“ต่อเงิน” คือการนำเงินที่มีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เงินจำนวนนั้นเพิ่มพูนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออม การลงทุน หรือการสร้างรายได้เสริม นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงความเชื่อเรื่องโชคลางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเสริมสิริมงคลทางการเงิน ในชีวิตประจำวันของคนไทย การ “ต่อเงิน” มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน บรรลุเป้าหมายต่างๆ เช่น การมีบ้าน การศึกษา หรือการเกษียณ และยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่ให้คุณค่ากับการมีฐานะที่มั่นคง

มือใหม่ควรเริ่มต้นจากการออมอย่างมีวินัย เช่น การเปิดบัญชีเงินฝากประจำหรือซื้อสลากออมสิน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำและช่วยสร้างนิสัยการเก็บออม จากนั้นอาจพิจารณาการลงทุนในกองทุนรวมประเภทตลาดเงินหรือกองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เพื่อให้เงินเติบโตได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก

สำหรับคนที่มีเงินทุนน้อย การลงทุนที่เหมาะสมได้แก่ การซื้อกองทุนรวมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ซึ่งสามารถเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนไม่มากในแต่ละเดือน การลงทุนในสลากออมสิน การออมในบัญชีเงินฝากดิจิทัลที่ให้ดอกเบี้ยสูง หรือการลงทุนในหุ้นรายตัวผ่านแอปพลิเคชันที่สามารถซื้อหุ้นเป็นเศษหุ้นได้

ความเชื่อเรื่องพญาต่อเงินต่อทองเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจและความศรัทธา ซึ่งอาจไม่ได้มีผลโดยตรงต่อการเพิ่มพูนเงินทุนในเชิงกลไกทางการเงิน แต่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ความหวัง และความมุ่งมั่นให้กับผู้คนในการทำงานและแสวงหาความมั่งคั่ง การมีกำลังใจที่ดีสามารถเป็นแรงผลักดันให้เกิดความสำเร็จได้

มีปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาตนเองและทักษะความรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าในตลาดแรงงาน ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มรายได้ การมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล และการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจหรือการลงทุนใหม่ๆ ได้

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ การลงทุนโดยไม่มีความรู้ ไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ การกู้ยืมเงินมาลงทุนโดยไม่ประเมินความเสี่ยง การใช้จ่ายเกินตัวและไม่ทำงบประมาณ การหลงเชื่อการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง และการไม่มีแผนสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน

หนังสือที่แนะนำได้แก่ พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad) ซึ่งให้แนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสินทรัพย์และอิสรภาพทางการเงิน เงินสี่ด้าน (Cashflow Quadrant) ที่ช่วยให้เข้าใจแหล่งที่มาของรายได้ นอกจากนี้ แหล่งข้อมูลออนไลน์จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ก็เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีสำหรับการศึกษาเรื่องการลงทุนและการบริหารเงิน

การเก็บออมธรรมดาคือการนำเงินไปฝากไว้ในบัญชีเพื่อสะสม ซึ่งเงินจะเติบโตช้าตามอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่การ “ต่อเงิน” เป็นแนวคิดที่กว้างกว่า โดยหมายถึงการนำเงินที่ออมไว้หรือเงินทุนที่มีไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ หรือการสร้างรายได้เสริม เพื่อให้เงินนั้นงอกเงยและเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าการเก็บออมเพียงอย่างเดียว

หากมีหนี้สิน ควรให้ความสำคัญกับการจัดการหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก่อนเป็นอันดับแรก เช่น หนี้บัตรเครดิต โดยอาจใช้วิธีรวมหนี้หรือเจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้ เมื่อภาระหนี้ลดลงและมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น จึงค่อยจัดสรรเงินส่วนที่เหลือมาเริ่มต้น “ต่อเงิน” ในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำและใช้เงินทุนน้อย เช่น การออม หรือการลงทุนในกองทุนรวม

ในยุคดิจิทัลมีช่องทางการ “ต่อเงิน” ที่น่าสนใจมากมาย เช่น การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี (ควรศึกษาความเสี่ยงอย่างละเอียด) การลงทุนในแพลตฟอร์ม P2P Lending (Peer-to-Peer Lending) การสร้างรายได้จากการเป็น Influencer หรือ Content Creator บนโซเชียลมีเดีย การขายสินค้าผ่าน E-commerce หรือ Social Commerce และการลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชัน