเติบโตนี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโมเดลธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่อยากได้สินค้าดีในราคาคุ้ม โดยเฉพาะในเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่ Costco ได้รับความนิยมสูงและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในการช้อปปิ้ง

3. เจาะลึกระบบสมาชิก Costco: ค่าธรรมเนียมและสิทธิประโยชน์

ระบบสมาชิกคือหัวใจหลักที่ทำให้ Costco แตกต่างและยั่งยืน ลูกค้าที่อยากเข้าถึงสินค้าและบริการต้องสมัครสมาชิกและจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีก่อน

ประเภทสมาชิกและค่าธรรมเนียม

Costco มีประเภทสมาชิกหลักที่ปรับตามแต่ละประเทศ แต่โดยทั่วไปแบ่งเป็น:

• Gold Star Membership: แพ็กเกจพื้นฐานสำหรับบุคคลทั่วไปที่ซื้อสินค้าเพื่อใช้ส่วนตัวหรือครอบครัว ค่าธรรมเนียมรายปีเริ่มต้นที่ระดับมาตรฐาน
• Executive Membership: แพ็กเกจพรีเมียมที่มีค่าธรรมเนียมสูงกว่า Gold Star แต่ให้สิทธิ์เพิ่มเติม เช่น รับเงินคืน 2% จากยอดซื้อที่เข้าเกณฑ์ สูงสุดถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าในสกุลเงินท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีส่วนลดพิเศษในบริการบางอย่าง
• Business Membership: สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ซื้อสินค้าเพื่อนำไปใช้หรือจำหน่ายต่อในกิจการของตน

สิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก

การเป็นสมาชิก Costco ไม่ใช่แค่เข้าไปซื้อของในคลัง แต่ยังรวมถึงสิทธิ์อื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่า เช่น:

• ราคาสินค้าพิเศษ: ซื้อสินค้าคุณภาพในราคาที่ถูกกว่าร้านทั่วไป โดยเฉพาะแพ็คใหญ่ที่เหมาะกับการใช้ยาวๆ
• สินค้าหลากหลาย: เข้าถึงสินค้าตั้งแต่ของสด ของใช้บ้าน อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า ไปจนถึงบริการเสริมอย่างศูนย์ยางรถยนต์ ร้านขายยา และปั๊มน้ำมันในบางสาขา
• แบรนด์ Kirkland Signature: สินค้าส่วนตัวคุณภาพสูงที่เชื่อถือได้
• โปรโมชั่นและส่วนลด: รับข้อมูลโปรโมชั่นพิเศษทางอีเมลหรือจดหมาย เพื่อช่วยประหยัดเพิ่มเติม

ถ้าไม่ใช่สมาชิก Costco ซื้อของได้ไหม?

ปกติแล้ว ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกเข้าไปซื้อในคลังไม่ได้โดยตรง แต่มีข้อยกเว้นบางอย่างที่ช่วยให้เข้าถึงได้:

• ใช้บัตรของขวัญ (Costco Shop Card): ถ้ามีบัตรของขวัญที่สมาชิกซื้อให้ สามารถใช้เข้าและซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องเป็นสมาชิก
• ซื้อสินค้าจากร้านขายยาหรือศูนย์ตรวจสายตา: ในบางประเทศและสาขา อนุญาตให้บุคคลทั่วไปใช้บริการเหล่านี้โดยไม่ต้องมีบัตร
• ซื้อสินค้าออนไลน์ (ในบางกรณี): เว็บไซต์ Costco.com ในบางประเทศอาจให้ผู้ไม่ใช่สมาชิกซื้อบางรายการได้ แต่จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม หรือจำกัดเฉพาะสมาชิก

สำหรับคนไทยที่ยังไม่มี Costco ในประเทศ การตัดสินใจจ่ายค่าสมาชิกควรพิจารณาจากโอกาสใช้งานจริง เช่น ถ้าท่องเที่ยวต่างประเทศบ่อยและอยากซื้อของจากที่นั่น การสมัครอาจคุ้มค่า แต่ถ้าไม่มีแผน การลงทุนนี้อาจไม่จำเป็นนัก

