บทนำ: Walmart คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญต่อโลกค้าปลีก?
Walmart คือยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกจากสหรัฐอเมริกา ที่ครองตำแหน่งผู้ค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลก หากวัดจากรายได้และจำนวนพนักงานที่สูงที่สุด ไม่ใช่แค่ร้านขายของชำทั่วไป แต่เป็นแบบอย่างของธุรกิจที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมทั้งหมด ด้วยแนวคิดราคาถูกทุกวันและระบบจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ยอดเยี่ยม Walmart ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่ในอเมริกาเท่านั้น แต่ได้แผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วโลก ผ่านสาขาและบริษัทในเครือที่กระจายตัวในหลายประเทศ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจ วิถีชีวิตของผู้บริโภค และทิศทางของอุตสาหกรรมค้าปลีกโดยรวม บทความนี้จะพาคุณสำรวจประวัติศาสตร์อันยาวนาน รูปแบบธุรกิจที่โดดเด่น สถานะในตลาดโลก และที่สำคัญคือความเชื่อมโยงของ Walmart กับประเทศไทย พร้อมตอบคำถามที่คนไทยหลายคนสงสัยเกี่ยวกับยักษ์ค้าปลีกแห่งนี้

ประวัติ Walmart: จากร้านขายของชำเล็กๆ สู่มหาอำนาจค้าปลีกโลก
Walmart ไม่ได้เกิดขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่แรก แต่เติบโตจากแนวคิดที่ชัดเจนและปรัชญาธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก
กำเนิดและวิสัยทัศน์ของ Sam Walton
เรื่องราวของ Walmart เริ่มต้นในปี 1962 เมื่อแซม วอลตัน อดีตทหารและนักธุรกิจผู้มองการณ์ไกล เปิดร้านค้าปลีกแห่งแรกชื่อวอล-มาร์ท ดีสเคานต์ ซิตี้ ในเมืองร็อกเกอร์ส รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา แซมมีแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง คือการนำเสนอสินค้าคุณภาพดีในราคาที่ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พร้อมบริการลูกค้าที่เหนือชั้น เขาเชื่อว่าการรักษาราคาต่ำอย่างต่อเนื่องจะดึงดูดลูกค้าและสร้างความภักดีในระยะยาว โดยมุ่งเป้าไปที่ชุมชนชนบท ซึ่งเป็นตลาดที่ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อื่นๆ มองข้ามไป ตระกูลวอลตันจึงวางรากฐานตำนานค้าปลีกจากแนวคิดนี้ และต่อมาได้พัฒนาเป็นกลยุทธ์ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของบริษัท

การเติบโตและขยายสาขาอย่างรวดเร็ว
ด้วยกลยุทธ์ราคาที่แข็งแกร่งและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ Walmart ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงปี 1970 และ 1980 โดยก้าวไปสู่เมืองเล็กๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา แซม วอลตันเน้นการลงทุนในระบบโลจิสติกส์และเทคโนโลยี เพื่อจัดการคลังสินค้าและการกระจายสินค้าให้รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย เครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าของตัวเองช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน และนำความประหยัดนั้นไปสู่ลูกค้าในรูปของราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอ การเติบโตนี้พา Walmart ขึ้นสู่อันดับหนึ่งของผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯ ภายในปี 1990 และเริ่มบุกตลาดต่างประเทศในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้บริษัทกลายเป็นพลังสำคัญในอุตสาหกรรม
Walmart ทำธุรกิจอะไร? เจาะลึกรูปแบบและกลยุทธ์
Walmart ไม่ใช่แค่ร้านขายของชำธรรมดา แต่เป็นระบบนิเวศค้าปลีกที่ซับซ้อน มาพร้อมกลยุทธ์ที่เฉียบแหลมเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย

โมเดลธุรกิจค้าปลีกแบบครบวงจร
Walmart ดำเนินธุรกิจค้าปลีกแบบครบวงจร ด้วยร้านค้าหลายรูปแบบ เช่น วอลมาร์ท ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่รวมซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าไว้ด้วยกัน นำเสนอสินค้าตั้งแต่ของสด ของใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ของเล่น ยา รวมถึงบริการอย่างศูนย์ซ่อมรถ ร้านขายยา และคลินิกสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีร้านขนาดเล็กอย่าง Neighborhood Markets ที่เน้นสินค้าอุปโภค และ Sam’s Club ซึ่งเป็นคลับสมาชิกที่ขายสินค้าจำนวนมากในราคาส่ง โมเดลนี้ช่วยให้ Walmart ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม และมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบครบจบในที่เดียว โดยปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน
กลยุทธ์ “ราคาถูกทุกวัน” และการบริหารจัดการซัพพลายเชน
หัวใจของความสำเร็จคือกลยุทธ์ราคาถูกทุกวัน ซึ่งหมายถึงการนำเสนอราคาต่ำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่โปรโมชั่นชั่วคราว ความสามารถในการรักษาราคาเหล่านี้มาจากการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ยอดเยี่ยม Walmart มีอำนาจต่อรองสูงกับซัพพลายเออร์ทั่วโลก เพื่อได้สินค้าในต้นทุนต่ำ ระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย การจัดการสต็อกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง และการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ช่วยลดการสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมาก สิ่งเหล่านี้ทำให้ราคาที่ลูกค้าจ่ายต่ำลงจริงๆ Walmart’s supply chain strategies ถือเป็นตัวอย่างที่ศึกษากันมากในวงการธุรกิจ โดยเฉพาะในยุคที่ห่วงโซ่อุปทานต้องเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอก
การขยายสู่ตลาดออนไลน์และ Omnichannel
ในยุคดิจิทัล Walmart ปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยลงทุนมหาศาลในอีคอมเมิร์ซเพื่อแข่งขันกับ Amazon และคู่แข่งอื่นๆ บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ของตัวเอง มีบริการคลิกแอนด์คอลเล็คและจัดส่งถึงบ้าน นอกจากนี้ยังซื้อกิจการอย่าง Jet.com ในอดีต และลงทุนใน Flipkart ซึ่งเป็นผู้นำอีคอมเมิร์ซในอินเดีย การผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ในโมเดล Omnichannel ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกวิธีช้อปที่สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อออนไลน์รับที่ร้านหรือส่งตรงถึงบ้าน สิ่งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Walmart ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
Walmart มีประเทศอะไรบ้าง? อาณาจักรค้าปลีกทั่วโลก
แม้จะเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกา แต่ Walmart ได้ขยายตัวไปทั่วโลก ดำเนินงานในหลายประเทศด้วยชื่อและรูปแบบที่ปรับให้เหมาะสม ในสหรัฐฯ คือ Walmart และ Sam’s Club ในแคนาดาและเม็กซิโกก็ใช้ชื่อ Walmart เช่นกัน สำหรับอเมริกากลางมีแบรนด์อย่าง Walmart Centroamérica และ La Comer Walmart ยังลงทุนในบริษัทท้องถิ่น เช่น Walmart de México y Centroamérica และ Flipkart ในอินเดีย ในอดีตเคยบุกตลาดยุโรปและเอเชีย เช่น เยอรมนี เกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักรผ่าน Asda แต่บางตลาดที่ไม่ประสบความสำเร็จ Walmart ก็ถอนตัวออก โดยเฉพาะที่คู่แข่งท้องถิ่นแข็งแกร่งหรือพฤติกรรมผู้บริโภคแตกต่าง การตัดสินใจเหล่านี้แสดงถึงความยืดหยุ่นของบริษัทในการปรับตัว ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขาและประเทศที่ Walmart ดำเนินงานอยู่ สามารถดูได้จากเว็บไซต์ทางการ ซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมของการขยายตัวที่ครอบคลุม
Walmart ในประเทศไทย: ทำไมเราถึงไม่เห็นสาขาในไทย?
หลายคนในไทยสงสัยว่าทำไม Walmart ซึ่งเป็นยักษ์ค้าปลีกระดับโลก ถึงไม่มีสาขาในประเทศ คำตอบเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้การเข้ามาลงทุนโดยตรงเป็นเรื่องท้าทาย
ปัจจัยที่ทำให้ Walmart ไม่ได้เข้ามาในไทย
สาเหตุหลักที่ Walmart ไม่เปิดสาขาในไทยโดยตรง ได้แก่:
- การแข่งขันที่ดุเดือด: ตลาดค้าปลีกไทยมีผู้เล่นท้องถิ่นแข็งแกร่งอย่าง Central Group, CP All (7-Eleven, Lotus’s, Makro) และ Big C ที่มีเครือข่ายกว้างขวางและเข้าใจลูกค้าไทยดี
 - กฎหมายและข้อจำกัด: การลงทุนต่างชาติในค้าปลีกขนาดใหญ่ต้องเผชิญกฎระเบียบ เช่น พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ทำให้กระบวนการยุ่งยากและใช้เวลานาน
 - พฤติกรรมผู้บริโภค: ลูกค้าไทยอาจชื่นชอบความสะดวกจากร้านใกล้บ้าน โปรโมชั่นแลกเปลี่ยน หรือศูนย์การค้าครบวงจร มากกว่ากลยุทธ์ราคาถูกทุกวันอย่างเดียว
 - ซัพพลายเชนท้องถิ่น: การสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ในไทยเพื่อให้ต้นทุนต่ำเท่าสหรัฐฯ ต้องใช้การลงทุนมหาศาลและเผชิญความท้าทายจากโครงสร้างพื้นฐาน
 
