มาร์เก็ตแคป คืออะไร? ทำไมนักลงทุนต้องรู้
มาร์เก็ตแคป หรือที่รู้จักกันในชื่อเต็มว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ถือเป็นตัวชี้วัดพื้นฐานที่นักลงทุนหลายคนให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในตลาดหุ้นหรือโลกของสกุลเงินดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซี ตัวเลขนี้แสดงถึงมูลค่ารวมทั้งหมดของบริษัทหรือสินทรัพย์ดิจิทัล โดยนำราคาขายปัจจุบันของหุ้นหรือเหรียญมาคูณกับจำนวนหุ้นหรือเหรียญที่กำลังหมุนเวียนอยู่ในตลาดจริงๆ

การทำความเข้าใจมาร์เก็ตแคปนั้นช่วยให้นักลงทุนมองเห็นภาพรวมของขนาดและความน่าเชื่อถือของบริษัทหรือโครงการคริปโตได้ตั้งแต่แรกเริ่ม บริษัทที่มีมูลค่านี้สูงมักจะเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดและเศรษฐกิจโดยรวม ในทางตรงกันข้าม บริษัทขนาดเล็กที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำอาจซ่อนโอกาสเติบโตที่สูงลิ่วไว้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การรู้จักมาร์เก็ตแคปจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลและมั่นใจมากขึ้น
วิธีคำนวณมาร์เก็ตแคป: เข้าใจง่ายใน 3 ขั้นตอน
การหาค่ามาร์เก็ตแคปนั้นไม่ซับซ้อนเลย เพียงใช้สูตรพื้นฐานที่ทุกคนสามารถลองคำนวณเองได้
มาร์เก็ตแคป = ราคาหุ้น (หรือราคาเหรียญ) x จำนวนหุ้น (หรือจำนวนเหรียญ) ที่ซื้อขายได้ในตลาด
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาดูขั้นตอนละเอียดพร้อมตัวอย่างจริงกัน

- กำหนดราคาปัจจุบันของสินทรัพย์: สำหรับหุ้นคือราคาล่าสุดที่ซื้อขายในตลาดต่อหน่วยหนึ่งหุ้น ส่วนคริปโตคือราคาต่อเหรียญในขณะนั้น
- ตรวจสอบจำนวนหุ้นหรือเหรียญที่หมุนเวียน: นับเฉพาะหุ้นที่บริษัทปล่อยออกมาและอยู่ในมือนักลงทุนจริงๆ ซึ่งต่างจากจำนวนรวมทั้งหมด โดยเฉพาะในคริปโตที่อาจมีเหรียญที่ยังล็อกไว้ไม่ปล่อยสู่ตลาด
- คูณค่าทั้งสอง: ผลลัพธ์ที่ได้คือมาร์เก็ตแคป ซึ่งบอกถึงมูลค่ารวมของสินทรัพย์นั้นในตลาด
ตัวอย่างการคำนวณจริง:
- ตลาดหุ้น: สมมติบริษัท A มีราคาหุ้นละ 100 บาท และมีหุ้นหมุนเวียน 1,000,000 หุ้น ผลคือ 100 x 1,000,000 = 100,000,000 บาท
- ตลาดคริปโต: ถ้า Bitcoin ราคา 1,000,000 บาทต่อเหรียญ และมี Bitcoin หมุนเวียน 19,500,000 เหรียญ ผลคือ 1,000,000 x 19,500,000 = 19,500,000,000,000 บาท
ด้วยวิธีนี้ นักลงทุนสามารถประเมินขนาดของสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วและเห็นภาพรวมตลาดได้ทันที โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์มีให้เข้าถึงง่าย
ความสำคัญของมาร์เก็ตแคปในการลงทุน
มาร์เก็ตแคปไม่ได้แค่บอกขนาดของบริษัทหรือสินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยตัดสินใจลงทุนในหลายแง่มุม ทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บ่งบอกขนาดและความมั่นคงของบริษัท
บริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปสูงมักจะเป็นองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำเพราะมีฐานะมั่นคง แต่บริษัทขนาดเล็กกับมาร์เก็ตแคปต่ำอาจกำลังอยู่ในเฟสขยายตัว ซึ่งเปิดโอกาสให้เติบโตแบบก้าวกระโดด แม้จะมีความไม่แน่นอนมากกว่า
ใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดกลุ่มหุ้น
มาร์เก็ตแคปเป็นตัวแบ่งประเภทหุ้นหลักๆ เพื่อให้นักลงทุนเลือกกลยุทธ์ที่ตรงกับระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ต้องการ โดยทั่วไปแบ่งเป็นสามกลุ่มใหญ่
ประเภทมาร์เก็ตแคป | ช่วงมูลค่า (โดยประมาณในตลาด SET) | ลักษณะเด่น | สไตล์การลงทุน |
---|---|---|---|
Large Cap (หุ้นขนาดใหญ่) | มากกว่า 100,000 ล้านบาท | มั่นคง, เติบโตช้าแต่สม่ำเสมอ, สภาพคล่องสูง, ทนทานต่อวิกฤต | เน้นคุณค่า, ระยะยาว, ปลอดภัย |
Mid Cap (หุ้นขนาดกลาง) | 10,000 – 100,000 ล้านบาท | มีศักยภาพเติบโต, สภาพคล่องปานกลาง, ผลตอบแทนสูงกว่า Large Cap | เน้นเติบโต, ผสมผสาน |
Small Cap (หุ้นขนาดเล็ก) | น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท | ศักยภาพเติบโตสูง, ผันผวนสูง, สภาพคล่องต่ำ, อาจมีข้อมูลจำกัด | เน้นเติบโตสูง, เก็งกำไร, รับความเสี่ยงสูง |
ส่งผลต่อสภาพคล่องและศักยภาพการเติบโต
มาร์เก็ตแคปเชื่อมโยงโดยตรงกับความง่ายในการซื้อขายและโอกาสขยายตัวของสินทรัพย์
- สภาพคล่อง: สินทรัพย์มาร์เก็ตแคปสูงมักซื้อขายได้ง่ายและราคาไม่แกว่งมาก เพราะมีปริมาณการแลกเปลี่ยนสูง ในขณะที่ขนาดเล็กอาจซื้อขายลำบากและราคาเปลี่ยนแปลงรุนแรง
- ศักยภาพการเติบโต: บริษัทเล็กมักมีพื้นที่ขยายตัวมากกว่าใหญ่ที่อาจถึงจุดอิ่มตัว แต่ความเสี่ยงก็ตามมาด้วยเสมอ
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง
มาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้นไทย: SET และบทบาทสำคัญ
ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET มาร์เก็ตแคปมีบทบาทหลักในการจัดประเภทและวิเคราะห์หุ้นบริษัทจดทะเบียน ทำให้การศึกษาข้อมูลเป็นระบบและเปรียบเทียบได้ง่าย
ตลาดฯ ใช้มาร์เก็ตแคปคำนวณดัชนีสำคัญๆ เช่น SET50 และ SET100 ซึ่งรวมหุ้นใหญ่ที่มีสภาพคล่องดี สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจไทยได้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวน
ตัวอย่างบริษัทไทยมาร์เก็ตแคปใหญ่:
- PTT (บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)): กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
- AOT (บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)): กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์
- CPALL (บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)): กลุ่มพาณิชย์และค้าปลีก
นักลงทุนไทยเข้าถึงข้อมูลมาร์เก็ตแคปหุ้นได้สะดวกผ่านเว็บไซต์ www.set.or.th หรือแอปจากโบรกเกอร์อย่าง InnovestX และ Streaming ที่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ติดตามการเคลื่อนไหวได้ทันเหตุการณ์
มาร์เก็ตแคปในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี: ความแตกต่างที่ต้องรู้
