66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

วิธีคิดค่าธรรมเนียม: 8 กลยุทธ์ลดต้นทุน เพิ่มกำไรให้ธุรกิจและชีวิตคุณในปี 2568

Home / เริ่มต้นเทรด / วิธ...

meetcinco_com | 09 11 月

วิธีคิดค่าธรรมเนียม: 8 กลยุทธ์ลดต้นทุน เพิ่มกำไรให้ธุรกิจและชีวิตคุณในปี 2568

บทนำ: ทำไมการเข้าใจ “วิธีคิดค่าธรรมเนียม” จึงสำคัญต่อการเงินของคุณ

การเข้าใจวิธีคิดค่าธรรมเนียมถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลการเงินส่วนตัวหรือธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าออนไลน์เพื่อเพิ่มรายได้ หรือการใช้บริการประจำวันเพื่อลดค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายที่ซ่อนเร้นเหล่านี้อาจทำให้กำไรหายไปโดยไม่รู้ตัว หรือทำให้งบประมาณเสียสมดุลได้อย่างรวดเร็ว บทความนี้จะเป็นแนวทางครบถ้วนที่ช่วยให้คุณรู้จักโครงสร้างค่าธรรมเนียมในแพลตฟอร์มค้าออนไลน์และบริการธนาคารต่างๆ พร้อมเคล็ดลับในการคำนวณและจัดการเพื่อให้ได้กำไรสูงขึ้นและลดภาระที่ไม่จำเป็น

ภาพประกอบบุคคลกำลังปรับสมดุลตาชั่งเงินกับค่าธรรมเนียมซ่อนเร้นที่กัดกร่อนเงินออมในภูมิทัศน์การเงินที่ซับซ้อน

เจาะลึกวิธีคิดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในไทย

การค้าขายออนไลน์ในยุคนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อน โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมหลากหลายประเภทที่ผู้ขายต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อตั้งราคาสินค้าและควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มยอดฮิตในไทยอย่าง Shopee, Lazada และ TikTok Shop ล้วนมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ซึ่งหากไม่วางแผนดีอาจกระทบต่อผลประกอบการโดยตรง

ภาพประกอบผู้ขายออนไลน์กำลังดูหน้าจอหลายจอที่มีโลโก้ Shopee Lazada TikTok Shop ล้อมรอบด้วยไอคอนค่าธรรมเนียมต่างๆ

ค่าธรรมเนียม Shopee คิดยังไง: อัปเดตล่าสุดและแนวโน้มปี 2568

สำหรับผู้ที่ขายสินค้าบน Shopee การรู้จักโครงสร้างค่าธรรมเนียมแต่ละส่วนเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ เพราะจะช่วยให้คุณวางแผนราคาและกำไรได้แม่นยำยิ่งขึ้น ค่าธรรมเนียมหลักที่มักเจอ ได้แก่

  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Commission Fee): คิดจากเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้าที่ขายสำเร็จ ซึ่งขึ้นกับประเภทสินค้าและสถานะร้านค้า เช่น ร้านทั่วไป ร้านเด่น หรือ Shopee Mall โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 2-5%
  • ค่าธรรมเนียมบริการ (Service Fee): เรียกเก็บจากผู้ขายที่เข้าร่วมโปรโมชั่นต่างๆ ของแพลตฟอร์ม เช่น การส่งฟรี การคืนเหรียญ หรือโปรแกรมร้านค้าพิเศษ อัตราจะแตกต่างตามเงื่อนไข แต่ส่วนใหญ่คือ 5-10% ของราคาสินค้า
  • ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน (Transaction Fee): เก็บจากทุกการชำระเงินที่สำเร็จ เพื่อครอบคลุมการประมวลผลผ่านช่องทางอย่างบัตรเครดิต ShopeePay หรือโอนเงิน โดยอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3%
  • ค่าธรรมเนียมการจัดส่ง (Shipping Fee): แม้ผู้ซื้อจะจ่ายส่วนใหญ่ แต่ผู้ขายอาจต้องรับผิดชอบบางส่วน หากเข้าร่วมโปรแกรมส่งฟรีหรือสินค้าน้ำหนักเกินกำหนด

ตัวอย่างการคำนวณค่าธรรมเนียมบน Shopee: สมมติขายสินค้าราคา 1,000 บาท (รวม VAT) และเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริม

  • ค่าธรรมเนียมการขาย 3% = 30 บาท
  • ค่าธรรมเนียมบริการ (ส่งฟรี) 7% = 70 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน 2.5% = 25 บาท
  • รวมเบื้องต้น = 125 บาท

การรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในไทย: ค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่จาก Shopee จะบวก VAT 7% เพิ่มเติม ดังนั้นยอด 125 บาทข้างต้นยังไม่รวมภาษี ผู้ขายจึงต้องคำนวณให้รอบคอบเพื่อไม่ให้กำไรลดลง สำหรับข้อมูลล่าสุด แนะนำตรวจสอบที่ ศูนย์การเรียนรู้ผู้ขาย Shopee

แนวโน้มปี 2568 (2025): Shopee มักปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมให้เข้ากับตลาดและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ผู้ขายควรติดตามข่าวสารจากแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะค่าบริการและค่าชำระเงินที่อาจมีอัตราใหม่หรือเงื่อนไขเปลี่ยนแปลง

ภาพประกอบผู้ขายบน Shopee กำลังคำนวณค่าธรรมเนียมบนแท็บเล็ต แสดงเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่น บริการ ชำระเงิน และ VAT

ค่าธรรมเนียม Lazada และ TikTok Shop: เปรียบเทียบกับ Shopee และข้อควรพิจารณา

เพื่อช่วยผู้ขายตัดสินใจใช้แพลตฟอร์มเดียวหรือหลายแห่งควบคู่กัน นี่คือตารางเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมหลักระหว่าง Lazada, TikTok Shop กับ Shopee ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมชัดเจนยิ่งขึ้น

ประเภทค่าธรรมเนียม Shopee Lazada TikTok Shop ข้อควรพิจารณา
ค่าคอมมิชชั่น/ค่าธรรมเนียมการขาย 2-5% (ตามหมวดหมู่/ประเภทร้านค้า) 1-5% (ตามหมวดหมู่/ประเภทร้านค้า) 1-4% (ตามหมวดหมู่/โปรโมชั่น) TikTok Shop มีอัตราต่ำกว่าในช่วงเริ่มต้น
ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน 2-3% 2-3% 1.8-2.5% คล้ายกันใน Shopee/Lazada, TikTok Shop อาจต่ำกว่าเล็กน้อย
ค่าธรรมเนียมบริการ (โปรโมชั่น/แคมเปญ) 5-10% (ส่งฟรี, Coins Cashback) 3-7% (Free Shipping Max, LazMall) 0-5% (แคมเปญส่งเสริมการขาย) Lazada และ Shopee มีโปรแกรมหลากหลายกว่า
ค่าธรรมเนียมการจัดส่ง แตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการและโปรแกรมส่งฟรี แตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการและโปรแกรมส่งฟรี แตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการและโปรแกรมส่งฟรี ทุกแพลตฟอร์มมีโปรแกรมส่งฟรีที่ผู้ขายต้องร่วมรับภาระ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) มีการบวกในค่าธรรมเนียม มีการบวกในค่าธรรมเนียม มีการบวกในค่าธรรมเนียม ผู้ขายต้องคำนวณ VAT เพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียม

จากตารางนี้ จะเห็นว่า TikTok Shop ดึงดูดผู้ขายด้วยค่าคอมมิชชั่นต่ำในระยะแรก แต่ Shopee และ Lazada ยังครองตลาดด้วยฐานลูกค้าที่กว้างและระบบช่วยเหลือที่ครบครัน ผู้ขายควรพิจารณาจากลักษณะสินค้า กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และแผนการตลาด เพื่อเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุด โดยบางรายอาจใช้หลายแพลตฟอร์มเพื่อกระจายความเสี่ยง

วิธีคิดค่าธรรมเนียมทางการเงิน: ธนาคารไทยและบริการชำระเงินออนไลน์

นอกจากค่าธรรมเนียมจากแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว ค่าใช้จ่ายด้านการเงินจากธนาคารและระบบชำระเงินก็มีผลต่อกระเป๋าเงินของคุณไม่น้อย การเข้าใจส่วนเหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการเงินได้ฉลาดขึ้น ลดความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

