66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

อัตราดอกเบี้ยและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: ทำความเข้าใจอัตราดอกเบี้ยของไทย

Home / ห้องเรียนฟอเร็กซ์ / อัต...

meetcinco_com | 20 9 月

อัตราดอกเบี้ยและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: ทำความเข้าใจอัตราดอกเบี้ยของไทย

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร? เข้าใจเครื่องมือควบคุมเศรษฐกิจหลักของธนาคารกลาง

ในโลกของเศรษฐกิจมหภาค คำว่า “กนง. คงดอกเบี้ย” หรือ “เฟดส่งสัญญาณขยับอัตราดอกเบี้ย” กลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในข่าว โซเชียลมีเดีย และวงสนทนาของนักลงทุน แต่หลายคนยังคงตั้งคำถามว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ว่ากันนี้ จริงๆ แล้วคืออะไร และเหตุใดการเปลี่ยนแปลงเพียง 0.25% จึงส่งผลต่อชีวิตเราได้ทั้งเรื่องค่าผ่อนบ้าน ดอกเบี้ยเงินฝาก ไปจนถึงการลงทุนในหุ้นและกองทุน

หากมองเศรษฐกิจประเทศเป็นเหมือนเครื่องยนต์ของรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยนโยบายก็คือกลไกควบคุมความเร็วที่ธนาคารกลางใช้ปรับจูนให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่วิ่งเร็วเกินจนร้อนเครื่อง หรือช้าจนติดขัด มันคืออัตราดอกเบี้ยต้นทุนที่ธนาคารกลางเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์เมื่อกู้ยืมเงินผ่านระบบการเงินระยะสั้น เช่น ข้อตกลงซื้อคืน (Repo) ซึ่งจะถูกส่งผ่านเป็นต้นทุนให้กับอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดกับลูกค้าในรูปแบบของดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้

ในประเทศไทย ผู้มีอำนาจตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยนโยบายคือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ภายใต้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งประชุมกันประมาณ 8 ครั้งต่อปี โดยพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค ทั้งอัตราเงินเฟ้อ การเติบโตทาง GDP การส่งออก และภาวะตลาดแรงงาน เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ

illustration of economic policy meeting

เหตุผลที่ธนาคารกลางต้องขยับดอกเบี้ย: ควบคุมเงินเฟ้อและกระตุ้นเศรษฐกิจ

เป้าหมายหลักของการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่ใช่เพื่อสร้างกำไรให้ธนาคาร แต่เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านเงินเฟ้อ การว่างงาน และการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุม “เงินเฟ้อ” ที่เป็นตัวบั่นทอนมูลค่าของเงินในกระเป๋าเราทุกวัน หากอัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป หมายถึงราคาสินค้าและบริการทุกอย่างพุ่งสูงขึ้น แม้เงินในมือจะเท่าเดิม แต่ซื้อของได้น้อยลงทุกที

  • ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อ “เบรกเศรษฐกิจ”:** เมื่อเศรษฐกิจกำลังร้อนแรงเกินไป ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยหนัก ความต้องการสินค้าเกินอุปทาน จนเสี่ยงต่อเงินเฟ้อพุ่ง กนง. จะพิจารณาขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น เพื่อเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมให้กับภาคธุรกิจและประชาชน ส่งผลให้การใช้จ่ายและการลงทุนชะลอตัวลง อุปสงค์โดยรวมลดลง ช่วยให้แรงกดดันด้านราคาผ่อนคลายลง
  • ลดดอกเบี้ยเพื่อ “เร่งเครื่อง”:** ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวหรือถดถอย การบริโภคและการลงทุนหดตัว การจ้างงานลดลง กนง. อาจใช้มาตรการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้การกู้ยืมถูกลง กระตุ้นให้บริษัทลงทุน ผู้บริโภคกล้าซื้อทรัพย์สิน เช่น บ้าน รถยนต์ หรือใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว

อัตราดอกเบี้ยกระทบชีวิตจริงของเราอย่างไร?

การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่เรื่องไกลตัว มันแทรกซึมเข้าไปในทุกมุมของชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ออม ผู้กู้ หรือผู้ลงทุน ต่างได้รับผลกระทบโดยตรง

ผลกระทบต่อคนมีเงินออม

เมื่อกนง. ขยับดอกเบี้ยขึ้น ธนาคารพาณิชย์มักจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตาม ทำให้ผู้ที่ออมเงินในบัญชีประจำหรือซีดีได้รับผลตอบแทนมากขึ้น ถือเป็นข่าวดี โดยเฉพาะในช่วงที่เงินเฟ้อสูง เพราะการได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจช่วยให้มูลค่าเงินออมไม่ลดค่าเร็วเท่าราคาสินค้า แต่ในทางกลับกัน หากดอกเบี้ยลดลง ผลตอบแทนจากการออมก็หดหาย แม้เงินต้นจะเท่าเดิม แต่ “มูลค่าที่แท้จริง” ของเงินนั้นอาจถูกลดทอนจากเงินเฟ้อได้

ผลกระทบที่คนมีหนี้ต้องรู้

สำหรับผู้ที่มีหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล หรือหนี้บัตรเครดิต การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลให้ธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามไปด้วย ทำให้ “ค่างวดรายเดือน” สูงขึ้น แม้เงินต้นจะเท่าเดิม แต่ภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น อาจส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน ในทางกลับกัน การลดดอกเบี้ยคือโอกาสทองสำหรับผู้มีหนี้ เพราะค่าผ่อนจะเบาลง และอาจช่วยให้มีเงินเหลือสำหรับการออมหรือลงทุนเพิ่ม

concept of interest rates affecting daily life

อัตราดอกเบี้ยและตลาดการเงิน: นักลงทุนต้องจับตาทุกการขยับ

ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่นักลงทุนระดับโลกต้องติดตาม เพราะมันมีผลต่อราคาสินทรัพย์แทบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร หรือแม้แต่สินทรัพย์ดิจิทัล

ตลาดหุ้นตอบสนองอย่างไรเมื่อดอกเบี้ยเปลี่ยน?

โดยทั่วไป เมื่ออัตราดอกเบี้ยขึ้น ตลาดหุ้นมักตอบรับในเชิงลบจากสองมุมมองหลัก ประการแรก ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อกำไร (Earnings) โดยตรง โดยเฉพาะบริษัทที่มีหนี้สูง ประการที่สอง นักลงทุนเริ่มเทขายหุ้นเพื่อย้ายเงินไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยที่ให้ผลตอบแทนดีขึ้น เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินฝาก ทำให้แรงซื้อหุ้นลดลง ตรงกันข้าม เมื่อดอกเบี้ยลดลง ต้นทุนการเงินของบริษัทต่ำลง ทำให้กำไรดีขึ้น ในขณะเดียวกัน การลงทุนในหุ้นก็ดูน่าสนใจมากกว่าการออมทั่วไป ส่งผลให้แรงซื้อในตลาดหุ้นกลับมาคึกคัก

พันธบัตรและตราสารหนี้: ความสัมพันธ์แบบกลับทาง

ราคาพันธบัตรมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับอัตราดอกเบี้ยในตลาด กล่าวคือ เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น พันธบัตรใหม่ที่ออกจะเสนอผลตอบแทน (yield) สูงกว่า ทำให้พันธบัตรรุ่นเก่าที่ให้ดอกเบี้ยต่ำดูไม่น่าสนใจ ราคาจึงตก นักลงทุนที่ถือพันธบัตรระยะยาวอาจเผชิญกับการขาดทุนจากมูลค่าตลาด แต่ในทางกลับกัน เมื่อดอกเบี้ยลดลง พันธบัตรรุ่นเก่าที่ให้ดอกเบี้ยสูงกลับกลายเป็นที่ต้องการ ราคาจึงพุ่งสูงขึ้น