ในโลกคริปโต มาร์เก็ตแคปก็สำคัญไม่แพ้หุ้น แต่มีรายละเอียดเฉพาะที่นักลงทุนควรทราบเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด
ความพิเศษของมาร์เก็ตแคปคริปโต
การคำนวณมาร์เก็ตแคปคริปโตมักใช้ Circulating Supply หรือจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนจริง ซึ่งต่างจาก Total Supply ที่รวมเหรียญทั้งหมดที่สร้างขึ้น วิธีนี้ทำให้ตัวเลขสะท้อนตลาดจริงมากกว่า โดยเฉพาะโครงการที่ยังมีเหรียญล็อกไว้รอปล่อย
เปรียบเทียบมาร์เก็ตแคปหุ้น vs. คริปโต
แม้หลักการคล้ายกัน แต่ตลาดที่ต่างทำให้มาร์เก็ตแคปมีความหมายต่างออกไป
คุณสมบัติ | มาร์เก็ตแคปหุ้น | มาร์เก็ตแคปคริปโต |
---|---|---|
สินทรัพย์อ้างอิง | บริษัทที่มีผลประกอบการ, สินทรัพย์, หนี้สิน | โปรเจกต์เทคโนโลยี, เครือข่าย, อุปทาน/อุปสงค์ |
ความผันผวน | ปานกลางถึงต่ำ (โดยเฉพาะ Large Cap) | สูงมาก (โดยเฉพาะเหรียญขนาดเล็ก) |
ตลาด/หน่วยงานกำกับ | ตลาดหลักทรัพย์, กลต. | ตลาดดิจิทัล, ยังไม่มีกฎหมายรองรับเต็มรูปแบบในหลายประเทศ |
ข้อมูลที่ใช้คำนวณ | ราคาหุ้น x จำนวนหุ้นหมุนเวียน | ราคาเหรียญ x Circulating Supply |
เครื่องมือและแพลตฟอร์มสำหรับคริปโต
เว็บไซต์อย่าง CoinMarketCap.com เป็นแหล่งข้อมูลหลักสำหรับมาร์เก็ตแคปและรายละเอียดคริปโตทั่วโลก
ในไทย แพลตฟอร์มอย่าง Bitkub ก็แสดงมาร์เก็ตแคปของเหรียญที่เทรดได้ ช่วยประเมินความน่าเชื่อถือเบื้องต้น แต่ต้องจำไว้ว่าตลาดคริปโตผันผวนสูง ควรใช้คู่กับการวิเคราะห์อื่นๆ เช่น แนวโน้มเทคโนโลยีและข่าวสารล่าสุด เพื่อตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ข้อจำกัดและข้อควรระวังในการใช้มาร์เก็ตแคป
ถึงมาร์เก็ตแคปจะมีประโยชน์ แต่ก็มีจุดอ่อนที่นักลงทุนไทยควรตระหนัก เพื่อไม่ให้พลาดท่าในการลงทุน
มาร์เก็ตแคปไม่ได้บอกถึงมูลค่าที่แท้จริงทั้งหมด
ตัวเลขนี้สะท้อนราคาตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งอาจไม่ตรงกับมูลค่าจริงของบริษัท เนื่องจากราคาอาจถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์นักลงทุน การเก็งกำไร หรือข่าวลือ มาร์เก็ตแคปไม่ครอบคลุมปัจจัยอย่างหนี้สินหรือสินทรัพย์สำรอง ทำให้ต้องใช้เครื่องมืออื่นเสริม
ไม่รวมหนี้สินและเงินสด: ทำความรู้จัก Enterprise Value (EV)
เพื่อชดเชยจุดนี้ นักวิเคราะห์ใช้ Enterprise Value หรือ EV ซึ่งคำนวณมูลค่ากิจการแบบครบถ้วนกว่า
Enterprise Value (EV) = มาร์เก็ตแคป + หนี้สินทั้งหมด – เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
EV ช่วยให้เห็นภาพมูลค่าที่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบบริษัทที่มีโครงสร้างการเงินต่างกัน เช่น บริษัทที่มีหนี้สูงแต่มีเงินสดเหลือเฟือ
การปั่นราคาและสภาพคล่องเทียมในตลาดคริปโต
ในคริปโตขนาดเล็ก นักลงทุนต้องระวังเป็นพิเศษเพราะเสี่ยงต่อ
- การปั่นราคา: กลุ่มบุคคลอาจรวมตัวผลักราคาขึ้นสูงก่อนเทขาย ทำให้ผู้ตามขาดทุนหนัก
- สภาพคล่องเทียม: ปริมาณซื้อขายสูงอาจเป็นภาพลวงจากธุรกรรมปลอม ทำให้มาร์เก็ตแคปดูดีเกินจริง