ค่าธรรมเนียมธนาคาร: การโอน, ถอน, บัตรเครดิต, สินเชื่อ และบริการอื่นๆ

ธนาคารใหญ่ในไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ หรือธนาคารกรุงไทย มีค่าธรรมเนียมหลากหลายสำหรับธุรกรรมต่างๆ ซึ่งแตกต่างตามช่องทางและประเภทบริการ

  • ค่าธรรมเนียมการโอนเงิน:
    • โอนภายในธนาคาร: มักฟรีหากใช้แอปมือถือหรืออินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง
    • โอนต่างธนาคาร: ฟรีสำหรับยอดไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อวันผ่านแอป แต่หากเกินหรือใช้ตู้ ATM/สาขา อาจเสีย 10-35 บาทต่อครั้ง
    • โอนต่างประเทศ: ขึ้นกับธนาคาร ประเทศ และสกุลเงิน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือค่าคงที่ต่อรายการ
  • ค่าธรรมเนียม ATM:
    • ถอนต่างธนาคาร/ต่างจังหวัด: 10-20 บาทต่อครั้ง หลังครบจำนวนฟรีที่กำหนด เช่น 4 ครั้งต่อเดือน
    • สอบถามยอด/โอนต่างธนาคาร: 10-15 บาท
  • ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต:
    • ค่าธรรมเนียมรายปี: 500-5,000 บาทหรือมากกว่านั้น แต่หลายธนาคารยกเว้นหากใช้จ่ายถึงเกณฑ์
    • อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 16% ต่อปี หากไม่ชำระเต็มจำนวน
    • ค่าปรับ: ค่าชำระล่าช้า ค่าทวงถาม
  • ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ/ค่าปรับ: รวมค่าจัดการ ค่าประเมิน ค่าอากรแสตมป์ และค่าปรับชำระล่า
  • ค่าธรรมเนียม PromptPay: ฟรีสำหรับยอดไม่เกิน 5,000 บาท หากเกินอาจเสีย 2 บาทสำหรับ 5,001-30,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จากเว็บไซต์ธนาคาร เช่น ค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกสิกรไทย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเลือกบริการที่คุ้มค่าที่สุด

ค่าธรรมเนียม Payment Gateway และบริการรับชำระเงินสำหรับธุรกิจ

สำหรับร้านค้าออนไลน์ ระบบ Payment Gateway เป็นเครื่องมือสำคัญในการรับเงินจากลูกค้า แต่ต้องคำนึงถึงค่าธรรมเนียมที่อาจสูงหากไม่เลือกดี

  • อัตราค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรม:
    • บัตรเครดิต/เดบิต: 2.5-3.5% ของยอดชำระ
    • QR Code Payment: ต่ำกว่า เช่น 0.5-1%
    • E-wallet (TrueMoney Wallet, Rabbit LINE Pay): คล้าย QR Code หรือสูงกว่าเล็กน้อย
    • Internet Banking: ค่าคงที่หรือเปอร์เซ็นต์
  • ค่าบริการรายปี/รายเดือน: บางผู้ให้บริการเรียกเก็บเพิ่มนอกจากค่าต่อธุรกรรม
  • ค่าติดตั้งระบบ: ค่าเริ่มต้นสำหรับการเชื่อมต่อ

ปัจจัยในการเลือก: ธุรกิจควรดูจากอัตราที่เหมาะกับปริมาณธุรกรรม ช่องทางที่หลากหลาย ความเสถียร และการสนับสนุน ผู้ให้บริการในไทยอย่าง Paysolutions หรือ 2C2P มีแพ็คเกจที่ปรับตามขนาดธุรกิจ โดยแนะนำให้เปรียบเทียบเงื่อนไขล่าสุดเพื่อหาตัวเลือกที่ดีที่สุด

กลยุทธ์ลดค่าธรรมเนียม: เพิ่มกำไรให้ธุรกิจและประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนตัว

การลดค่าธรรมเนียมไม่ใช่การเลี่ยงจ่าย แต่คือการวางแผนอย่างชาญฉลาดเพื่อตัดส่วนที่ไม่จำเป็น แล้วนำเงินนั้นไปลงทุนหรือออมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือการเงินส่วนตัว เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำได้จริง