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ Walmart ก็ยังติดตามโอกาสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างใกล้ชิด
วิธีการเข้าถึงสินค้า Walmart สำหรับคนไทย
ถึงแม้ไม่มีสาขาในไทย แต่คุณยังสามารถหาสินค้า Walmart ได้หลายช่องทาง:
- บริการรับหิ้วหรือพรีออเดอร์: ผู้ให้บริการหลายรายรับสินค้าจากสหรัฐฯ หรือประเทศที่มี Walmart แล้วส่งมาไทย โดยมีค่าบริการเพิ่ม
 - อีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ: แพลตฟอร์มอย่าง Amazon US ที่ขายสินค้าแบรนด์ Walmart สามารถส่งตรงหรือใช้บริการส่งต่อ
 - ร้านนำเข้า: ร้านค้าบางแห่งในไทยนำเข้าสินค้ายอดนิยมจาก Walmart มาขาย เช่น ผลิตภัณฑ์สุขภาพหรือของใช้
 - สั่งจาก Walmart.com ผ่านฟอร์เวิร์ดเดอร์: สั่งออนไลน์แล้วใช้บริษัทส่งต่อในสหรัฐฯ รับพัสดุและส่งต่อมาไทย
 
วิธีเหล่านี้ช่วยให้คนไทยเข้าถึงสินค้าคุณภาพในราคาที่น่าสนใจ โดยไม่ต้องเดินทางไกล
Walmart หลอกลวงหรือไม่? ข้อควรระวังและการใช้งานอย่างปลอดภัย
คำถามเรื่อง Walmart หลอกลวง มักเกิดจากมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อบริษัท ไม่ใช่ตัว Walmart เองซึ่งเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย
กลโกงที่พบบ่อย ได้แก่:
- เว็บปลอม: สร้างไซต์เลียนแบบ Walmart.com เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิตหรือส่วนตัว
 - อีเมลฟิชชิ่ง: ส่งเมลปลอมอ้างจาก Walmart ขอข้อมูลหรือลิงก์อันตราย
 - โปรโมชั่นหลอก: โฆษณาลดราคาหรือแจกของฟรีบนโซเชียลที่ดูดีเกินจริง
 - หลอกจ้างงาน: เสนองาน Walmart แต่เรียกเงินหรือข้อมูล
 
เคล็ดลับป้องกัน:
- ตรวจ URL ให้แน่ใจว่าเป็น https://www.walmart.com และสะกดถูกต้อง
 - อย่าคลิกลิงก์จากอีเมลหรือข้อความน่าสงสัย หากไม่แน่ใจให้ติดต่อ Walmart โดยตรง
 - ไม่ให้ข้อมูล敏感 เช่น รหัสผ่านหรือ PIN ทางอีเมลหรือโทรศัพท์
 - ใช้ช่องทางทางการจากเว็บหลักเท่านั้น
 - สำหรับบริการรับหิ้ว ตรวจรีวิวและความน่าเชื่อถือก่อน
 