4. Costco ขายอะไรบ้าง? ส่องสินค้าคุณภาพและของดีที่ต้องมี

เสน่ห์อย่างหนึ่งของ Costco คือความหลากหลายของสินค้าที่ทำให้การช้อปปิ้งกลายเป็นประสบการณ์สนุกสนานและคาดเดาไม่ได้ว่าจะเจอของดีอะไรบ้าง สินค้าของที่นี่ครอบคลุมความต้องการในชีวิตประจำวันและของพิเศษหลายอย่าง โดยแบ่งหมวดหมู่หลักๆ ดังนี้:

• สินค้าอุปโภคบริโภค (Grocery & Food): หมวดใหญ่ที่สุด รวมอาหารสดอย่างเนื้อสัตว์ ผักผลไม้ นม ไข่ ชีส ขนมปังอบใหม่ อาหารแช่แข็ง สำเร็จรูป ขนม เครื่องดื่ม และสินค้าแห้ง ที่มักมาในแพ็คใหญ่ เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือร้านอาหาร
• ของใช้ในบ้านและสำนักงาน (Home & Office): ตั้งแต่กระดาษชำระ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ของส่วนตัว เครื่องเขียน เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์สำนักงาน
• เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics & Appliances): โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต เครื่องครัว ช่าง และอุปกรณ์กลางแจ้ง
• เสื้อผ้าและเครื่องประดับ (Apparel & Jewelry): แฟชั่นสำหรับทุกวัย เครื่องประดับ นาฬิกา และแว่นตา
• สุขภาพและความงาม (Health & Beauty): วิตามิน อาหารเสริม ยาไม่ต้องสั่ง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผม
• สินค้าตามฤดูกาลและสินค้าพิเศษ (Seasonal & Specialty Items): สินค้าพิเศษที่หมุนเวียน เช่น ของตกแต่งเทศกาล ของเล่น อุปกรณ์กีฬา หรือสินค้าหรูหรา
• บริการพิเศษ (Specialty Services): ในหลายสาขา มีบริการเสริมอย่างศูนย์ยาง ร้านยา ตรวจสายตา ปั๊มน้ำมัน และท่องเที่ยว

สิ่งที่โดดเด่นคือแบรนด์ Kirkland Signature สินค้าส่วนตัวของ Costco ที่มีคุณภาพสูงเทียบเท่าหรือเหนือกว่าแบรนด์พรีเมียม แต่ราคาถูกกว่ามาก ตัวอย่างยอดนิยม เช่น ถั่วรวม น้ำมันมะกอก กาแฟ วิตามิน เสื้อผ้า และวิสกี้ ซึ่งได้รับความชื่นชอบจากลูกค้าทั่วโลก

5. Costco ในประเทศไทย: โอกาส ความท้าทาย และข่าวลือที่ต้องรู้

คำถามที่คนไทยหลายคนสงสัยคือ Costco มีสาขาในประเทศไทยหรือยัง? จากข้อมูลล่าสุด Costco ยังไม่มีสาขาหรือคลังสินค้าอย่างเป็นทางการในไทย

ข่าวลือและการคาดการณ์

ตลอดหลายปี มีข่าวลือเกี่ยวกับการเข้ามาของ Costco ในไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะหลังจากประสบความสำเร็จในเพื่อนบ้านอย่างไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แต่ข่าวเหล่านี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากบริษัทหรือหน่วยงานไทย

โอกาสของ Costco ในตลาดไทย

ถ้า Costco เข้าตลาดไทยจริง โอกาสที่น่าสนใจมีหลายด้าน:

• กำลังซื้อของชนชั้นกลาง: กลุ่มนี้เติบโตและต้องการสินค้าดีราคาคุ้ม
• อิทธิพลของแบรนด์ต่างประเทศ: คนไทยชอบแบรนด์ต่างชาติ ทำให้อาจได้รับการต้อนรับดี
• ตลาดการท่องเที่ยว: นักท่องเที่ยวที่รู้จัก Costco อาจมาใช้บริการ รวมถึงคนไทยที่กลับจากต่างประเทศ
• ธุรกิจ SME: ร้านค้าและร้านอาหารขนาดย่อมอาจซื้อจำนวนมากเพื่อลดต้นทุน

