ในวงการเงินทุนและการลงทุนที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ชื่อ “XAU” อาจเคยดังหูคุณมาบ้าง แต่คุณอาจยังไม่ชัดเจนว่ามันหมายถึงอะไร โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการซื้อขายในตลาดสากล บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ XAU อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมายพื้นฐาน ความเชื่อมโยงกับการลงทุนในทองคำ ไปจนถึงเหตุผลที่ทำให้ XAUUSD กลายเป็นคู่สินทรัพย์ยอดฮิตสำหรับนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะมือใหม่ในไทย เราจะสำรวจทุกแง่มุม ตั้งแต่ที่มาของสัญลักษณ์ ปัจจัยที่กำหนดราคา วิธีเริ่มต้นเทรด XAUUSD และการเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นในการลงทุนทองคำ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

XAU คืออะไร? ความหมายและที่มาของสัญลักษณ์ทองคำสากล
XAU คือรหัสมาตรฐานที่ใช้แทนทองคำในตลาดการเงิน โดยเฉพาะการซื้อขายข้ามชาติและตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่าง Forex การรู้จักรากฐานและความหมายของมันคือก้าวแรกที่ขาดไม่ได้สำหรับนักลงทุนทุกประเภท
XAU ย่อมาจากอะไร?
XAU มาจากมาตรฐาน ISO 4217 ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์สากลสำหรับรหัสสกุลเงินและโลหะมีค่า โดยแบ่งเป็น:
- X: ตัวนำหน้าสำหรับโลหะมีค่าที่ยังไม่ผูกกับสกุลเงินของชาติใดชาติหนึ่ง
- AU: สัญลักษณ์เคมีของทองคำ จากคำละตินว่า “Aurum”
รหัสนี้จึงกลายเป็นเครื่องมือสากลที่ทุกคนเข้าใจตรงกันสำหรับทองคำในฐานะสินทรัพย์ทางการเงิน แตกต่างจากรหัสเงินทั่วไปที่สองตัวแรกบ่งบอกประเทศ เช่น USD สำหรับดอลลาร์อเมริกัน หรือ THB สำหรับบาทไทย มาตรฐานนี้ช่วยให้การแลกเปลี่ยนและทำธุรกรรมเกี่ยวกับทองคำราบรื่นทั่วโลก สามารถอ้างอิงได้จาก มาตรฐาน ISO 4217

XAU ต่างจากทองคำทั่วไปอย่างไร?
จุดต่างหลักระหว่าง XAU ในตลาดการเงินกับทองคำที่เราคุ้นเคย เช่น แท่งทองหรือเครื่องประดับ คือรูปแบบและจุดประสงค์ในการถือ
- XAU ในตลาดการเงิน: หมายถึงทองคำแบบดิจิทัลหรือสัญญาทางการเงิน เช่น CFD ที่ไม่ต้องรับมอบทองจริง นักลงทุนเล่นเพื่อชิงกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคา ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ข้อดีคือคล่องตัวสูง เปิดซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ และใช้เลเวอเรจขยายพลังซื้อได้
- ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ: เป็นทองจริงที่จับต้องได้ มักซื้อแท่งเพื่อสะสมมูลค่า ส่วนรูปพรรณเพื่อสวมใส่หรือมอบเป็นของขวัญ แต่มีค่ากำเหน็จเพิ่ม การลงทุนแบบนี้ต้องคิดถึงการเก็บรักษา ความปลอดภัย และค่าธรรมเนียมที่อาจแพงกว่าการเทรด XAU
สรุปแล้ว XAU เน้นการเทรดแบบยืดหยุ่นเพื่อกำไร ในขณะที่ทองแท่งและรูปพรรณเหมาะกับการถือครองจริง
เจาะลึก XAUUSD: คู่สกุลเงินทองคำและดอลลาร์สหรัฐฯ
ในตลาดการเงิน เมื่อเอ่ยถึง XAU สิ่งที่พบเจอบ่อยคือ XAUUSD ซึ่งเป็นคู่สกุลหลักที่นักลงทุนชื่นชอบมาก

XAUUSD คืออะไร? ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและดอลลาร์
XAUUSD แสดงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างทองคำ (XAU) กับดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดย XAU เป็นฐานหลัก และ USD เป็นสกุลอ้างอิง ราคาที่เห็นจึงบอกว่าทองคำ 1 ออนซ์เท่ากับเงินดอลลาร์กี่ดอลลาร์
ความเชื่อมโยงระหว่างทองคำกับดอลลาร์สำคัญมาก โดยปกติทั้งคู่เคลื่อนไหวตรงข้ามกัน (Negative Correlation) คือ:
- ดอลลาร์แข็ง ราคา XAUUSD มักตก
- ดอลลาร์อ่อน ราคา XAUUSD มักขึ้น
เพราะทองคำซื้อขายด้วยดอลลาร์ทั่วโลก ถ้าดอลลาร์แพงขึ้น การซื้อทองด้วยเงินอื่นจะถูกกว่า ส่งผลให้需求ลดและราคากดลง แต่ถ้าดอลลาร์อ่อน การซื้อจะถูกสำหรับต่างชาติ ทำให้需求พุ่งและราคาขึ้น นี่คือสิ่งที่เทรดเดอร์ XAUUSD ต้องจับตาตลอด
ทำไม XAUUSD ถึงเป็นที่นิยมในการเทรด?