ด้วยการระวังเหล่านี้ คุณจะช้อปได้อย่างปลอดภัย
บทสรุป: อิทธิพลของ Walmart และอนาคตของค้าปลีก
Walmart ยังคงเป็นกำลังหลักที่กำหนดทิศทางอุตสาหกรรมค้าปลีกทั่วโลก ด้วยขนาดใหญ่ การเข้าถึงกว้าง และกลยุทธ์ที่เน้นราคาถูกกับประสิทธิภาพ บริษัทได้ตั้งมาตรฐานใหม่และเปลี่ยนแปลงการช้อปปิ้งของผู้บริโภค การปรับตัวสู่ดิจิทัล การลงทุนในอีคอมเมิร์ซและ Omnichannel แสดงถึงความมุ่งมั่นในการนำหน้า
ในอนาคต Walmart น่าจะนำนวัตกรรมอย่าง AI การวิเคราะห์ข้อมูล หุ่นยนต์ในคลัง และการส่งด้วยโดรนหรือรถอัตโนมัติ นอกจากนี้ ความยั่งยืน การจัดหาสินค้าที่มีจริยธรรม และความรับผิดชอบสังคม จะเป็นจุดเน้นมากขึ้น แม้ไม่มีสาขาในไทย แต่การเรียนรู้จากโมเดลนี้ยังคงเป็นบทเรียนมีค่าต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Walmart (FAQs)
Walmart ในประเทศไทยมีสาขาหรือไม่? ถ้าไม่มี ทำไมถึงไม่มี?
ปัจจุบัน Walmart ไม่มีสาขาในประเทศไทย การที่ Walmart ไม่เข้ามาลงทุนโดยตรงในไทยเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ค้าปลีกท้องถิ่นขนาดใหญ่ (เช่น Central Group, CP All), กฎระเบียบด้านการลงทุนของต่างชาติ, และพฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่แตกต่างออกไป
คนไทยจะสั่งซื้อสินค้าจาก Walmart ทางออนไลน์ได้อย่างไร? มีช่องทางไหนบ้าง?
คนไทยสามารถสั่งซื้อสินค้าจาก Walmart ได้หลายวิธี:
- ใช้บริการรับหิ้วหรือพรีออเดอร์จากผู้ให้บริการที่รับสินค้าจากสหรัฐฯ
 - สั่งซื้อจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศบางแห่งที่จัดส่งมาไทย (เช่น Amazon US ที่อาจมีสินค้าคล้ายกัน)
 - ใช้บริการของบริษัทส่งต่อพัสดุ (Forwarder) ที่มีที่อยู่ในสหรัฐฯ เพื่อรับสินค้าจาก Walmart.com แล้วส่งต่อมาไทย
 - ซื้อสินค้าจากร้านค้านำเข้าในไทยที่นำเข้าสินค้าแบรนด์ดังที่วางจำหน่ายใน Walmart มาขาย
 
Walmart หลอกลวงหรือไม่? มีวิธีตรวจสอบเว็บไซต์หรือร้านค้าที่แอบอ้างชื่อ Walmart อย่างไร?
Walmart เป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ทำการหลอกลวงลูกค้า แต่มีมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างชื่อ Walmart เพื่อหลอกลวงผู้คน วิธีตรวจสอบคือ:
- ตรวจสอบ URL: ต้องเป็น 
https://www.walmart.comเท่านั้น - ระวังอีเมล/ข้อความปลอม: อย่าคลิกลิงก์ที่น่าสงสัย ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่ไม่จำเป็น
 - ความน่าเชื่อถือ: หากเป็นโปรโมชั่นที่ดูดีเกินจริง ให้สงสัยไว้ก่อนเสมอ
 - ช่องทางทางการ: ติดต่อ Walmart ผ่านช่องทางที่เป็นทางการบนเว็บไซต์หลักเท่านั้น
 
