66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ: 5 สิ่งที่นักลงทุนไทยต้องรู้ ก่อนตัดสินใจเลือกหุ้นที่ใช่

Home / เริ่มต้นเทรด / หุ้...

meetcinco_com | 30 10 月

หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ: 5 สิ่งที่นักลงทุนไทยต้องรู้ ก่อนตัดสินใจเลือกหุ้นที่ใช่

บทนำ: ทำความรู้จักหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิในตลาดหุ้นไทย

การลงทุนในตลาดหุ้นไทยนับเป็นวิธีสร้างความมั่งคั่งที่หลายคนเลือกใช้ เพราะช่วยให้มีโอกาสเติบโตทางการเงินได้ดี หากนักลงทุนเข้าใจถึงประเภทหุ้นต่างๆ โดยเฉพาะหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งเป็นสองประเภทหลักที่พบเห็นบ่อยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การรู้จักความแตกต่างในด้านสิทธิประโยชน์และลักษณะเฉพาะของแต่ละประเภท จะช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนให้ตรงกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้มากขึ้น บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับหุ้นทั้งสองประเภท พร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริบทของตลาดทุนไทย เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น

ภาพประกอบใบหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิลอยเหนือแผนที่ประเทศไทย

หุ้นสามัญ คืออะไร? สิทธิและลักษณะเด่นที่ควรรู้

หุ้นสามัญคือหลักทรัพย์ที่แสดงถึงส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของในบริษัท ถือเป็นรูปแบบการลงทุนพื้นฐานที่พบได้ทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ถือหุ้นประเภทนี้จึงกลายเป็นเจ้าของบริษัทอย่างแท้จริง มีสิทธิ์แบ่งปันกำไรและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจบริหารจัดการ

ภาพประกอบกลุ่มนักลงทุนหลากหลายยกมือในห้องประชุม แสดงถึงสิทธิออกเสียง

ลักษณะเด่นของหุ้นสามัญ

สิทธิออกเสียง: ผู้ถือหุ้นสามัญสามารถมีส่วนร่วมในการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อลงคะแนนในประเด็นสำคัญ เช่น การเลือกตั้งหรือปลดคณะกรรมการ การรับรองงบการเงิน หรือการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบของบริษัท ซึ่งช่วยให้คุณมีบทบาทในธรรมาภิบาลขององค์กร

เงินปันผล: การได้รับเงินปันผลจากหุ้นสามัญขึ้นอยู่กับผลประกอบการและนโยบายของบริษัท ถ้าธุรกิจไปได้สวย คุณอาจได้ปันผลจำนวนมาก แต่ถ้าผลประกอบการย่ำแย่ ปันผลอาจน้อยลงหรือไม่มีเลย

โอกาสในการเติบโตของราคา: หุ้นสามัญมักมีโอกาสให้ราคาเพิ่มขึ้นสูง หากบริษัทขยายตัวต่อเนื่องและมีแนวโน้มธุรกิจที่น่าจับตา คุณจึงมีช่องทางสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาได้ดี

สิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์: ถ้าบริษัทต้องปิดกิจการ ผู้ถือหุ้นสามัญจะได้รับการชำระคืนสินทรัพย์เป็นลำดับสุดท้าย หลังจากเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิได้รับส่วนของพวกเขาก่อน ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงสูงกว่า

สภาพคล่อง: หุ้นสามัญส่วนใหญ่ในตลาดไทยซื้อขายได้สะดวกและรวดเร็ว

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์ สามารถดูได้ที่ เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หุ้นบุริมสิทธิ คืออะไร? ทำไมบริษัทถึงเลือกออกหุ้นประเภทนี้

หุ้นบุริมสิทธิคืออีกประเภทของหลักทรัพย์ทุนที่ผสมผสานลักษณะระหว่างหุ้นสามัญกับตราสารหนี้ โดยมอบสิทธิพิเศษบางอย่างให้ผู้ถือ ซึ่งแตกต่างจากหุ้นสามัญอย่างเห็นได้ชัด

ภาพประกอบการไหลของเงินปันผลที่มั่นคงสู่มือผู้ลงทุนปลอดภัยกับพื้นหลังบริษัท

ลักษณะเด่นของหุ้นบุริมสิทธิ

เงินปันผล: ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิได้รับปันผลในอัตราคงที่หรือตามที่กำหนด ก่อนผู้ถือหุ้นสามัญเสมอ ไม่ว่าจะกำไรปีนั้นมากหรือน้อย มักเป็นแบบสะสม หากบริษัทจ่ายไม่ได้ในปีนั้น จะนำไปจ่ายในปีต่อไป

สิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์: เมื่อบริษัทเลิกกิจการ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับชำระคืนก่อนหุ้นสามัญ แต่ยังหลังจากเจ้าหนี้อันดับแรก จึงมีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นสามัญ

ไม่มีสิทธิออกเสียง (ส่วนใหญ่): โดยปกติผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิไม่มีสิทธิลงคะแนนในเรื่องบริหาร ยกเว้นกรณีที่บริษัทกำหนดไว้หรือเมื่อไม่สามารถจ่ายปันผลตามกำหนด

ความเสี่ยงและผลตอบแทน: มีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้นสามัญเพราะปันผลแน่นอนกว่าและสิทธิชำระคืนดีกว่า แต่โอกาสได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาจำกัด

ทำไมบริษัทถึงเลือกออกหุ้นบุริมสิทธิ?

บริษัทออกหุ้นบุริมสิทธิเพื่อหลายเหตุผล เช่น เพื่อระดมทุนโดยไม่ให้ผู้ถือหุ้นเดิมสูญเสียอำนาจควบคุม เนื่องจากหุ้นประเภทนี้มักไม่มีสิทธิออกเสียง นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระดอกเบี้ยคงที่เมื่อเทียบกับการกู้ยืมเงิน และดึงดูดนักลงทุนที่ชอบความมั่นคง โดยการมีปันผลสม่ำเสมอช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือให้บริษัท โดยเฉพาะในสายตานักลงทุนสถาบัน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. มีหน้าที่กำกับดูแลการออกและเสนอขายหุ้นบุริมสิทธิ เพื่อปกป้องนักลงทุนและรักษาความมั่นคงของตลาดทุนไทย

เปรียบเทียบเจาะลึก: ความแตกต่างสำคัญระหว่างหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ

การรู้จักความแตกต่างระหว่างหุ้นสามัญกับหุ้นบุริมสิทธิช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น โดยเลือกสิ่งที่ตรงกับสไตล์การลงทุนของตัวเอง ตารางด้านล่างสรุปจุดเด่นที่สำคัญ เพื่อให้เห็นภาพรวมชัดเจน

คุณสมบัติ หุ้นสามัญ (Common Stock) หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock)
สิทธิออกเสียง มีสิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น โดยทั่วไปไม่มีสิทธิออกเสียง (ยกเว้นที่ระบุ)
การจ่ายเงินปันผล ไม่แน่นอน, ขึ้นอยู่กับผลประกอบการและนโยบาย มีสิทธิได้รับเงินปันผลก่อน, อัตราคงที่ (ส่วนใหญ่), แบบสะสม
สิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์ เป็นอันดับสุดท้ายเมื่อบริษัทเลิกกิจการ มีสิทธิเรียกร้องก่อนหุ้นสามัญ (แต่หลังเจ้าหนี้)
โอกาสในการเพิ่มทุน มีโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนต่างราคา (Capital Gain) สูงกว่า โอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนต่างราคามีจำกัดกว่า
ความเสี่ยง สูงกว่า (เงินปันผลไม่แน่นอน, สิทธิเรียกร้องลำดับสุดท้าย) ต่ำกว่า (เงินปันผลคงที่กว่า, สิทธิเรียกร้องลำดับต้นกว่า)
สภาพคล่อง โดยทั่วไปมีสภาพคล่องสูงกว่า สภาพคล่องต่ำกว่าหุ้นสามัญในตลาดรอง
การมีส่วนร่วมบริหาร มีส่วนร่วมในการตัดสินใจและบริหารบริษัท ไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจและบริหารบริษัท

ความแตกต่างเหล่านี้มีผลกระทบต่อนักลงทุนไทยโดยตรง ผู้ที่มองหาการเติบโตและอยากมีส่วนในบริหารมักเลือกหุ้นสามัญ ส่วนผู้ที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอและเสี่ยงน้อยกว่าอาจหันไปหาหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งช่วยให้พอร์ตการลงทุนสมดุลมากขึ้น

หุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ: โอกาสและความท้าทายสำหรับนักลงทุน

หุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพคือรูปแบบพิเศษของหุ้นบุริมสิทธิที่ให้ผู้ถือสิทธิ์แปลงเป็นหุ้นสามัญได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด มันรวมข้อดีของทั้งสองประเภทเข้าด้วยกัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่อยากได้ทั้งความมั่นคงและโอกาสเติบโต

กลไกและการแปลงสภาพ

สิทธิแปลงสภาพ: ผู้ถือสามารถแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญตามอัตราที่กำหนด เช่น 1 หุ้นบุริมสิทธิเป็น 1.2 หุ้นสามัญ

เงื่อนไขการแปลง: อาจกำหนดช่วงเวลา ราคา หรือเหตุการณ์เฉพาะที่กระตุ้นการแปลง

ประโยชน์สำหรับนักลงทุน:

  • ได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง: ก่อนแปลง คุณยังได้ปันผลคงที่เหมือนหุ้นบุริมสิทธิปกติ
  • โอกาสในการเติบโต: ถ้าราคาหุ้นสามัญขึ้น คุณสามารถแปลงเพื่อรับส่วนต่างราคา
  • ลดความเสี่ยงขาลง: ถ้าสถานการณ์ไม่ดี คุณเลือกไม่แปลงและยังได้ปันผลต่อไป

ตัวอย่างเช่น บริษัทเทคโนโลยีในไทยบางแห่งออกหุ้นแบบนี้เพื่อดึงดูดนักลงทุนที่อยากมีส่วนในอนาคตของธุรกิจ โดยไม่ต้องเสี่ยงเต็มตัวตั้งแต่แรก

ความท้าทายและข้อควรพิจารณา

ความซับซ้อน: รูปแบบนี้ซับซ้อนกว่ารูปแบบอื่น นักลงทุนต้องศึกษาถึงเงื่อนไขละเอียด

การศึกษาอัตราส่วนการแปลง: ต้องคำนวณผลกระทบต่อผลตอบแทนให้ชัดเจน

สภาพคล่อง: ในตลาดรองอาจซื้อขายยากกว่าหุ้นสามัญ

ผลกระทบต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้น: การแปลงอาจทำให้หุ้นสามัญเพิ่ม ส่งผลให้สัดส่วนเจ้าของเดิมเจือจาง

ก.ล.ต. ดูแลการออกหุ้นประเภทนี้เพื่อให้ข้อมูลโปร่งใสและนักลงทุนเข้าใจเงื่อนไขครบถ้วน

ขยายมิติการลงทุน: เปรียบเทียบหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ และหุ้นกู้

นอกจากหุ้นสามัญและบุริมสิทธิ หุ้นกู้ยังเป็นตราสารยอดนิยมในไทย ซึ่งมีลักษณะต่างกัน การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามช่วยให้กระจายความเสี่ยงและจัดพอร์ตได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวน

ตารางเปรียบเทียบหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ และหุ้นกู้

คุณสมบัติ หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ หุ้นกู้
ประเภทตราสาร ตราสารทุน ตราสารทุน (กึ่งหนี้) ตราสารหนี้
สถานะนักลงทุน เจ้าของบริษัท เจ้าของบริษัท (สิทธิพิเศษ) เจ้าหนี้บริษัท
ผลตอบแทน เงินปันผล (ไม่แน่นอน), ส่วนต่างราคา เงินปันผล (คงที่/สะสม), ส่วนต่างราคาจำกัด ดอกเบี้ย (คงที่), ได้คืนเงินต้นเมื่อครบกำหนด
สิทธิออกเสียง มีสิทธิ โดยทั่วไปไม่มี ไม่มี
สิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์ ลำดับสุดท้าย ก่อนหุ้นสามัญ (หลังเจ้าหนี้) ลำดับแรก (ในฐานะเจ้าหนี้)
ความเสี่ยง สูงสุด ปานกลาง ต่ำสุด (ขึ้นอยู่กับอันดับเครดิต)
สภาพคล่อง สูง (ส่วนใหญ่) ต่ำกว่าหุ้นสามัญ ปานกลางถึงต่ำ (ขึ้นอยู่กับผู้ออก)
เป้าหมายการลงทุน การเติบโต, การมีส่วนร่วมบริหาร ผลตอบแทนสม่ำเสมอ, ความมั่นคง ผลตอบแทนคงที่, รักษามูลค่าเงินต้น

การจัดสรรในพอร์ตการลงทุน

หุ้นกู้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยของเงินต้นและรายได้คงที่ เสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องพอใช้

หุ้นบุริมสิทธิเป็นทางกลาง สำหรับผู้ที่อยากได้ปันผลสม่ำเสมอมากกว่าหุ้นสามัญ แต่เสี่ยงมากกว่าหุ้นกู้เล็กน้อย

หุ้นสามัญสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ยอมเสี่ยงเพื่อโอกาสเติบโตและมีส่วนเป็นเจ้าของ

การกระจายลงทุนในตราสารเหล่านี้ช่วยสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง สำหรับข้อมูลหุ้นกู้เพิ่มเติม ดูได้ที่ เว็บไซต์ ThaiBMA ซึ่งรวบรวมข้อมูลตลาดตราสารหนี้ไทย

การเลือกหุ้นที่ใช่: กลยุทธ์สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย

การเลือกระหว่างหุ้นสามัญหรือบุริมสิทธิขึ้นอยู่กับเป้าหมายส่วนตัว ระดับความเสี่ยง และระยะเวลาที่คุณวางแผน โดยพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ให้รอบคอบเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ปัจจัยที่ควรพิจารณา

เป้าหมายการลงทุน:

  • การเติบโตของเงินลงทุน (Capital Growth): ถ้าต้องการสร้างความมั่งคั่งระยะยาวและยอมเสี่ยง หุ้นสามัญให้โอกาสราคาเพิ่มสูง
  • รายได้สม่ำเสมอ (Regular Income): ถ้าต้องการกระแสเงินสดแน่นอนและเสี่ยงต่ำ หุ้นบุริมสิทธิตอบโจทย์ด้วยปันผลคงที่

ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้:

  • รับความเสี่ยงสูง: หุ้นสามัญผันผวนแต่โอกาสกำไรสูง
  • รับความเสี่ยงปานกลางถึงต่ำ: หุ้นบุริมสิทธิให้ความมั่นคงโดยไม่ผันผวนมาก

ระยะเวลาการลงทุน:

  • ระยะยาว: หุ้นสามัญเหมาะเพื่อรอการเติบโตของบริษัท
  • ระยะสั้นถึงปานกลาง: หุ้นบุริมสิทธิให้ผลตอบแทนแน่นอนเร็วกว่า

การวิเคราะห์บริษัท: ไม่ว่าจะเลือกอะไร ต้องดูพื้นฐานบริษัทให้ดี เช่น ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง การเติบโต และธรรมาภิบาล เพื่อลดความเสี่ยง

ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุนไทย

สภาพคล่องในตลาดรอง: หุ้นบุริมสิทธิบางตัวอาจซื้อขายยากกว่าหุ้นสามัญ ต้องเช็คปริมาณการซื้อขายก่อน

ภาษีเงินปันผล: ปันผลจากทั้งสองประเภทถูกหักภาษี 10% ณ ที่จ่าย คุณสามารถขอคืนหรือรวมคำนวณภาษีปลายปีได้

ศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: ใช้เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต. และบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ เพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง

สรุปและข้อคิดสำคัญสำหรับนักลงทุน

หุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิเป็นตัวเลือกหลักในตลาดหุ้นไทย ที่มีสิทธิ ความเสี่ยง และลักษณะต่างกันชัดเจน หุ้นสามัญเหมาะกับผู้ที่ไล่ล่าการเติบโตและอยากมีส่วนบริหาร แม้ต้องรับมือความผันผวน ในทางตรงข้าม หุ้นบุริมสิทธิเน้นความมั่นคงของปันผลและความปลอดภัย แต่อาจจำกัดโอกาสเติบโต

ไม่มีประเภทไหนดีที่สุดเสมอไป การตัดสินใจต้องมาจากเป้าหมายการเงิน ความเสี่ยงที่ยอมรับ และระยะเวลา การเข้าใจเครื่องมือเหล่านี้ลึกซึ้งจะช่วยสร้างพอร์ตที่แข็งแกร่งและบรรลุเป้าหมาย หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาที่ปรึกษาการลงทุนมืออาชีพ

หุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิออกเสียงแตกต่างกันอย่างไรในประเทศไทย?

ในประเทศไทย ผู้ถือหุ้นสามัญมีสิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญของบริษัท เช่น การแต่งตั้งกรรมการ การอนุมัติงบการเงิน ในขณะที่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิโดยทั่วไปจะไม่มีสิทธิออกเสียง ยกเว้นในบางกรณีที่ระบุไว้ในข้อบังคับบริษัท หรือเมื่อบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ตามกำหนด

นักลงทุนไทยควรเลือกหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิเพื่ออะไร?

นักลงทุนไทยควรเลือกหุ้นสามัญหากต้องการโอกาสในการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาวและยินดีรับความเสี่ยงสูง รวมถึงต้องการมีส่วนร่วมในการบริหารบริษัท ส่วนหุ้นบุริมสิทธิเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในรูปแบบเงินปันผล มีความเสี่ยงต่ำกว่า และไม่เน้นการมีส่วนร่วมในการบริหาร

เงินปันผลจากหุ้นบุริมสิทธิในประเทศไทยมีการคิดภาษีอย่างไร?

เงินปันผลจากหุ้นบุริมสิทธิในประเทศไทยจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% เช่นเดียวกับเงินปันผลจากหุ้นสามัญ นักลงทุนสามารถเลือกที่จะให้นำภาษีที่ถูกหักไปแล้วเป็นภาษีสุดท้าย (Final Tax) หรือจะนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตอนสิ้นปีเพื่อขอคืนภาษีส่วนต่างได้

บริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นิยมออกหุ้นบุริมสิทธิเพื่อเหตุผลใด?

บริษัทใน SET นิยมออกหุ้นบุริมสิทธิเพื่อระดมทุนโดยไม่ลดทอนอำนาจการบริหารของผู้ถือหุ้นเดิม (เนื่องจากหุ้นบุริมสิทธิส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิออกเสียง) หรือเพื่อดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนที่ยืดหยุ่นกว่าหุ้นกู้

หุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพมีขั้นตอนการแปลงเป็นหุ้นสามัญอย่างไรในทางปฏิบัติ?

ในทางปฏิบัติ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพจะต้องยื่นเอกสารขอแปลงสภาพตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไปยังนายทะเบียนหลักทรัพย์ (เช่น ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย – TSD) ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยระบุจำนวนหุ้นบุริมสิทธิที่ต้องการแปลงเป็นหุ้นสามัญตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนหรือข้อกำหนดสิทธิ

หุ้นกู้แตกต่างจากหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิอย่างไรในแง่ของความเสี่ยงและผลตอบแทนในตลาดไทย?

ในตลาดไทย หุ้นกู้เป็นตราสารหนี้ ผู้ถือมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ ได้รับดอกเบี้ยคงที่และเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนด มีความเสี่ยงต่ำสุดเมื่อเทียบกับหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งเป็นตราสารทุน

  • หุ้นสามัญ: เสี่ยงสูงสุด โอกาสกำไรสูง (ส่วนต่างราคา) แต่เงินปันผลไม่แน่นอน
  • หุ้นบุริมสิทธิ: เสี่ยงปานกลาง ผลตอบแทนสม่ำเสมอ (เงินปันผลคงที่) แต่โอกาสกำไรส่วนต่างราคาจำกัด
  • หุ้นกู้: เสี่ยงต่ำสุด ผลตอบแทนคงที่ (ดอกเบี้ย) เหมาะสำหรับรักษามูลค่าเงินต้น

การซื้อขายหุ้นบุริมสิทธิในตลาดรองของไทยมีความคล่องตัวแค่ไหน?

การซื้อขายหุ้นบุริมสิทธิในตลาดรองของไทยโดยทั่วไปมีความคล่องตัวต่ำกว่าหุ้นสามัญ เนื่องจากมีจำนวนหุ้นที่ซื้อขายและนักลงทุนที่สนใจน้อยกว่า ส่งผลให้การหาคู่ค้าในการซื้อขายอาจทำได้ยากขึ้นและราคาอาจไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงได้เท่าที่ควร

มีหุ้นบุริมสิทธิประเภทพิเศษอื่นๆ เช่น หุ้นบุริมสิทธิร่วม (Participating Preferred Stock) ในตลาดไทยหรือไม่?

ในตลาดหุ้นไทยมีหุ้นบุริมสิทธิประเภทพิเศษที่หลากหลาย แม้ว่า “หุ้นบุริมสิทธิร่วม” (Participating Preferred Stock) อาจจะไม่ใช่ชื่อที่คุ้นเคยมากนักในเชิงการตลาด แต่ก็มีหุ้นบุริมสิทธิบางประเภทที่อาจมีเงื่อนไขให้ผู้ถือได้รับเงินปันผลเพิ่มเติม นอกเหนือจากอัตราคงที่ที่กำหนดไว้ หากบริษัทมีผลกำไรเกินเป้าหมาย หรือมีเงื่อนไขพิเศษอื่นๆ ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดสิทธิ

หากบริษัทล้มละลาย ผู้ถือหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิในไทยจะได้รับคืนเงินลงทุนอย่างไร?

หากบริษัทล้มละลายหรือเลิกกิจการในประเทศไทย การชำระบัญชีจะดำเนินการตามลำดับสิทธิ

  • **เจ้าหนี้:** จะได้รับชำระหนี้ก่อนเป็นอันดับแรก
  • **ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ:** จะได้รับชำระคืนเงินลงทุนก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ
  • **ผู้ถือหุ้นสามัญ:** จะได้รับคืนเงินลงทุนเป็นอันดับสุดท้าย หลังจากเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิได้รับการชำระทั้งหมดแล้ว ซึ่งในหลายกรณี ผู้ถือหุ้นสามัญอาจไม่ได้รับสิ่งใดคืนเลยหากสินทรัพย์ของบริษัทไม่เพียงพอ

ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทไทยสามารถหาได้จากแหล่งใดบ้าง?

นักลงทุนสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทไทยได้จากหลายแหล่ง เช่น

  • **เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET):** มีข้อมูลของทุกบริษัทจดทะเบียน รวมถึงงบการเงิน ข่าวสาร และประกาศต่างๆ
  • **เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.):** สำหรับข้อมูลกฎระเบียบและหนังสือชี้ชวนการเสนอขายหลักทรัพย์
  • **เว็บไซต์ของบริษัทจดทะเบียนโดยตรง:** มีรายงานประจำปีและข้อมูลนักลงทุนสัมพันธ์
  • **บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์):** มีบทวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกจากนักวิเคราะห์
  • **สื่อสิ่งพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวการเงิน:** เช่น กรุงเทพธุรกิจ, ประชาชาติธุรกิจ, eFinanceThai, Finnomena

發佈留言