XAUUSD ฮิตในตลาดด้วยเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้มันโดดเด่น:
- สินทรัพย์ปลอดภัย: ทองคำคือที่พึ่งในยามตลาดปั่นป่วน เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางการเมือง หรือเงินเฟ้อพุ่ง นักลงทุนจึงหันมาถือเพื่อรักษาเงินต้น
- สภาพคล่องดีเยี่ยม: ตลาดทองคือหนึ่งในตลาดที่ไหลลื่นที่สุด ซื้อขาย XAUUSD ได้เร็ว 24 ชั่วโมง 5 วัน ด้วยสเปรดต่ำ
- ความผันผวนน่าลงทุน: ราคาแกว่งตัวมากกว่าคู่สกุลหลักบางตัว เปิดช่องทำกำไรทั้งซื้อและขาย ถ้าวิเคราะห์ดีและจัดการความเสี่ยง
- เข้าถึงสะดวก: แพลตฟอร์มออนไลน์พัฒนาขึ้น ทำให้รายย่อยเทรด XAUUSD ผ่านโบรกเกอร์ CFD หรือ Forex ได้ง่าย
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ XAUUSD เหมาะสำหรับนักลงทุนที่อยากกระจายพอร์ตหรือลุ้นกำไรจากราคาทองโลก
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคา XAUUSD
ราคา XAUUSD ไม่เคลื่อนไหวเพราะปัจจัยเดี่ยว แต่มาจากเศรษฐกิจและเหตุการณ์โลกหลากหลาย การเข้าใจจะช่วยตัดสินใจได้ชาญฉลาด
ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค
เศรษฐกิจใหญ่ๆ ส่งผลต่อทองคำชัดเจน เพราะมันคือเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง:
- เงินเฟ้อ: ถ้าเฟ้อพุ่ง มูลค่าเงินลด นักลงทุนจึงซื้อทองเพื่อกันเงินเฟ้อกัดกิน ส่งผลราคาขึ้น
- ดอกเบี้ย: ถ้าธนาคารกลางอย่าง Fed ขึ้นดอกเบี้ย การถือเงินดอลลาร์จะให้ผลตอบแทนดีกว่า ทองที่ไม่มีดอกเบี้ยจึงน่าสนใจน้อยลง ราคากด
- นโยบายการเงิน: ถ้าผ่อนคลาย เช่น QE หรือลดดอกเบี้ย สภาพคล่องเพิ่ม เงินอ่อน ราคาทองพุ่ง
- ตัวเลขเศรษฐกิจ: ข้อมูลอย่าง GDP การว่างงาน CPI หรือ Non-Farm Payrolls ส่งผลต่อดอลลาร์และความเชื่อมั่น สะท้อนถึงทอง
นักลงทุนควรติดตามข่าวจากแหล่งน่าเชื่อถือ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธนาคารกลางอื่นๆ เพื่อคาดการณ์ตลาด
ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอน
เหตุการณ์โลกที่คาดไม่ถึงมักกระตุ้น需求ทองในฐานะที่หลบภัย:
- ความขัดแย้งและสงคราม: ถ้าทะเลาะกันทางการเมืองหรือมีสงคราม นักลงทุนรีบหาที่มั่นคง ทองคือตัวเลือกหลัก ราคาพุ่ง
- วิกฤตเศรษฐกิจ: ถ้ามีฟองสบู่แตก ธนาคารล้ม หรือหนี้ประเทศพุ่ง ตลาดตื่นตระหนก ทุกคนแห่ซื้อทอง
- โรคระบาดและภัยพิบัติ: เหตุไม่คาดฝันอย่างโควิดหรือภัยธรรมชาติ สร้างความไม่แน่นอน ส่ง需求ทองขึ้น
ในภาวะเหล่านี้ ทองทำหน้าที่ปกป้องทุน ทำให้ราคาเชื่อมโยงกับระดับความเสี่ยงโลก