ความท้าทายที่อาจเผชิญ

อย่างไรก็ตาม การเข้ามาในตลาดไทยมีอุปสรรคเช่นกัน:

• การแข่งขันที่รุนแรง: คู่แข่งอย่าง Makro Big C Lotus’s และ Tops มีสาขากว้างและเข้าใจพฤติกรรมคนไทยดี
• ต้นทุนที่ดินสูง: หาพื้นที่ใหญ่ในเมืองหลักมีค่าใช้จ่ายสูง
• พฤติกรรมการบริโภค: บางคนอาจไม่ชินกับซื้อจำนวนมากหรือจ่ายค่าสมาชิก
• การนำเข้าและภาษี: สินค้านำเข้าอาจมีต้นทุนภาษีสูง ทำให้แข่งขันกับสินค้าท้องถิ่นยาก

แม้ยังไม่มีสาขา แต่ความสนใจจากคนไทยยังสูง แสดงถึงศักยภาพในอนาคต

6. เปรียบเทียบ Costco กับ Makro: ใครเหมาะกับใครในมุมมองผู้บริโภคชาวไทย

ในไทย เมื่อพูดถึงคลังสินค้าแบบขายส่ง ชื่อ Makro มักมาเป็นอันดับแรกซึ่งครองตลาดมานาน การเปรียบเทียบ Costco กับ Makro จึงน่าสนใจสำหรับผู้บริโภคไทย เพื่อเห็นความต่างและเลือกตามความต้องการ

คุณสมบัติ	Costco	Makro (แม็คโคร)
โมเดลธุรกิจ	คลังสินค้าแบบสมาชิก (Membership Warehouse Club)	คลังสินค้าแบบขายส่ง (Wholesale Cash & Carry)
ระบบสมาชิก	จำเป็นต้องเป็นสมาชิกและจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีเพื่อเข้าซื้อสินค้า	ไม่ต้องมีบัตรสมาชิกสำหรับเข้าซื้อสินค้า (แต่บางโปรโมชั่นอาจต้องใช้บัตร)
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย	ธุรกิจขนาดเล็ก, ครอบครัวขนาดใหญ่, ผู้บริโภคที่เน้นซื้อของพรีเมียมคุณภาพสูงในปริมาณมาก	ธุรกิจร้านอาหาร, ร้านโชห่วย, ผู้ประกอบการรายย่อย, ครอบครัวที่ซื้อของใช้ประจำ
ประเภทสินค้าเด่น	สินค้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศ, สินค้าออร์แกนิก, สินค้าพรีเมียม, แบรนด์ Kirkland Signature	สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป, วัตถุดิบสำหรับธุรกิจอาหาร, สินค้าท้องถิ่น, แบรนด์ Aro
ราคาและคุณภาพ	เน้นคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า (จากค่าสมาชิก)	เน้นราคาส่งที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไป
ประสบการณ์ช้อปปิ้ง	บรรยากาศคลังสินค้า, “Treasure Hunt” (สินค้าพิเศษหมุนเวียน), บริการพิเศษหลากหลาย	บรรยากาศคลังสินค้า, เน้นประสิทธิภาพในการเลือกซื้อสินค้าปริมาณมาก
การขยายสาขาในไทย	ยังไม่มีสาขาในประเทศไทย	มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศและเข้าถึงง่าย

จากตารางชัดเจนว่าทั้งคู่คล้ายกันในฐานะคลังสินค้า แต่ต่างกันที่ระบบสมาชิกและสินค้าที่เด่น Makro เหมาะกับผู้ประกอบการและครอบครัวที่ต้องการราคาส่งและสินค้าทั่วไปที่หาง่ายในไทย ส่วน Costco ดึงดูดคนที่อยากได้สินค้านำเข้าพรีเมียมและยอมจ่ายค่าสมาชิกเพื่อสิทธิ์นั้น

สำหรับผู้บริโภคไทยตอนนี้ Makro เป็นทางเลือกที่สะดวกและตอบโจทย์การซื้อจำนวนมากดี แต่ถ้า Costco เข้ามาในอนาคต จะนำประสบการณ์ช้อปปิ้งและสินค้าที่แตกต่างไปอีกขั้น