ดังนั้น อย่าพึ่งมาร์เก็ตแคปอย่างเดียว ควรตรวจสอบเทคโนโลยี ทีมพัฒนา โรดแมป และปริมาณเทรดจริง เพื่อลดความเสี่ยง
สรุป: มาร์เก็ตแคป เครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุน
มาร์เก็ตแคปคือมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ที่เป็นเครื่องมือพื้นฐานแต่ทรงพลัง ช่วยให้นักลงทุนวัดขนาดและอิทธิพลของบริษัทหรือสินทรัพย์ดิจิทัล การรู้วิธีคำนวณ การแบ่งกลุ่ม และบทบาทในตลาดหุ้นไทยกับคริปโต เป็นกุญแจสู่การลงทุนที่ชาญฉลาด
แต่จำไว้ว่า มาร์เก็ตแคปเป็นเพียงจุดเริ่มต้น นักลงทุนควรรวมกับข้อมูลอื่นๆ เช่น ผลประกอบการ กระแสเงินสด และปัจจัยคุณภาพ เพื่อภาพรวมที่สมบูรณ์ ก่อนลงทุนจริง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสผลตอบแทนระยะยาว โดยเฉพาะในตลาดที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมาร์เก็ตแคป
มาร์เก็ตแคป คิดยังไง? มีตัวอย่างการคำนวณจริงไหม?
มาร์เก็ตแคปคำนวณจากสูตร: ราคาหุ้น (หรือราคาเหรียญ) x จำนวนหุ้น (หรือจำนวนเหรียญ) ที่ซื้อขายได้ในตลาด ตัวอย่างเช่น หากหุ้น PTT มีราคา 35 บาท และมีหุ้นหมุนเวียน 28,500 ล้านหุ้น มาร์เก็ตแคปจะอยู่ที่ประมาณ 997,500 ล้านบาท (35 x 28,500,000,000) ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลหุ้นจริงได้จาก เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Market cap สูงดีไหม? หรือหุ้น/คริปโตที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำกว่าน่าสนใจกว่า?
Market cap สูงมักบ่งบอกถึงความมั่นคง สภาพคล่องสูง และเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มักจะเติบโตช้าแต่สม่ำเสมอ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยและผลตอบแทนที่คงที่
ในทางกลับกัน Market cap ต่ำมักหมายถึงบริษัทหรือเหรียญคริปโตขนาดเล็กที่มีศักยภาพการเติบโตสูงกว่ามาก แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงกว่าเช่นกัน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและมองหาโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดด ไม่มีคำว่า “ดีกว่า” หรือ “น่าสนใจกว่า” ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล
มาร์เก็ตแคป ตลาดหุ้นไทย กับมาร์เก็ตแคปคริปโต ต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างหลักอยู่ที่ สินทรัพย์อ้างอิง และ ลักษณะตลาด
- ตลาดหุ้นไทย: มาร์เก็ตแคปอ้างอิงจากมูลค่าของบริษัทที่มีผลประกอบการจริง มีสินทรัพย์และหนี้สินที่จับต้องได้ มีกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่า
- ตลาดคริปโต: มาร์เก็ตแคปอ้างอิงจากโปรเจกต์เทคโนโลยี เครือข่าย และอุปทาน/อุปสงค์ในตลาดดิจิทัล มีความผันผวนสูงกว่ามาก และยังไม่มีกฎหมายรองรับเต็มรูปแบบในหลายประเทศ
นอกจากนี้ ในคริปโตมักใช้ “Circulating Supply” ในการคำนวณ ซึ่งอาจต่างจาก “Total Supply” ของเหรียญทั้งหมด
นักลงทุนสามารถดูมาร์เก็ตแคปหุ้นไทยและคริปโตได้จากที่ไหนบ้าง?