เริ่มต้นเทรด XAUUSD ในประเทศไทย: สิ่งที่คุณควรรู้
สำหรับนักลงทุนไทยที่อยากลองเทรด XAUUSD มีเรื่องต้องเตรียมให้พร้อม เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นและปลอดภัย
แพลตฟอร์มและโบรกเกอร์ยอดนิยมสำหรับเทรด XAUUSD ในไทย
การเลือกโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มคือกุญแจสำคัญสำหรับการเทรด XAUUSD ในไทย นักลงทุนไทยนิยมโบรกเกอร์ Forex/CFD ที่รองรับออนไลน์ โดยตัวเลือกฮิตๆ มีดังนี้:
- Exness: โดดเด่นด้วยสเปรดต่ำและบัญชีหลากหลาย เหมาะทั้งมือใหม่และโปร
- FBS: ยอดนิยมในเอเชีย มีโปรโมชั่นโบนัส และฝากถอนไว
- XM: บริการมานาน สนับสนุนลูกค้าดี และมีคอร์สเรียนรู้เพียบ
- FXTM (ForexTime): น่าเชื่อถือ มีเครื่องมือวิเคราะห์และแพลตฟอร์มสมัยใหม่
เวลาพิจารณาโบรกเกอร์ ดูจาก:
- การกำกับดูแล: ต้องมีใบอนุญาตจาก CySEC, FCA, ASIC เพื่อคุ้มครองเงิน
- สเปรดและค่าคอม: เช็คค่าซื้อขายให้คุ้มค่า
- แพลตฟอร์ม: ส่วนใหญ่ใช้ MT4 หรือ MT5 ที่มีเครื่องมือครบ
- บริการลูกค้าและฝากถอน: ต้องติดต่อง่าย และรองรับช่องทางไทย
ขั้นตอนการเปิดบัญชีและเริ่มเทรดสำหรับมือใหม่
มือใหม่ไทยเริ่มเทรด XAUUSD ไม่ยาก แต่ต้องละเอียด:
- เลือกโบรกเกอร์: ศึกษาจากปัจจัยข้างต้น
- เปิดบัญชี: ไปเว็บโบรกเกอร์ กรอกข้อมูล มีบัญชีมาตรฐานหรือเซ็นต์สำหรับมือใหม่
- ยืนยันตัวตน (KYC): อัปโหลดบัตรประชาชนและหลักฐานที่อยู่ เช่น ค่าไฟ เพื่อป้องกันฟอกเงิน
- ฝากเงิน: หลังอนุมัติ ฝากผ่านธนาคารไทย QR หรือบัตรเครดิต
- ดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม: ติดตั้ง MT4/MT5 บน PC หรือมือถือ
- เริ่มเทรด: ล็อกอิน หา XAUUSD เริ่มด้วยเดโมเพื่อฝึก
มือใหม่ควรลอง บัญชีทดลอง ก่อน เพื่อทำความคุ้นเคยกับการเปิดออเดอร์ Stop Loss Take Profit โดยไม่เสี่ยงเงินจริง
การบริหารความเสี่ยงและจิตวิทยาการเทรด XAUUSD
XAUUSD ผันผวนแรง ต้องบริหารเสี่ยงและจิตใจให้ดี:
- ตั้ง Stop Loss และ Take Profit: หยุดขาดทุนเพื่อจำกัดเสีย ล็อกกำไรเมื่อถึงเป้า
- จัดการ Lot Size: อย่าลงมากเกินทุน คำนวณให้ทนผันผวนได้
- เลเวอเรจพอดี: ใช้เพิ่มกำไรแต่ระวังเสี่ยงขาดทุน
- ควบคุมอารมณ์: อย่าโลภหรือกลัว ยึดแผน
- เรียนรู้ต่อเนื่อง: ติดตามกราฟ ข่าว ปัจจัย เพื่อเพิ่มโอกาส
เทรด XAUUSD ต้องการความรู้ ทักษะ วินัย เริ่มรอบคอบและเน้นเสี่ยง จะอยู่รอดนาน