ปรับพอร์ตอย่างชาญฉลาดตามวัฏจักรดอกเบี้ย

การเข้าใจวัฏจักรดอกเบี้ยช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงที เช่น ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น อาจพิจารณาหุ้นกลุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่ทนต่อเงินเฟ้อ (inflation hedge) เช่น ทองคำ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือหุ้นพลังงาน ในขณะที่ช่วงดอกเบี้ยขาลง เป็นโอกาสทองในการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเติบโต (Growth Stocks) ที่มีมูลค่าปัจจุบันต่ำ หรือซื้อพันธบัตรระยะยาวเพื่อล็อกผลตอบแทนในระดับสูงไว้ล่วงหน้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนในสภาวะต่างๆ สามารถศึกษาได้จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นักลงทุนระดับสากลหลายคนยังหันมาให้ความสนใจแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์และเครื่องมือวิเคราะห์ครบวงจร เช่น Moneta Markets ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามทิศทางดอกเบี้ยทั้งในและต่างประเทศ วิเคราะห์ผลกระทบต่อสินทรัพย์ต่างๆ และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน

สถานการณ์ ผลกระทบต่อผู้มีเงินออม ผลกระทบต่อผู้มีหนี้สิน ผลกระทบต่อตลาดหุ้น
ดอกเบี้ยขาขึ้น ผลดี (ได้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้น) ผลเสีย (ภาระผ่อนหนี้สูงขึ้น) มีแนวโน้มปรับตัวลง
ดอกเบี้ยขาลง ผลเสีย (ได้ดอกเบี้ยเงินฝากน้อยลง) ผลดี (ภาระผ่อนหนี้ลดลง) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น
visualization of inflation and interest rates

ผลกระทบจาก “เฟด” ต่อเศรษฐกิจไทย: อย่ามองข้ามธนาคารกลางของโลก

แม้ กนง. จะบริหารนโยบายการเงินในประเทศ แต่อิทธิพลของ “เฟด” หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็มีบทบาทอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย เพราะดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินหลักของระบบการเงินโลก เมื่อเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐฯ และสินทรัพย์เสี่ยงต่ำในสหรัฐจะน่าสนใจขึ้น ทำให้เกิด “แรงไหลออกของเงินทุน” (outflow) จากประเทศเกิดใหม่ เช่น ไทย

เงินทุนต่างชาติที่เคยเข้ามาลงทุนในหุ้นหรือพันธบัตรไทย อาจถูกเทขายเพื่อนำเงินกลับไปสหรัฐฯ ผลคือ หุ้นไทยอาจปรับตัวลง และเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนการนำเข้า เช่น น้ำมัน วัตถุดิบ หรือพลังงาน กระทบต่อเงินเฟ้อในประเทศ ดังนั้น การติดตามการประชุม FOMC ของเฟดจึงเป็นเรื่องจำเป็นไม่แพ้การรอฟังมติ กนง. เลยทีเดียว

วางแผนการเงินระยะยาวโดยอิงแนวโน้มดอกเบี้ยและสังคมสูงวัย

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มตัว ซึ่งหมายความว่าคนวัยทำงานจะต้องรับภาระดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น ในขณะที่อายุยืนขึ้น การออมเพียงแค่ฝากธนาคารอาจไม่เพียงพออีกต่อไป โดยเฉพาะในยุคที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมาอย่างต่อเนื่อง

ในอดีต การออมผ่านเงินฝากหรือพันธบัตรรัฐบาลอาจให้ผลตอบแทนที่พอเพียงต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณ แต่ในยุคปัจจุบัน ดอกเบี้ยต่ำอาจไม่สามารถ “เอาชนะเงินเฟ้อ” ได้ ทำให้มูลค่าเงินออมลดลงทุกปี สิ่งนี้บังคับให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ การวางแผนการเงินจึงต้องเน้น “การสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน” มากกว่า “การรักษาเงินต้นเพียงอย่างเดียว”

การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลาย เช่น หุ้นไทย-ต่างประเทศ กองทุนรวมที่กระจายความเสี่ยง (LTF/RMF หรือกองทุน SSF) อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่สินทรัพย์ทางเลือก ช่วยให้เรามีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการออมทั่วไป รวมถึงใช้เครื่องมืออย่าง Moneta Markets ในการติดตามแนวโน้มดอกเบี้ยโลก วิเคราะห์ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมายระยะยาว

illustration of financial planning for aging society

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมีผลกระทบที่สำคัญอย่างไร?