7. ข้อควรระวังเมื่อพูดถึง Costco: ป้องกันมิจฉาชีพและสินค้าปลอม

ด้วยชื่อเสียงระดับโลก ชื่อ Costco มักถูกนำไปใช้หลอกลวง โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มีสาขาอย่างไทย ผู้บริโภคไทยจึงควรระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลให้ดี

ระวังมิจฉาชีพ (Costco มิจฉาชีพ)

มีรายงานการฉ้อโกงหลายรูปแบบที่อ้างชื่อ Costco เพื่อเอาเปรียบ:

• ข้อเสนอสมัครสมาชิกปลอม: มิจฉาชีพสร้างเว็บหรือเพจปลอมเพื่อเสนอสมัครสมาชิกในราคาถูกหรือฟรี หวังขโมยข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลส่วนตัว
• การหลอกลวงชิงโชคหรือของรางวัล: ส่งอีเมล SMS หรือข้อความอ้างว่าคุณถูกรางวัลหรือได้บัตรของขวัญ แล้วขอคลิกลิงก์หรือให้ข้อมูล
• เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซปลอม: สร้างไซต์เลียนแบบ Costco เพื่อขายสินค้าปลอมหรือที่ไม่มีจริง

วิธีตรวจสอบและป้องกัน

• ตรวจสอบแหล่งที่มา: ก่อนคลิกลิงก์หรือให้ข้อมูล ตรวจ URL หรือผู้ส่งว่ามาจากช่องทางอย่างเป็นทางการของ Costco เช่น costco.com หรือโดเมนประเทศนั้นๆ
• ระวังข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง: Costco ไม่เคยให้สมัครฟรีหรือรางวัลใหญ่ที่ต้องให้ข้อมูลผ่านลิงก์น่าสงสัย
• ซื้อสินค้าจากช่องทางที่เชื่อถือได้: ถ้าอยากซื้อในไทยโดยไม่มีสาขา ใช้ตัวแทนหรือร้านรับหิ้วที่น่าเชื่อถือ พร้อมหลักฐานซื้อจาก Costco โดยตรง
• ตรวจสอบสินค้า: เมื่อได้รับ สังเกตคุณภาพ บรรจุภัณฑ์ และฉลาก ถ้าสงสัยให้ถามผู้ขาย

การตื่นเต้นกับแบรนด์ดังเป็นเรื่องดี แต่การมีสติจะช่วยปกป้องตัวเองจากภัยได้ดีที่สุด

8. สรุป: Costco สำหรับนักลงทุนและผู้บริโภคชาวไทย

Costco ไม่ใช่แค่ร้านค้าปลีก แต่เป็นปรากฏการณ์ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยโมเดลคลังสินค้าสมาชิกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความคุ้มค่าและคุณภาพ การพึ่งพาค่าสมาชิกเป็นรายได้หลักช่วยให้บริษัทรักษากำไรและเติบโตยั่งยืนในตลาดโลก

สำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจหุ้น COST การเข้าใจโมเดลที่มั่นคง การบริหารที่มีประสิทธิภาพ และศักยภาพขยายสู่ตลาดใหม่ ถือเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจลงทุน โดยควรศึกษาข้อมูลการเงินและแนวโน้มตลาดให้ละเอียด

ส่วนผู้บริโภคไทย แม้ Costco ยังไม่มีสาขาในไทย แต่ความหวังในการเข้ามาของแบรนด์นี้ยังคงมีอยู่ การรู้จัก Costco จะช่วยเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเดินทางต่างประเทศ ใช้ตัวแทนรับหิ้ว หรือรอวันต้อนรับสาขาใหม่ในไทย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Costco (FAQ)

1. Costco ในไทยมีกี่สาขา? มีแผนจะเปิดที่ไหนบ้าง?

ปัจจุบัน Costco ยังไม่มีสาขาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และยังไม่มีการประกาศแผนการเปิดสาขาที่ชัดเจนจากบริษัทโดยตรง

2. ถ้าไม่ใช่สมาชิก Costco ซื้อของได้ไหม?