XAUUSD กับการลงทุนทองคำในรูปแบบอื่นๆ: เปรียบเทียบเพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด
นอกจากเทรด XAUUSD นักลงทุนไทยมีทางเลือกทองคำอื่น การเปรียบเทียบช่วยเลือกที่เหมาะกับเป้าหมายและเสี่ยง
XAUUSD vs ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ
ทองแท่งหรือรูปพรรณคือลงทุนจริง ต่างจาก XAUUSD ชัดเจน
| คุณสมบัติ | XAUUSD (เทรด CFD) | ทองคำแท่ง/ทองรูปพรรณ |
|---|---|---|
| รูปแบบ | สัญญาทางการเงิน (ดิจิทัล) | สินทรัพย์กายภาพ (จับต้องได้) |
| วัตถุประสงค์หลัก | เก็งกำไรจากราคา, กระจายความเสี่ยง | เก็บรักษามูลค่า, ป้องกันเงินเฟ้อ, สะสม |
| การซื้อขาย | ออนไลน์, 24 ชม./5 วัน, เลเวอเรจได้ | ร้านทอง, มีเวลาทำการ, ไม่มีเลเวอเรจ |
| สภาพคล่อง | สูงมาก, ซื้อขายได้ทันที | สูง (ทองแท่ง), ปานกลาง (ทองรูปพรรณมีค่ากำเหน็จ) |
| ต้นทุน | สเปรด, ค่า Swap, ค่าคอมมิชชั่น (บางบัญชี) | ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย, ค่ากำเหน็จ (ทองรูปพรรณ), ค่าเก็บรักษา |
| การเก็บรักษา | ไม่มี, เป็นดิจิทัล | ต้องเก็บรักษาเอง (ตู้เซฟ, ธนาคาร) มีความเสี่ยงสูญหาย/ถูกขโมย |
| ข้อดี | ยืดหยุ่น, ใช้เงินน้อยกว่า, ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น/ลง, เข้าถึงง่าย | จับต้องได้, ให้ความรู้สึกมั่นคง, ไม่มี Counterparty Risk (โบรกเกอร์ล้ม) |
| ข้อเสีย | มีความเสี่ยงสูงจากเลเวอเรจ, ต้องเข้าใจแพลตฟอร์ม, มี Counterparty Risk | สภาพคล่องน้อยกว่า, มีค่าใช้จ่ายแฝง, ต้องเก็บรักษาเอง, ทำกำไรได้ทางเดียว (ขาขึ้น) |
XAUUSD vs กองทุนรวมทองคำและ Gold ETF
กองทุนรวมทองและ Gold ETF คือลงทุนทางอ้อมในทอง ต่างจาก XAUUSD ตรงจุดเด่นและข้อจำกัด
- กองทุนรวมทองคำ: ผู้จัดการกองนำเงินไปลงทองหรือสัญญาอ้างอิง ข้อดีคือไม่ต้องจัดการเอง มีโปรดูแล กระจายเสี่ยง แต่มีค่าดูแล ไม่มีเลเวอเรจ
- Gold ETF: กองทุนซื้อขายในตลาดหุ้นเหมือนหุ้น ลงทุนในทองแท่งหรือสัญญา สภาพคล่องสูง เข้าถึงง่าย แต่มีค่าดูแล
เทียบกับ XAUUSD:
- ยืดหยุ่นและเลเวอเรจ: XAUUSD ยืดหยุ่นกว่า ใช้เลเวอเรจเพิ่มผลตอบแทน ซึ่งกองทุนไม่มี
- เสี่ยง: XAUUSD เสี่ยงสูงจากเลเวอเรจและเก็งกำไร กองทุนเสี่ยงต่ำ เหมาะลงทุนยาวไม่ชอบผันผวน
- จัดการ: XAUUSD ต้องตัดสินใจเอง กองทุนมีผู้เชี่ยวชาญ
การเลือกรูปแบบขึ้นกับเป้าหมาย ระยะเวลา เสี่ยง และความรู้ในสินทรัพย์
สรุป: XAU คืออะไร และคุณพร้อมสำหรับโลกการเทรดทองคำแล้วหรือยัง?
XAU คือรหัสสากลสำหรับทองคำในตลาดเงิน โดย XAUUSD ที่เทียบกับดอลลาร์กลายเป็นสินทรัพย์ฮิตสำหรับเก็งกำไรจากราคาทองและเป็นที่หลบภัยในยามเศรษฐกิจโลกโกลาหล การเข้าใจปัจจัยเศรษฐกิจใหญ่และภูมิรัฐศาสตร์ที่กระทบราคา XAUUSD คือสิ่งจำเป็น
สำหรับคนไทย เริ่มเทรด XAUUSD ต้องเลือกโบรกเกอร์ไว้ใจ รู้ขั้นตอนเปิดบัญชี และเคร่งครัดเรื่องบริหารเสี่ยงกับจิตวิทยาเทรด การเทียบ XAUUSD กับทางเลือกอื่นอย่างทองแท่ง กองทุน หรือ ETF ช่วยให้เลือกถูกต้องตามสไตล์
โลกเทรดทอง XAUUSD มีโอกาสกำไรสูงแต่เสี่ยงไม่แพ้ ต้องเตรียมความรู้ ฝึกฝน วินัย ถ้าพร้อมเรียนรู้และรับเสี่ยง XAUUSD อาจเป็นเครื่องมือเจ๋งในพอร์ตคุณ
XAUUSD กับ Gold (ทองคำแท่ง/ทองรูปพรรณ) ต่างกันอย่างไร และควรลงทุนแบบไหนดีกว่ากันสำหรับคนไทย?
XAUUSD เป็นการเทรดสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ที่อ้างอิงราคาทองคำ ไม่มีทองคำจริง นักลงทุนเก็งกำไรจากราคาขึ้นลง ใช้เลเวอเรจได้ แต่มีความเสี่ยงสูง ส่วนทองคำแท่ง/ทองรูปพรรณคือการซื้อทองคำจริงเพื่อเก็บรักษามูลค่า สำหรับคนไทย หากต้องการเก็งกำไรระยะสั้นและรับความเสี่ยงได้สูง XAUUSD อาจเหมาะสมกว่า แต่ถ้าต้องการเก็บออมระยะยาว ป้องกันเงินเฟ้อ และจับต้องได้ ทองคำแท่งจะตอบโจทย์กว่า
เทรด XAUUSD ขั้นต่ำเท่าไหร่ และต้องใช้เงินเริ่มต้นประมาณกี่บาทไทย?
การเทรด XAUUSD ไม่มีขั้นต่ำตายตัว ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และประเภทบัญชี บางโบรกเกอร์สามารถเปิดบัญชี Cent (เซ็นต์) ได้ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 10-50 USD (ประมาณ 300-1,800 บาทไทย) แต่แนะนำให้เริ่มต้นด้วยเงินทุนที่มากกว่านี้ เช่น 100-500 USD เพื่อให้สามารถบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น
ทองคำ 1 ออนซ์ เทียบเป็นน้ำหนักทองคำไทย (บาททองคำ) ได้เท่าไหร่ และมีผลต่อการคำนวณกำไร-ขาดทุนอย่างไร?
ทองคำ 1 ออนซ์ (Troy Ounce) มีน้ำหนักประมาณ 31.1035 กรัม สำหรับทองคำไทย 1 บาท มีน้ำหนัก 15.244 กรัม (ทองคำแท่ง) ดังนั้น ทองคำ 1 ออนซ์ จะมีน้ำหนักประมาณ 2.04 บาททองคำไทย การทำความเข้าใจหน่วยนี้สำคัญในการแปลงราคาจากดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ไปเป็นบาทไทยต่อบาททองคำ เพื่อประเมินกำไร-ขาดทุนในการเทรด XAUUSD
การเทรด XAUUSD มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่นักลงทุนมือใหม่ในไทยควรรู้ และมีวิธีบริหารความเสี่ยงอย่างไร?
ความเสี่ยงหลักคือความผันผวนสูง การใช้เลเวอเรจสูงเกินไป และความเสี่ยงจากโบรกเกอร์ (Counterparty Risk) สำหรับมือใหม่ควรรู้จัก:
- ความเสี่ยงด้านราคา: ราคาผันผวนรุนแรง อาจขาดทุนเร็ว
- ความเสี่ยงด้านเลเวอเรจ: เพิ่มทั้งกำไรและขาดทุนในสัดส่วนที่สูง
- ความเสี่ยงจากโบรกเกอร์: หากโบรกเกอร์ไม่น่าเชื่อถือ อาจมีปัญหาการฝากถอนหรือการปิดบัญชี
วิธีบริหารความเสี่ยง: ตั้ง Stop Loss เสมอ, บริหารขนาด Lot ให้เหมาะสมกับเงินทุน, ไม่ใช้เลเวอเรจเกินตัว, เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแล, และเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง
โบรกเกอร์ XAUUSD เจ้าไหนที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุนในประเทศไทย?
โบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงในหมู่นักลงทุนไทย ได้แก่ Exness, FBS, XM และ FXTM (ForexTime) โบรกเกอร์เหล่านี้มักจะมีทีมสนับสนุนภาษาไทย มีช่องทางการฝากถอนที่สะดวกสำหรับคนไทย และมีใบอนุญาตกำกับดูแลจากหน่วยงานสากลที่น่าเชื่อถือ
มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมอะไรบ้างในการเทรด XAUUSD ที่นักลงทุนไทยต้องพิจารณา?
ค่าใช้จ่ายหลักในการเทรด XAUUSD ได้แก่:
- สเปรด (Spread): ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask เป็นค่าธรรมเนียมหลักที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
- ค่า Swap (Rollover Fee): ค่าธรรมเนียมการถือสถานะข้ามคืน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งบวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับทิศทางการเทรดและอัตราดอกเบี้ย
- ค่าคอมมิชชั่น (Commission): บางประเภทบัญชี (เช่น ECN) อาจมีค่าคอมมิชชั่นต่อการซื้อขาย
- ค่าธรรมเนียมการฝากถอน: บางโบรกเกอร์อาจมีค่าธรรมเนียมในการฝากหรือถอนเงิน แต่ส่วนใหญ่มักไม่มี
นักลงทุนควรตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายเหล่านี้กับโบรกเกอร์ที่เลือก
XAU อ่าน ว่าอะไร และทำไมถึงใช้สัญลักษณ์นี้แทนทองคำในการซื้อขาย?
XAU อ่านว่า “เอ็กซ์-เอ-ยู” หรือบางคนอาจเรียกว่า “ซาว” (แบบภาษาอังกฤษ X-A-U) สัญลักษณ์นี้ใช้แทนทองคำในการซื้อขายตามมาตรฐาน ISO 4217 ซึ่ง “X” หมายถึงโลหะมีค่าที่ไม่ได้เป็นสกุลเงินของประเทศใด และ “AU” เป็นสัญลักษณ์ทางเคมีของทองคำ ทำให้เป็นรหัสสากลที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับทั่วโลกในตลาดการเงิน
การลงทุนใน XAUUSD ต้องเสียภาษีกำไรในประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร?
ตามกฎหมายภาษีของประเทศไทย กำไรจากการเทรด Forex หรือ CFD (ซึ่งรวมถึง XAUUSD) ถือเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 4 (มาตรา 40(4)) ซึ่งต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่เนื่องจากโบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์ต่างประเทศ และกำไรไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยตรง ทำให้การติดตามและจัดเก็บภาษีเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย หากมีกำไรจากการลงทุน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความถูกต้อง
มีช่วงเวลาไหนบ้างที่เหมาะสมกับการเทรด XAUUSD มากที่สุดตามเวลาประเทศไทย?
XAUUSD ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดมักจะเป็นช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนมาก ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ตลาดหลักของโลกเปิดทำการ:
- ตลาดลอนดอน (ยุโรป): ประมาณ 14:00 – 22:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
- ตลาดนิวยอร์ก (สหรัฐอเมริกา): ประมาณ 19:00 – 03:00 น. (วันถัดไป) ตามเวลาประเทศไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กคาบเกี่ยวกัน (ประมาณ 19:00 – 22:00 น. ไทย) มักจะมีความผันผวนและโอกาสในการเทรดสูง
นอกจาก XAUUSD แล้ว คนไทยมีทางเลือกในการลงทุนทองคำดิจิทัลอื่นๆ อีกหรือไม่?
นอกจาก XAUUSD แล้ว คนไทยยังมีทางเลือกในการลงทุนทองคำดิจิทัลอื่นๆ เช่น:
- Gold Wallet / Gold Saving: การออมทองผ่านแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มของร้านทองหรือธนาคารบางแห่ง สามารถซื้อขายทองคำได้เป็นหน่วยเล็กๆ และมีทองคำจริงหนุนหลัง
- Gold Token / Crypto Gold: เหรียญคริปโตที่ตรึงมูลค่ากับทองคำ เช่น PAX Gold (PAXG) หรือ Tether Gold (XAUT) ซึ่งสามารถซื้อขายได้บนกระดานแลกเปลี่ยนคริปโต
แต่ละทางเลือกมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ควรศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน