Gold Future คืออะไร? เข้าใจง่ายใน 5 นาที
สำหรับนักลงทุนที่สนใจทองคำ แต่ไม่ต้องการพกทองแท่งไปฝากธนาคารหรือกลัวถูกขโมย การลงทุนผ่าน Gold Future อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า เพราะช่วยให้คุณมีโอกาสทำกำไรจากราคาทองคำโดยไม่ต้องสัมผัสทองจริงเลย แล้ว Gold Future คืออะไรกันแน่? พูดง่ายๆ ก็คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ที่ถูกซื้อขายอย่างเป็นทางการในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในชื่อ TFEX
จุดเด่นของเครื่องมือนี้คือการ “ตกลงราคาในวันนี้” เพื่อซื้อหรือขายทองคำในอนาคตตามวันที่กำหนดในสัญญา โดยนักลงทุนไม่จำเป็นต้องจ่ายเต็มมูลค่าทองคำทั้งก้อน แต่ใช้เพียงเงินประกันส่วนหนึ่ง หรือที่เรียกว่า “มาร์จิ้น” เท่านั้น ซึ่งทำให้สามารถควบคุมสินทรัพย์มูลค่าสูงได้ด้วยเงินลงทุนที่น้อยกว่ามาก ที่สำคัญคือ ไม่ว่าราคาทองจะขึ้นหรือลง คุณก็มีโอกาสทำกำไรได้ทั้งสองทาง แค่คาดการณ์ทิศทางตลาดให้ถูก

สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนเริ่มเล่น Gold Future
ก่อนจะก้าวเข้าสู่สนามเทรดฟิวเจอร์ส ความเข้าใจในโครงสร้างพื้นฐานของสัญญาจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนได้มั่นคง และรับมือกับความผันผวนได้อย่างมีสติ โดยเฉพาะเมื่อตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคาดการณ์
ขนาดสัญญาและตัวคูณราคา
ในตลาด TFEX สัญญา Gold Future ที่นิยมที่สุดคือ “GF10” ซึ่ง 1 สัญญามีมูลค่าเทียบเท่าทองคำแท่ง 10 บาท โดยราคาที่คุณเห็นในหน้าจอจะถูกคำนวณจาก (ราคาทองคำต่อบาท x 10) ทำให้คุณสามารถคำนวณมูลค่าเปิดสถานะและผลตอบแทนได้อย่างแม่นยำ ขนาดสัญญานี้เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสัมผัสความเคลื่อนไหวของราคาทองในประเทศ โดยไม่ต้องจัดการกับน้ำหนักหรือสกุลเงินต่างประเทศ
Leverage – ดาบสองคมที่เพิ่มทั้งกำไรและขาดทุน
Leverage หรือที่เรียกว่า “อัตราทด” คือหัวใจสำคัญของตลาดฟิวเจอร์ส ช่วยให้คุณใช้เงินลงทุนเพียงเล็กน้อยเพื่อควบคุมมูลค่าสัญญาที่สูงกว่าหลายเท่า ตัวอย่างเช่น ทองคำ 10 บาท อาจมีมูลค่าประมาณ 300,000 บาท แต่คุณอาจใช้เงินประกันเพียง 15,000 บาทก็สามารถเปิดสัญญาได้แล้ว นั่นหมายความว่า ทุก 1,000 บาทที่ราคาทองเปลี่ยนแปลง จะส่งผลต่อผลกำไรหรือขาดทุนในบัญชีคุณทันที อย่างไรก็ตาม อัตราทดก็มาพร้อมความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น หากคุณคาดการณ์ผิด ขาดทุนก็จะถูกคูณตามไปด้วยเช่นกัน

ระบบมาร์จิ้น: หลักประกันที่ต้องมี
มาร์จิ้นคือเงินประกันที่คุณต้องวางไว้กับโบรกเกอร์เพื่อเปิดและคงสถานะการซื้อขาย โดยแบ่งออกเป็นสองระดับหลัก ได้แก่ มาร์จิ้นเริ่มต้น (Initial Margin) ซึ่งเป็นจำนวนขั้นต่ำที่ต้องวางเพื่อเริ่มเทรด และ มาร์จิ้นรักษาระดับ (Maintenance Margin) คือยอดเงินขั้นต่ำที่ต้องคงเหลือในบัญชี หากยอดเงินในพอร์ตของคุณลดต่ำกว่าระดับนี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนให้เติมเงินเพิ่ม หรือที่เรียกว่า “มาร์จิ้นคอล” หากไม่ดำเนินการ โบรกเกอร์อาจปิดสถานะของคุณโดยอัตโนมัติ
วันหมดอายุของสัญญา
ต่างจากทองคำแท่งที่เก็บไว้ได้ตลอดชีวิต สัญญา Gold Future มีอายุจำกัด โดยทั่วไปจะหมดอายุทุก 2 เดือน (ตามเดือนคู่) ซึ่งหมายความว่าคุณต้องตัดสินใจล่วงหน้าว่าจะปิดสถานะก่อนวันครบกำหนด หรือปล่อยให้สัญญาหมดอายุไปเอง หากคุณไม่ดำเนินการใดๆ ระบบจะจัดการปิดสัญญาและปรับยอดเงินให้โดยอัตโนมัติ
การชำระราคา: ไม่ต้องรับทองจริง
การซื้อขาย Gold Future ในประเทศไทยไม่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบทองคำจริง แต่ใช้ระบบ ชำระด้วยเงินสด (Cash Settlement) ซึ่งหมายความว่า เมื่อคุณปิดสัญญา หรือสัญญาหมดอายุ ระบบจะคำนวณส่วนต่างระหว่างราคาที่คุณเปิดและราคาที่ปิด แล้วปรับยอดกำไรหรือขาดทุนเข้าบัญชีทันที นอกจากนี้ ตลาดยังมีการปรับมูลค่าพอร์ตทุกวัน (Mark-to-Market) ทำให้คุณทราบสถานะการลงทุนแบบเรียลไทม์
Gold Future vs Gold Online Future ต่างกันยังไง? สรุปเปรียบเทียบชัดเจน
หลายท่านอาจสับสนระหว่าง Gold Future (GF10) กับ Gold Online Future (GOF) ทั้งสองเป็นผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ที่ซื้อขายใน TFEX แต่มีความแตกต่างที่ควรรู้เพื่อเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณ
ประเด็นเปรียบเทียบ | Gold Future (GF10) | Gold Online Future (GOF) |
---|---|---|
สินค้าอ้างอิง | ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศไทย | ราคาทองคำบริสุทธิ์ 99.5% ในตลาดโลก (อ้างอิง CME Group) |
สกุลเงินที่ใช้อ้างอิง | บาทไทย (THB) | ดอลลาร์สหรัฐ (USD) |
ขนาดสัญญา | ทองคำ 10 บาท | ทองคำ 1 ทรอยออนซ์ (~2.05 บาท) |
ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน | ไม่ต้องจัดการค่าเงินโดยตรง แต่ราคาอาจผันผวนตามบาท | ต้องเผชิญความเสี่ยงจากค่าเงิน USD/THB โดยตรง |
วันหมดอายุสัญญา | ทุก 2 เดือน (เดือนคู่) | ทุก 3 เดือน (มี.ค., มิ.ย., ก.ย., ธ.ค.) |
กลุ่มนักลงทุนที่เหมาะสม | ผู้ที่ต้องการตามราคาทองในประเทศ โดยไม่ต้องวิเคราะห์ค่าเงิน | ผู้ที่ต้องการเชื่อมโยงราคาทองตลาดโลก และรับมือความผันผวนของดอลลาร์ได้ |
ข้อดีและข้อควรระวังของ Gold Future
การลงทุนผ่าน Gold Future มีทั้งข้อได้เปรียบและข้อควรระวังที่คุณต้องเข้าใจอย่างชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่รู้
ข้อดีของ Gold Future
- ใช้เงินเริ่มต้นน้อย: ด้วยกลไก Leverage ทำให้คุณสามารถควบคุมมูลค่าทองคำขนาดใหญ่ได้ด้วยเงินทุนไม่มาก
- ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง: คุณสามารถ “ซื้อ” เมื่อคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้น หรือ “ขายก่อนซื้อทีหลัง” เมื่อคิดว่าราคาจะลดลง
- สภาพคล่องสูงและโปร่งใส: ตลาด TFEX มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ราคาเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ ทำให้ซื้อขายได้ทันที
- ไม่มีค่าแปรรูปหรือค่าจารึก: ต่างจากการซื้อทองรูปพรรณ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ยกเว้นค่าคอมมิชชั่นของโบรกเกอร์
ข้อควรระวัง
- Leverage อาจทำให้ขาดทุนหนัก: หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง ขาดทุนจะถูกคูณทวีคูณอย่างรวดเร็ว
- ต้องบริหารเวลาให้ดี: สัญญามีวันหมดอายุ คุณต้องตัดสินใจล่วงหน้าว่าจะปิดหรือต่ออายุ
- เสี่ยงถูกเรียกมาร์จิ้นเพิ่ม: หากขาดทุนต่อเนื่องและเงินในบัญชีต่ำกว่าเกณฑ์ คุณอาจถูกบังคับปิดสถานะ

ขั้นตอนการเริ่มต้นเทรด Gold Future แบบละเอียด
ถ้าคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้น นี่คือขั้นตอนที่คุณต้องทำเพื่อเข้าสู่วงการเทรดทองคำล่วงหน้า
- ศึกษาข้อมูลและเลือกโบรกเกอร์: ทำความเข้าใจกลไกการซื้อขาย ความเสี่ยง และเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีบริการเปิดบัญชีอนุพันธ์ เช่น Moneta Markets ซึ่งเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนไทยด้วยระบบการซื้อขายที่เสถียร ค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้ และบริการสนับสนุนลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ
- เปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์: เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และรายการเดินบัญชี จากนั้นยื่นขอเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์หรือที่สาขา โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่เกิน 1-2 วันทำการ
- วางเงินหลักประกัน: เมื่อบัญชีได้รับอนุมัติ ให้โอนเงินเข้าเพื่อใช้เป็นมาร์จิ้น โดยยอดขั้นต่ำขึ้นอยู่กับประกาศของ TFEX และนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์
- ติดตั้งแพลตฟอร์มเทรดและเริ่มส่งคำสั่ง: โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ เช่น Moneta Markets ให้บริการโปรแกรมเทรดแบบ Streaming Pro ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ คุณสามารถล็อกอิน ดูกราฟราคา และส่งคำสั่งซื้อขายได้ทันที
เทรด Gold Future กับโบรกเกอร์ไหนดี? คำแนะนำในการเลือก
การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการเทรดอนุพันธ์ ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ค่าคอมมิชชั่นอย่างเดียว
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย: เปรียบเทียบค่าคอมมิชชั่นระหว่างโบรกเกอร์ โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดที่ทำรายการบ่อย
- ความเสถียรของระบบ: ระบบต้องเร็ว ไม่ดีเลย์ เพราะในช่วงตลาดผันผวน เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจเปลี่ยนผลลัพธ์ได้
- เครื่องมือวิเคราะห์: ควรมีกราฟราคาขั้นสูง ตัวชี้วัดทางเทคนิค และบทวิเคราะห์รายวันเพื่อช่วยตัดสินใจ
- บริการลูกค้า: ควรมีทีมงานที่ติดต่อได้สะดวก ทั้งทางไลน์ อีเมล หรือโทรศัพท์
ในปัจจุบัน โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากระบบซื้อขายที่ทันสมัย ค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส และการสนับสนุนลูกค้าแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีบัญชีทดลอง (Demo Account) สำหรับมือใหม่ที่ต้องการฝึกฝนก่อนลงทุนจริง นักลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตได้ที่ เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Gold Future 1 สัญญา ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณเท่าไหร่?
เงินลงทุนเริ่มต้น (Initial Margin) สำหรับ 1 สัญญาจะไม่คงที่ เนื่องจากขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาทองคำ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5-10% ของมูลค่าสัญญาทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าถ้าทองคำ 10 บาท อยู่ที่ 300,000 บาท คุณอาจต้องวางมาร์จิ้นประมาณ 15,000 – 30,000 บาท อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบจากโบรกเกอร์ของคุณโดยตรง และเตรียมเงินเผื่อไว้เพื่อรับมือกับการผันผวน
มือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ สามารถเทรด Gold Future ได้หรือไม่?
สามารถเทรดได้ แต่ไม่ควรเริ่มทันทีโดยไม่มีความรู้ แนะนำให้เริ่มจากศึกษาข้อมูลพื้นฐาน กลไกการทำงานของฟิวเจอร์ส การบริหารความเสี่ยง และลองใช้บัญชีจำลอง (Demo Account) ของโบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มและพฤติกรรมตลาด ก่อนใช้เงินจริง
Gold Future มีวันหมดอายุ หมายความว่าอย่างไร?
หมายความว่าสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า นักลงทุนที่ยังถือสถานะอยู่จะต้องปิดสัญญา (ซื้อคืนหรือขายคืน) ก่อนหรือในวันสุดท้ายของการซื้อขาย หากไม่ดำเนินการ ระบบจะปิดสัญญาอัตโนมัติด้วยราคาที่ใช้ชำระหนี้ (Final Settlement Price) และปรับยอดเงินในบัญชีให้ตามผลลัพธ์
ตลาด Gold Future เปิด-ปิดกี่โมง?
ตลาด TFEX สำหรับ Gold Future เปิดซื้อขายใน 3 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงเช้า ช่วงบ่าย และช่วงดึก (Night Session) เพื่อให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของตลาดโลก ทำให้นักลงทุนสามารถตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศได้ทันที สำหรับเวลาที่แน่นอน สามารถตรวจสอบได้ที่ เว็บไซต์ของ TFEX
ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในการเทรด Gold Future คืออะไร?
ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดคือ Leverage ที่ทำให้ทั้งกำไรและขาดทุนขยายตัวอย่างรวดเร็ว หากคุณคาดการณ์ผิดเพียงเล็กน้อย การขาดทุนอาจกินเงินมาร์จิ้นของคุณหมดในไม่กี่วินาที ดังนั้น การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) การบริหารพอร์ตอย่างมีวินัย และการไม่ใช้อัตราทดเต็มที่ จึงเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ช่วยรักษาเงินทุน
ควรเลือกเปิดบัญชีเทรด Gold Future กับโบรกเกอร์ไหนดี?
ไม่มีโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่ควรเลือกที่ “ดีที่สุดสำหรับคุณ” โดยพิจารณาจากค่าคอมมิชชั่น ระบบเทรด เครื่องมือวิเคราะห์ และคุณภาพการบริการ เช่น Moneta Markets ที่มีทั้งแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ และทีมสนับสนุนที่ตอบไว แนะนำให้เปรียบเทียบอย่างน้อย 2-3 โบรกเกอร์ก่อนตัดสินใจ
ถ้าถือสัญญา Gold Future จนหมดอายุจะเกิดอะไรขึ้น?
หากคุณไม่ปิดสถานะก่อนวันหมดอายุ สัญญาจะถูกชำระด้วยเงินสดอัตโนมัติ โดยใช้ราคาปิดสุดท้าย (Final Settlement Price) มาคำนวณกำไรหรือขาดทุน แล้วปรับยอดในบัญชีของคุณ จะไม่มีการส่งมอบทองคำจริงแต่อย่างใด
เราสามารถถือสัญญา Gold Future ข้ามคืนได้หรือไม่?
ได้ คุณสามารถถือสถานะข้ามคืน หรือถือไว้หลายวันได้จนถึงวันหมดอายุของสัญญา ตราบใดที่ยอดเงินในบัญชียังสูงกว่า Maintenance Margin หากยอดต่ำกว่า คุณจะต้องเติมเงินเพิ่มเพื่อรักษาระดับมาร์จิ้น