Walmart แตกต่างจากห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตในไทยอย่างไร?
Walmart มีโมเดลธุรกิจที่เน้นกลยุทธ์ “ราคาถูกทุกวัน” (Everyday Low Prices) เป็นหลัก โดยมีขนาดร้านที่ใหญ่มาก (Supercenters) ที่รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าเข้าไว้ด้วยกัน นำเสนอสินค้าหลากหลายชนิดในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งแตกต่างจากห้างสรรพสินค้าไทยที่มักเน้นแบรนด์และประสบการณ์การช้อปปิ้ง หรือซูเปอร์มาร์เก็ตไทยที่อาจเน้นโปรโมชั่นลดราคาเป็นช่วงๆ
Walmart มีสินค้าอะไรที่คนไทยนิยมสั่งซื้อเป็นพิเศษบ้าง?
สินค้าจาก Walmart ที่คนไทยนิยมสั่งซื้อผ่านช่องทางนำเข้าหรือรับหิ้วมักจะเป็นสินค้าที่หาซื้อยากในไทย หรือมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับคุณภาพ เช่น:
- วิตามินและอาหารเสริมบางยี่ห้อ
 - เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางแบรนด์
 - สินค้าสำหรับเด็กบางชนิด
 - ของเล่นหรือของสะสมลิมิเต็ดอิดิชั่น
 - สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กหรืออุปกรณ์เสริม
 
ตระกูล Walton ผู้ก่อตั้ง Walmart ยังคงมีบทบาทในบริษัทอย่างไร?
ตระกูล Walton ยังคงมีบทบาทสำคัญใน Walmart โดยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท และมีสมาชิกในตระกูลนั่งอยู่ในคณะกรรมการบริหาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลและวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งที่ยังคงส่งผลต่อทิศทางและกลยุทธ์ของบริษัทในปัจจุบัน
นอกจาก Walmart แล้ว มีบริษัทค้าปลีกระดับโลกอื่นๆ ที่น่าสนใจสำหรับคนไทยอีกไหม?
แน่นอนว่ามีบริษัทค้าปลีกระดับโลกอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น:
- Amazon: ผู้นำด้าน E-commerce ที่มีบริการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศ
 - Costco: คลังสินค้าแบบสมาชิกที่เน้นสินค้าราคาส่งคุณภาพสูง
 - IKEA: ร้านค้าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสัญชาติสวีเดน
 - Carrefour/Tesco: อดีตผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดค้าปลีกไทยที่ยังคงมีอิทธิพลในระดับโลก
 
หากต้องการลงทุนในหุ้น Walmart (WMT) นักลงทุนไทยต้องทำอย่างไร?
นักลงทุนไทยที่ต้องการลงทุนในหุ้น Walmart (WMT) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) สามารถทำได้ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยที่มีบริการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ หรือผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่รองรับนักลงทุนไทย โดยต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศและทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนการลงทุน
Walmart มีนโยบายคืนสินค้าหรือเปลี่ยนสินค้าอย่างไร?
Walmart มีนโยบายคืนสินค้าและเปลี่ยนสินค้าที่ค่อนข้างยืดหยุ่น โดยทั่วไปอนุญาตให้คืนสินค้าส่วนใหญ่ภายใน 90 วันพร้อมใบเสร็จรับเงิน สินค้าบางประเภทอาจมีเงื่อนไขหรือระยะเวลาที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับการซื้อสินค้าจาก Walmart ผ่านช่องทางนอกสหรัฐฯ เช่น บริการรับหิ้วหรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ นโยบายการคืนสินค้าจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้ให้บริการแต่ละราย
Walmart มีแผนที่จะเข้ามาเปิดสาขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ในอนาคตหรือไม่?
ปัจจุบัน Walmart ยังไม่มีการประกาศแผนการที่ชัดเจนว่าจะเข้ามาเปิดสาขาโดยตรงในประเทศไทยหรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าจะมีศักยภาพของตลาด แต่บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดปัจจุบันและขยายธุรกิจ E-commerce ในภูมิภาคที่มีการลงทุนอยู่แล้ว เช่น อินเดีย (ผ่าน Flipkart)