การขึ้นดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนการกู้ยืมในระบบเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินกู้ เช่น สินเชื่อบ้าน รถยนต์ และบัตรเครดิต ปรับตัวสูงขึ้น ภาระหนี้ของประชาชนและภาคธุรกิจจึงเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกัน ผู้ที่มีเงินฝากจะได้รับผลตอบแทนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยควบคุมเงินเฟ้อ และอาจทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ

ทำไมเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อจึงต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย?

การขึ้นดอกเบี้ยเป็นวิธีการ “เย็นเครื่อง” เศรษฐกิจ เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ประชาชนก็จะระมัดระวังการใช้จ่ายและการกู้ยืมมากขึ้น ขณะที่บริษัทต่างๆ ก็ชะลอแผนลงทุนเพราะต้นทุนสูงขึ้น ทำให้อุปสงค์โดยรวมลดลง แรงกดดันต่อราคาสินค้าและบริการก็ลดลงตามไปด้วย ช่วยให้เงินเฟ้อชะลอตัวและอยู่ในเป้าหมายที่ธนาคารกลางวางไว้

การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหมายความว่าอย่างไร?

หมายถึง ธนาคารกลางตัดสินใจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ใช้ในระบบการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. หรือ Federal Funds Rate ของเฟด การกระทำนี้บ่งชี้ว่าธนาคารกลางต้องการชะลอเศรษฐกิจเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตาม

หากธนาคารพาณิชย์ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้น จะมีผลดีต่อด้านใดมากที่สุด?

ผลดีที่เห็นชัดที่สุดคือ “ผู้มีเงินออม” เพราะจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากการฝากเงิน ทำให้แรงจูงใจในการออมเพิ่มขึ้น และช่วยลดผลกระทบจากเงินเฟ้อต่อมูลค่าของเงินออมในระยะยาว

ผลกระทบของการลดอัตราดอกเบี้ยคืออะไร?

การลดอัตราดอกเบี้ยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยลดต้นทุนการกู้ยืม ส่งผลดีต่อผู้มีหนี้เพราะภาระดอกเบี้ยลดลง และกระตุ้นให้ธุรกิจลงทุน ผู้บริโภคจับจ่ายมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน ผู้ที่ออมเงินอาจได้รับผลตอบแทนน้อยลง ทำให้การออมไม่น่าสนใจเท่าการลงทุน

การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่งผลดีต่อใครบ้าง?

  • ผู้กู้รายย่อย: ผู้ที่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือมีหนี้บัตรเครดิต จะได้รับประโยชน์จากค่างวดที่ลดลง
  • ภาคธุรกิจ: โดยเฉพาะ SMEs ที่พึ่งพาเงินกู้ จะได้ต้นทุนทางการเงินต่ำลง สามารถขยายกิจการหรือจ้างงานเพิ่มได้ง่ายขึ้น
  • ผู้ต้องการซื้อสินทรัพย์: เช่น บ้านหรือรถ จะตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากต้นทุนการเงินลดลง

แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 เป็นอย่างไร?

แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อัตราเงินเฟ้อ การเติบโตของเศรษฐกิจไทย และทิศทางนโยบายของธนาคารกลางหลัก นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่าหากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและเงินเฟ้ออยู่ในกรอบ อาจเห็น กนง. คงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้เร็ว ควรติดตามข้อมูลจากแหล่งเชื่อถือ เช่น Krungsri Research เพื่อวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

หากเฟดลดดอกเบี้ย จะส่งผลต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง?

หากเฟดลดดอกเบี้ย จะทำให้ผลตอบแทนในสหรัฐฯ ต่ำลง อาจเกิด “แรงไหลเข้าของเงินทุน” ไปยังตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทย ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนการนำเข้า แต่อาจทำให้สินค้าไทยแพงขึ้นในตลาดโลก ส่งผลต่อการส่งออก นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ กนง. มีพื้นที่ในการใช้นโยบายการเงินได้มากขึ้น เช่น การลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

發佈留言