เทคนิคสำหรับผู้ขายออนไลน์: ลดค่าคอมมิชชั่นและค่าบริการแพลตฟอร์มอย่างชาญฉลาด

  • เข้าร่วมแคมเปญพิเศษ: Shopee และ Lazada มักจัดโปรโมชั่นลดค่าคอมมิชชั่นหรือค่าบริการสำหรับสินค้าบางประเภทหรือช่วงเวลา ผู้ขายที่ติดตามข่าวสารจะได้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ ลดต้นทุนได้ชัดเจน
  • ใช้คูปองส่งสินค้าอย่างมีแผน: แม้ผู้ซื้อจ่ายค่าส่งหลัก แต่โปรแกรมส่งฟรีมักทำให้ผู้ขายรับภาระส่วนหนึ่ง การเลือกคูปองที่เหมาะสมจะช่วยแบ่งเบาภาระนี้ โดยไม่กระทบยอดขาย
  • เลือกแพ็กเกจบริการที่คุ้มค่า: สำหรับร้านใหญ่หรือ Shopee Mall การเลือกแผนที่ให้สิทธิพิเศษมากขึ้น หรือเจรจากับแพลตฟอร์มโดยตรง อาจช่วยลดอัตราค่าธรรมเนียมได้
  • จัดการสต็อกให้ดี: หลีกเลี่ยงสินค้าที่ละเมิดกฎหรือมีปัญหาคุณภาพ เพื่อไม่ให้โดนค่าปรับจากแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจสูงกว่าที่คิด
  • รวมค่าธรรมเนียมในราคาขาย: ตั้งราคาสินค้าให้ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย เพื่อให้กำไรสุทธิยังคงตามเป้า แม้หลังหักค่าธรรมเนียมทั้งหมด

ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ ผู้ขายสามารถเพิ่มขอบเขตกํไรได้ โดยไม่ต้องลดคุณภาพสินค้าหรือบริการ

เคล็ดลับการจัดการค่าธรรมเนียมทางการเงินส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ

  • ใช้แอปธนาคารและ PromptPay เต็มที่: ธุรกรรมส่วนใหญ่ผ่านช่องทางดิจิทัลจะฟรี โดยเฉพาะการโอนเงิน ทำให้คุณประหยัดได้มากเมื่อเทียบกับการไปสาขา
  • เลือกบัญชีที่ไม่มีค่าธรรมเนียมซ่อน: บางบัญชีออมทรัพย์อาจเรียกเก็บค่าบำรุงหากยอดต่ำเกณฑ์ หรือค่าบัตรเดบิตรายปี การหาบัญชีที่ฟรีเหล่านี้จะช่วยลดภาระระยะยาว
  • เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสม: มีบัตรหลายใบที่ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีโดยไม่มีเงื่อนไข หรือเงื่อนไขใช้จ่ายไม่สูง ช่วยให้คุณใช้สิทธิประโยชน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
  • วางแผนชำระเงินให้ตรงเวลา: ชำระบัตรเครดิตหรือสินเชื่อเต็มยอดและตรงกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและดอกเบี้ยที่สะสม
  • ตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ: ดูรายการเดินบัญชีทุกเดือน เพื่อจับตาค่าธรรมเนียมผิดพลาดหรือค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกิดขึ้น

การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ไม่เพียงประหยัดเงิน แต่ยังช่วยสร้างวินัยทางการเงินที่ดีในระยะยาว

เครื่องมือช่วยคำนวณค่าธรรมเนียมและประเมินผลกระทบต่อธุรกิจ

การคำนวณค่าธรรมเนียมด้วยมืออาจยุ่งยาก โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการหลายแพลตฟอร์มและประเภทค่าใช้จ่าย เครื่องมือช่วยเหลือจะทำให้กระบวนการง่ายและแม่นยำขึ้น ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของต้นทุนและกำไรได้ชัดเจน

  • เครื่องมือออนไลน์: แพลตฟอร์มอย่าง Shopee หรือ Lazada มีตัวคำนวณในตัว หรือเว็บบุคคลที่สามที่พัฒนาสำหรับค่าธรรมเนียมเฉพาะ เช่น Shopee ซึ่งใช้งานสะดวกและอัปเดตตามนโยบายล่าสุด
  • ตาราง Excel: วิธีที่ยืดหยุ่นที่สุดคือสร้างสเปรดชีตของตัวเอง โดยใส่สูตรคำนวณค่าคอมมิชชั่น ค่าบริการ ค่าชำระเงิน และ VAT รวมเข้าไปกับราคาขาย เพื่อหายอดสุทธิและกำไรจริง
  • การนำผลไปใช้: หลังคำนวณเสร็จ นำข้อมูลไปปรับใช้ เช่น
    • ตั้งราคาขาย: ให้ครอบคลุมต้นทุน ค่าธรรมเนียม และกำไรเป้าหมาย
    • ประเมินกำไรสุทธิ: ดูกำไรจริงจากแต่ละสินค้าหรือแพลตฟอร์ม
    • วางแผนงบ: จัดสรรเงินสำหรับค่าธรรมเนียม และเตรียมงบสำหรับโปรโมชั่น

เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเวลา แต่ยังเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจทางธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ขายมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น

สรุป: การบริหารค่าธรรมเนียมคือกุญแจสู่ความสำเร็จทางการเงินที่ยั่งยืน

การรู้จักวิธีคิดค่าธรรมเนียมและจัดการอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่การตัดต้นทุน แต่เป็นการสร้างฐานการเงินที่มั่นคงในระยะยาว ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าบน Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือใช้บริการธนาคาร การเข้าใจค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะช่วยให้วางแผนได้ดี ตั้งราคาเหมาะสม เพิ่มกำไร และลดค่าใช้จ่ายส่วนตัว ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็ว การอัปเดตความรู้และปรับกลยุทธ์เรื่องค่าธรรมเนียมจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. ค่าธรรมเนียม Shopee ผู้ขายมือใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง และมีวิธีคำนวณอย่างไร?

ผู้ขายมือใหม่บน Shopee ควรรู้จักค่าธรรมเนียมหลัก 3 ประเภท ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการขาย (Commission Fee) ซึ่งขึ้นอยู่กับหมวดหมู่สินค้า, ค่าธรรมเนียมบริการ (Service Fee) สำหรับการเข้าร่วมโปรแกรมต่างๆ และค่าธรรมเนียมการชำระเงิน (Transaction Fee) สำหรับทุกธุรกรรมที่สำเร็จ การคำนวณคือการนำเปอร์เซ็นต์ของค่าธรรมเนียมแต่ละประเภทไปคูณกับราคาสินค้าที่ขายได้ และอย่าลืมบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) เข้าไปในยอดค่าธรรมเนียมทั้งหมดด้วย

2. ค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามธนาคารผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking ในประเทศไทย มีการคิดค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง?

ปัจจุบัน การโอนเงินข้ามธนาคารผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking ในประเทศไทยส่วนใหญ่ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อวัน (ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร) แต่หากเกินวงเงินที่กำหนดหรือทำรายการผ่านช่องทางอื่น เช่น ตู้ ATM หรือสาขา อาจมีค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 10-35 บาทต่อรายการ ขึ้นอยู่กับยอดเงินที่โอนและธนาคารที่ให้บริการ

3. ในปี 2568 (2025) Shopee จะมีการปรับค่าธรรมเนียมอีกหรือไม่ และผู้ขายควรเตรียมตัวอย่างไร?

Shopee มีแนวโน้มที่จะปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและต้นทุนการดำเนินงาน ผู้ขายควรติดตามประกาศอย่างเป็นทางการจาก Shopee อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในส่วนของค่าธรรมเนียมบริการและค่าธรรมเนียมการชำระเงิน การเตรียมตัวที่ดีคือการคำนวณต้นทุนรวมทั้งหมด รวมถึงค่าธรรมเนียมที่อาจมีการปรับเปลี่ยน และปรับราคาสินค้าหรือกลยุทธ์การขายให้ยืดหยุ่น

4. นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมจากแพลตฟอร์มแล้ว ผู้ขายออนไลน์ในไทยต้องคำนึงถึงภาษีอะไรอีกบ้าง?

ผู้ขายออนไลน์ในไทยต้องคำนึงถึงภาษีหลักๆ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล (ขึ้นอยู่กับสถานะของธุรกิจ) และหากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และเรียกเก็บ VAT 7% จากลูกค้า รวมถึงนำส่งภาษีตามกฎหมาย ค่าธรรมเนียมบนแพลตฟอร์มเองก็มีการบวก VAT 7% เข้าไปแล้วด้วย

5. มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตรายปีและดอกเบี้ยในแต่ละธนาคาร?