โดยทั่วไปแล้ว ไม่สามารถทำได้ ยกเว้นแต่จะใช้บัตรของขวัญ (Costco Shop Card) ที่ออกโดยสมาชิก หรือในบางสาขาอาจอนุญาตให้เข้าใช้บริการร้านขายยาหรือศูนย์ตรวจสายตาได้

3. ค่าสมาชิก Costco รายปีเท่าไหร่ และคุ้มค่าสำหรับคนไทยหรือไม่?

ค่าสมาชิกจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60-120 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี สำหรับคนไทยที่ไม่มีสาขาในประเทศ ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับความถี่ในการเดินทางไปต่างประเทศที่มี Costco หรือการใช้บริการรับหิ้วสินค้า หากใช้งานบ่อยก็อาจคุ้มค่า

4. Costco ขายอะไรบ้าง? มีสินค้าพิเศษที่หาซื้อที่อื่นไม่ได้ไหม?

Costco ขายสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่อาหารสด ของใช้ในบ้าน อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า ไปจนถึงบริการพิเศษ จุดเด่นคือสินค้าแบรนด์ Kirkland Signature ซึ่งเป็นแบรนด์ส่วนตัวของ Costco ที่มีคุณภาพสูงและราคาคุ้มค่า รวมถึงสินค้านำเข้าหายากบางรายการ

5. จะสมัครสมาชิก Costco ได้อย่างไร หากยังไม่มีสาขาในประเทศไทย?

หากคุณมีที่อยู่ถาวรในประเทศที่มี Costco คุณสามารถสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์หรือที่สาขาในประเทศนั้นๆ ได้โดยตรง แต่ถ้าไม่มีที่อยู่ต่างประเทศ ก็ยังไม่สามารถสมัครสมาชิกจากประเทศไทยได้โดยตรงในขณะนี้

6. Costco ของแท้ไหม? มีวิธีตรวจสอบสินค้าที่ซื้อจากช่องทางออนไลน์อย่างไร?

สินค้าที่ขายใน Costco สาขาจริงเป็นของแท้แน่นอน หากซื้อจากช่องทางออนไลน์หรือร้านรับหิ้ว ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ ฉลาก และคุณภาพของสินค้าอย่างละเอียด และขอหลักฐานการซื้อจาก Costco โดยตรง

7. การลงทุนในหุ้น Costco (COST) น่าสนใจอย่างไรสำหรับนักลงทุนไทย?

หุ้น Costco (COST) เป็นที่น่าสนใจเนื่องจากโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีฐานสมาชิกที่ภักดี การเติบโตของรายได้จากค่าสมาชิกที่มั่นคง และการขยายตัวในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลทางการเงินและแนวโน้มตลาดอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน

8. Costco แตกต่างจาก Makro อย่างไรในมุมมองของผู้บริโภค?

ความแตกต่างหลักคือ Costco เป็นระบบสมาชิกที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี และเน้นสินค้านำเข้าพรีเมียม รวมถึงแบรนด์ Kirkland Signature ขณะที่ Makro ไม่ต้องเป็นสมาชิก (ส่วนใหญ่) และเน้นสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปและวัตถุดิบสำหรับธุรกิจในราคาส่ง

9. หากไปเที่ยวต่างประเทศที่มี Costco ควรสมัครสมาชิกเพื่ออะไร?

หากคุณวางแผนจะซื้อสินค้าจำนวนมาก หรือต้องการเข้าถึงสินค้าพรีเมียมและแบรนด์ Kirkland Signature ในราคาพิเศษ การสมัครสมาชิกในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศที่มีสาขาจะคุ้มค่า โดยเฉพาะถ้าเป็น Executive Membership ที่มีสิทธิได้เงินคืน 2%

10. มีช่องทางไหนบ้างที่คนไทยจะสามารถซื้อสินค้าจาก Costco ได้?

ในขณะที่ไม่มีสาขาในไทย คนไทยสามารถซื้อสินค้าจาก Costco ได้ผ่าน:

• การเดินทางไปซื้อด้วยตนเองในประเทศที่มีสาขา
• การใช้บริการร้านรับหิ้วหรือพรีออเดอร์สินค้าจาก Costco ในต่างประเทศ
• การซื้อผ่านเว็บไซต์ Costco.com ของบางประเทศที่อาจอนุญาตให้จัดส่งระหว่างประเทศ หรือใช้บริการ Shipping Forwarder