- หุ้นไทย: สามารถดูได้จากเว็บไซต์ทางการของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือผ่านแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้นของโบรกเกอร์ต่างๆ เช่น Streaming, InnovestX
- คริปโต: แพลตฟอร์มยอดนิยมระดับโลกคือ CoinMarketCap.com และ CoinGecko.com สำหรับในประเทศไทย สามารถดูข้อมูลได้จากแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เช่น Bitkub, Satang Pro
มาร์เก็ตแคปบอกอะไรเราได้บ้าง และมีข้อจำกัดอะไรที่ไม่ควรมองข้าม?
มาร์เก็ตแคปบอกถึง ขนาด และ อิทธิพล ของบริษัทหรือสินทรัพย์ในตลาด รวมถึงบอกถึง สภาพคล่อง และ ศักยภาพการเติบโต โดยอ้อม (หุ้นขนาดเล็กมีโอกาสเติบโตสูงกว่าแต่เสี่ยงกว่า)
ข้อจำกัดที่สำคัญคือ มาร์เก็ตแคปเป็นเพียง มูลค่าราคาตลาด ซึ่งอาจไม่สะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริงทั้งหมด และไม่รวมปัจจัยสำคัญอย่างหนี้สินหรือเงินสดของบริษัท นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการปั่นราคาและสภาพคล่องเทียม โดยเฉพาะในตลาดคริปโตขนาดเล็ก
การลงทุนในหุ้น Small Cap มีความเสี่ยงและผลตอบแทนต่างจาก Large Cap อย่างไรในตลาด SET?
- Small Cap (หุ้นขนาดเล็ก):
- ความเสี่ยง: สูงกว่ามาก เนื่องจากมีขนาดเล็กกว่า มีความผันผวนของราคาสูง สภาพคล่องต่ำกว่า และอาจมีข้อมูลที่เปิดเผยน้อยกว่า
- ผลตอบแทน: มีศักยภาพในการเติบโตที่สูงกว่ามาก หากบริษัทประสบความสำเร็จ อาจให้ผลตอบแทนที่ก้าวกระโดด
- Large Cap (หุ้นขนาดใหญ่):
- ความเสี่ยง: ต่ำกว่า เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงสูง มีสภาพคล่องสูง และทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจผันผวนได้ดีกว่า
- ผลตอบแทน: มักจะเติบโตอย่างสม่ำเสมอแต่ช้ากว่า Small Cap เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงและผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้
มาร์เก็ตแคปของเหรียญคริปโตเล็กๆ บน Bitkub ควรระวังอะไรเป็นพิเศษ?
สำหรับเหรียญคริปโตที่มีมาร์เก็ตแคปเล็กๆ บนแพลตฟอร์มเช่น Bitkub นักลงทุนควรระวังเป็นพิเศษเรื่อง ความผันผวนของราคา ที่สูงมาก สภาพคล่องที่อาจต่ำ ทำให้ซื้อขายได้ยาก และ ความเสี่ยงจากการปั่นราคา (Pump and Dump) ที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าในเหรียญขนาดใหญ่ ควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานของโปรเจกต์อย่างละเอียด ทีมงาน และวัตถุประสงค์ของเหรียญ ก่อนตัดสินใจลงทุน และไม่ควรลงทุนเกินกว่าที่ตนเองจะรับความเสียหายได้