การลดค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตรายปีสามารถทำได้โดยการเลือกบัตรที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี หรือมีเงื่อนไขการใช้จ่ายเพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมที่ไม่สูงมาก ส่วนการลดดอกเบี้ยนั้นทำได้โดยการชำระยอดเต็มจำนวนและตรงเวลาเสมอ หากไม่สามารถทำได้ ควรชำระให้ได้มากที่สุดเพื่อลดเงินต้นที่นำไปคำนวณดอกเบี้ย

6. ถ้าต้องการเปิดร้านบนหลายแพลตฟอร์ม (Shopee, Lazada, TikTok Shop) ควรพิจารณาเรื่องค่าธรรมเนียมและกลยุทธ์อย่างไร?

ควรสร้างตารางเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของแต่ละแพลตฟอร์มอย่างละเอียดสำหรับสินค้าประเภทเดียวกัน เพื่อดูว่าแพลตฟอร์มใดให้ผลกำไรดีที่สุดสำหรับสินค้าแต่ละชิ้น จากนั้นจึงวางกลยุทธ์การตั้งราคาที่แตกต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม หรือใช้แพลตฟอร์มที่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าเป็นช่องทางหลัก และใช้แพลตฟอร์มอื่นเป็นช่องทางเสริมเพื่อขยายฐานลูกค้า

7. ผู้ให้บริการ Payment Gateway ในไทยมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกเจ้าไหนดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก?

ผู้ให้บริการ Payment Gateway ในไทยมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกันทั้งในส่วนของอัตราต่อธุรกรรม (บัตรเครดิต, QR Code, E-wallet) และค่าบริการรายปี/รายเดือน สำหรับธุรกิจขนาดเล็กควรเลือกผู้ให้บริการที่ไม่มีค่าบริการรายปี มีอัตราค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรมที่สมเหตุสมผลสำหรับช่องทางการชำระเงินที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมใช้ และมีระบบที่ใช้งานง่าย เชื่อถือได้ เช่น Paysolutions หรือ 2C2P แต่ควรเปรียบเทียบแพ็คเกจและเงื่อนไขล่าสุดอีกครั้ง

8. การคำนวณค่าธรรมเนียมควรถูกนำไปรวมในราคาขายสินค้าอย่างไร เพื่อให้ได้กำไรที่เหมาะสมและแข่งขันได้?

การคำนวณค่าธรรมเนียมควรถูกรวมอยู่ในโครงสร้างต้นทุนของสินค้าแต่ละชิ้น คุณสามารถใช้สูตร: ราคาขาย = (ต้นทุนสินค้า + ค่าธรรมเนียมทั้งหมด + กำไรที่ต้องการ) / (1 – เปอร์เซ็นต์ค่าธรรมเนียมที่คำนวณจากราคาขาย) หรือใช้ตาราง Excel เพื่อจำลองสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมและยังคงสามารถแข่งขันในตลาดได้

9. โปรแกรมหรือเครื่องมือช่วยคำนวณค่าธรรมเนียม Shopee ที่น่าเชื่อถือและใช้งานง่ายสามารถหาได้จากที่ไหน?

ผู้ขายสามารถใช้เครื่องมือคำนวณค่าธรรมเนียมที่ Shopee จัดหาให้ในศูนย์การเรียนรู้ผู้ขาย หรือใช้ตาราง Excel ที่สร้างขึ้นเองเพื่อความยืดหยุ่นและแม่นยำ นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามที่ให้บริการคำนวณค่าธรรมเนียม Shopee และแพลตฟอร์มอื่นๆ แต่ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของข้อมูลก่อนใช้งาน

10. ทำไมค่าธรรมเนียมบางประเภทจึงมีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และคำนวณอย่างไร?

ค่าธรรมเนียมบางประเภทมีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เนื่องจากบริการนั้นๆ ถือเป็นการให้บริการที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมายของกรมสรรพากรในประเทศไทย (ปัจจุบัน 7%) การคำนวณคือการนำค่าธรรมเนียมที่ยังไม่รวม VAT มาคูณด้วย 7% แล้วนำผลลัพธ์ไปบวกเพิ่ม หรือคูณด้วย 1.07 เพื่อให้ได้ยอดค่าธรรมเนียมสุทธิที่รวม VAT แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก เว็บไซต์กรมสรรพากร

發佈留言