66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

Safe Haven คือที่พึ่งพิงของนักลงทุนในยามเศรษฐกิจผันผวน 2025

Home / ข่าวตลาดเงิน / Saf...

meetcinco_com | 18 6 月

Safe Haven คือที่พึ่งพิงของนักลงทุนในยามเศรษฐกิจผันผวน 2025

การวิเคราะห์ข้อมูลและกลั่นกรองความรู้ทางการเงิน: Safe Haven ที่พึ่งพิงของนักลงทุนในยามเศรษฐกิจผันผวน

ในโลกของการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน คุณเคยรู้สึกกังวลกับการปกป้องเงินทุนของคุณหรือไม่? เมื่อเศรษฐกิจโลกเผชิญกับมรสุม ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการณ์ทางการเงิน สงคราม หรือแม้แต่โรคระบาด ตลาดหุ้นก็มักจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง แล้วนักลงทุนอย่างเราจะหาที่พึ่งพิงได้จากที่ไหน เพื่อให้เงินลงทุนยังคงรักษามูลค่า หรือแม้กระทั่งเติบโตสวนทางกับภาวะตลาดขาลง?

คำตอบคือการทำความเข้าใจและรู้จักกับ “สินทรัพย์ปลอดภัย” หรือ Safe Haven ซึ่งเปรียบเสมือนหลุมหลบภัยที่ช่วยให้นักลงทุนอุ่นใจในยามที่ตลาดปั่นป่วน บทความนี้จะนำพาคุณไปสำรวจแนวคิดของ Safe Haven ประเภทต่างๆ เจาะลึกถึงคุณสมบัติที่ทำให้สินทรัพย์เหล่านี้เป็นที่ต้องการ พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ล่าสุดที่เปลี่ยนสถานะของ Safe Haven บางประเภท และข้อควรพิจารณาสำคัญก่อนที่คุณจะตัดสินใจนำสินทรัพย์เหล่านี้มาปรับใช้ในพอร์ตการลงทุนของคุณ

เราเชื่อว่าการมีความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดและบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่คุณตั้งไว้ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในตลาดที่คาดเดาได้ยาก

ทองคำและเหรียญสะท้อนแสงในห้องมืด

ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงประเภทของ Safe Haven คุณอาจสงสัยว่าอะไรคือคุณสมบัติที่ทำให้สินทรัพย์บางอย่างถูกจัดว่าเป็น “ที่หลบภัย” ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน? โดยพื้นฐานแล้ว Safe Haven คือสินทรัพย์ที่คาดว่าจะสามารถรักษามูลค่าหรือมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงที่ตลาดโดยรวมมีแนวโน้มขาลง หรือเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจสำคัญ

คุณสมบัติหลักประการแรกของ Safe Haven คือ ความสัมพันธ์ที่ต่ำหรือเชิงลบ กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นั่นหมายความว่า เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลดลงหรือเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว สินทรัพย์ปลอดภัยเหล่านี้จะไม่ได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกัน หรืออาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นสวนทางไปเลย ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการ ลดความเสี่ยง ของพอร์ตการลงทุนโดยรวม

ประการที่สองคือ สภาพคล่องสูง นักลงทุนต้องสามารถซื้อขายสินทรัพย์เหล่านี้ได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อแปลงเป็นเงินสดได้ทันท่วงทีเมื่อจำเป็นในยามฉุกเฉิน

ประการที่สามคือ ความน่าเชื่อถือและความมั่นคง ของตัวสินทรัพย์เองหรือผู้ออกสินทรัพย์นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าในตัวเอง หรือสินทรัพย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่มีฐานะการคลังที่แข็งแกร่งและเสถียรภาพทางการเมืองที่ดี คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่าเงินทุนของพวกเขาจะได้รับการปกป้อง แม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

คุณสมบัติของ Safe Haven รายละเอียด
ความสัมพันธ์ต่ำหรือเชิงลบ สินทรัพย์ไม่ปรับตัวตามตลาดทุนในระยะสั้น
สภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ง่ายในเวลาที่ต้องการ
ความน่าเชื่อถือ สินทรัพย์ได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่มั่นคง

นักลงทุนดูกราฟเสถียรในช่วงพายุ

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเดินป่า แล้วจู่ๆ ก็มีพายุโหมกระหน่ำ คุณย่อมมองหาที่กำบังที่มั่นคงและปลอดภัย เช่น ถ้ำหรือเพิงพักที่แข็งแกร่ง สินทรัพย์ Safe Haven ก็เปรียบเสมือนที่กำบังเหล่านี้ในโลกการลงทุน ที่ช่วยให้พอร์ตของคุณรอดพ้นจากพายุร้ายทางเศรษฐกิจ

เจาะลึกสินทรัพย์ Safe Haven ยอดนิยมอันดับ 1: ทองคำ

หากพูดถึง สินทรัพย์ปลอดภัย แล้วละก็ ทองคำ คงเป็นชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิดของใครหลายคน ทองคำได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดแห่ง Safe Haven มาอย่างยาวนานและได้รับความนิยมไปทั่วโลก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

คุณสมบัติเด่นของทองคำคือ มีอยู่อย่างจำกัด และ ไม่สามารถผลิตเพิ่มขึ้นเองได้ ซึ่งแตกต่างจากสกุลเงินที่ธนาคารกลางสามารถพิมพ์ธนบัตรออกมาได้ไม่จำกัด ทำให้มูลค่าของทองคำไม่ลดลงตามอัตราเงินเฟ้อหรือการลดค่าของเงิน และในบางสถานการณ์ยังสามารถรักษากำลังซื้อได้ดีกว่าเงินสดเสียอีก

นอกจากนี้ ทองคำยังเป็น ที่ยอมรับในระดับสากล และเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ มีคุณค่าในตัวเอง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่มุมไหนของโลก ทองคำก็ยังคงมีมูลค่าและสามารถแลกเปลี่ยนได้ง่าย คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ทองคำถูกมองว่าเป็น “เงินที่แท้จริง” และเป็นแหล่งเก็บมูลค่าที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตภูมิรัฐศาสตร์ หรือความไม่เชื่อมั่นในสกุลเงินหลักต่างๆ เรามักจะเห็นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ราคาทองคำก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งตอกย้ำบทบาทของมันในฐานะที่หลบภัยที่เชื่อถือได้

สำหรับนักลงทุนรายย่อย คุณสามารถลงทุนในทองคำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ หรือสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการครอบครองทองคำจริง ก็สามารถลงทุนผ่าน กองทุนรวมทองคำ หรือ Exchange Traded Funds (ETFs) ที่ลงทุนในทองคำ ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและมีสภาพคล่องสูง

เงินสดและพันธบัตรถูกวางรวมกันบนโต๊ะ

เงินสดและพันธบัตรรัฐบาล: ความมั่นคงที่มาพร้อมข้อควรพิจารณา

นอกเหนือจากทองคำแล้ว ยังมี Safe Haven อีกสองประเภทที่นักลงทุนนิยมใช้เพื่อปกป้องเงินทุนในยามวิกฤต นั่นคือ เงินสด และ พันธบัตรรัฐบาล แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและข้อควรพิจารณาที่แตกต่างกันไป

เงินสด: สภาพคล่องสูงสุด แต่ไร้ผลตอบแทน

เงินสด ดูเหมือนจะเป็น Safe Haven ที่ง่ายที่สุดและมีสภาพคล่องสูงสุด คุณสามารถเข้าถึงเงินสดได้ทันทีในยามฉุกเฉิน และแน่นอนว่ามันไม่ผันผวนตามตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม เงินสดก็มีข้อจำกัดที่สำคัญ นั่นคือ ไม่มีผลตอบแทนใดๆ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ มูลค่าของเงินสดจะลดลงตามอัตราเงินเฟ้อ เมื่อเวลาผ่านไป ลองคิดดูว่าเงิน 100 บาทในวันนี้ อาจซื้อของได้น้อยลงในอีก 5 ปีข้างหน้า นั่นเป็นเพราะเงินเฟ้อกัดกินกำลังซื้อของเงินนั่นเอง

ดังนั้น การถือเงินสดในปริมาณมากจึงเหมาะสำหรับเป็น เงินสำรองฉุกเฉิน หรือใช้เพื่อ รอจังหวะการลงทุน ที่เหมาะสมในระยะสั้นๆ เท่านั้น ไม่ควรถือเงินสดเป็น Safe Haven หลักในระยะยาวหากไม่จำเป็น เพราะนั่นหมายถึงการยอมให้เงินของคุณถูกเงินเฟ้อบั่นทอนมูลค่าไปเรื่อยๆ

พันธบัตรรัฐบาล: ความปลอดภัยสูง แต่เข้าถึงยากและผลตอบแทนต่ำ

พันธบัตรรัฐบาล ถือเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในฐานะ Safe Haven โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่มีเศรษฐกิจและฐานะการคลังที่มั่นคงสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา (US Treasuries) ซึ่งมักถูกมองว่ามีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากมีรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกัน คุณจะได้รับดอกเบี้ยที่แน่นอนตามกำหนด และได้รับเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน

ในยามที่ตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนมักจะหันมาพักเงินในพันธบัตรรัฐบาล เพราะถือว่ามีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของพันธบัตรรัฐบาลคือ ผลตอบแทนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า และ นักลงทุนรายย่อยอาจเข้าถึงได้ยาก โดยตรง การลงทุนผ่าน กองทุนรวมตราสารหนี้ จึงเป็นทางเลือกที่นิยมมากกว่า เพื่อให้สามารถเข้าถึงพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้อื่นๆ ได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่เคยพุ่งขึ้นสูงถึง 4% ในช่วงปี 2022 สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในตลาด แต่ก็ยังคงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรพิจารณาให้รอบคอบ

ประเภทของ Safe Haven คุณสมบัติ
ทองคำ สินทรัพย์ที่มีมูลค่าและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
เงินสด สภาพคล่องสูงมาก แต่มีข้อเสียเรื่องผลตอบแทน
พันธบัตรรัฐบาล ความปลอดภัยสูง แต่อาจให้ผลตอบแทนต่ำ

หุ้นตั้งรับและหุ้นปันผล: เกราะป้องกันในพอร์ตการลงทุน

คุณอาจจะเคยได้ยินมาว่า “หุ้น” ไม่ใช่ Safe Haven แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภายในตลาดหุ้นเองก็มีหุ้นบางประเภทที่สามารถทำหน้าที่เป็น “หุ้นตั้งรับ” (Defensive Stocks) หรือเป็นที่หลบภัยได้ในระดับหนึ่ง ยามที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน หุ้นเหล่านี้มักจะมีความผันผวนน้อยกว่าตลาดโดยรวม และยังคงสร้างกระแสเงินสดและผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

หุ้นตั้งรับ (Defensive Stocks)

หุ้นตั้งรับ คือหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของผู้คน ไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะใดก็ตาม ผู้คนก็ยังคงต้องใช้สินค้าและบริการเหล่านี้อยู่เสมอ เช่น

  • หุ้นสาธารณูปโภค: เช่น หุ้นบริษัทไฟฟ้า ประปา หรือโทรคมนาคม ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือแย่ คนก็ยังคงต้องใช้ไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์
  • หุ้นสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น: เช่น หุ้นบริษัทผลิตอาหาร เครื่องดื่ม หรือยาสีฟัน สินค้าเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องซื้ออย่างสม่ำเสมอ
  • หุ้นโรงพยาบาล: บริการด้านสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ผู้คนก็ยังคงต้องเข้าถึงบริการทางการแพทย์

หุ้นประเภทนี้มักจะทนทานต่อทุกสภาวะเศรษฐกิจ มีรายได้ที่ค่อนข้างคงที่ และมีความสามารถในการรักษากำไรได้ดีแม้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากกว่าหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจมากกว่า

หุ้นปันผล (Dividend Stocks)

นอกจากหุ้นตั้งรับแล้ว หุ้นปันผล ที่มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอและในอัตราที่น่าพอใจมาเป็นเวลานาน ก็สามารถพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Safe Haven ได้เช่นกัน การได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอช่วยสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุน และช่วยชดเชยการลดลงของราคาหุ้นได้ในระดับหนึ่ง ทำให้เป็นการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้แบบ Passive Income และลดความผันผวนของพอร์ต

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นเหล่านี้ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่แตกต่างจากทองคำหรือพันธบัตรรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง เพราะสุดท้ายแล้วก็ยังคงเป็นหุ้นที่ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทและภาวะตลาดโดยรวม แต่หากเลือกบริษัทที่แข็งแกร่งและมีประวัติที่ดี หุ้นตั้งรับและหุ้นปันผลก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุนของคุณได้

สกุลเงินปลอดภัย: จากดอลลาร์สหรัฐฯ สู่เงินเยนและสวิสฟรังก์

ในโลกของการเงิน สกุลเงินก็สามารถทำหน้าที่เป็น Safe Haven ได้เช่นกัน โดยเฉพาะสกุลเงินของประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเมือง และระบบการเงินที่แข็งแกร่ง สกุลเงินเหล่านี้มักจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเมื่อเกิดความไม่แน่นอนในตลาดโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษามูลค่าของเงินลงทุน

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ (US Dollar – USD): อดีต Safe Haven หลัก

ในอดีต เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นสกุลเงิน Safe Haven หลักและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในโลก ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ความมั่นคงทางการเมือง และสถานะของเงินดอลลาร์ที่เป็นสกุลเงินสำรองของโลก ทำให้เมื่อเกิดวิกฤต นักลงทุนทั่วโลกมักจะแห่กันเข้าถือเงินดอลลาร์ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นที่หลบภัย

เงินเยนญี่ปุ่น (Japanese Yen – JPY): ที่หลบภัยทางเลือก

เงินเยนญี่ปุ่น ก็เป็นอีกหนึ่งสกุลเงิน Safe Haven ที่สำคัญ แม้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเผชิญกับความท้าทายหลายประการ แต่ด้วยสถานะการเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของโลก ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอย่างต่อเนื่อง และเสถียรภาพทางการเมืองที่ค่อนข้างดี ทำให้เงินเยนเป็นที่ต้องการในยามวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนมักจะย้ายเงินทุนมาที่เงินเยนเพื่อลดความเสี่ยง

เงินฟรังก์สวิส (Swiss Franc – CHF): ความเป็นกลางและความมั่นคง

เงินฟรังก์สวิส มีชื่อเสียงในฐานะสกุลเงิน Safe Haven มาอย่างยาวนาน ด้วยภาพลักษณ์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เป็นกลางทางการเมือง มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจสูง และมีระบบธนาคารที่แข็งแกร่ง ทำให้เงินฟรังก์สวิสมักจะแข็งค่าขึ้นในช่วงที่เกิดความตึงเครียดทางการเมืองหรือเศรษฐกิจทั่วโลก นักลงทุนเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสวิตเซอร์แลนด์และระบบการเงินของประเทศ

หากคุณกำลังพิจารณาเริ่มต้นการเทรดฟอเร็กซ์ หรือมองหาผลิตภัณฑ์สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ที่หลากหลาย Moneta Markets คือแพลตฟอร์มที่น่าสนใจและควรค่าแก่การพิจารณา แพลตฟอร์มนี้มีต้นกำเนิดจากออสเตรเลีย โดยนำเสนอเครื่องมือทางการเงินกว่า 1,000 รายการ รวมถึงคู่สกุลเงินสำคัญๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เหมาะสมกับทั้งนักลงทุนมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเข้าถึงตลาดสกุลเงินทั่วโลก

นอกจากสกุลเงินเหล่านี้แล้ว บางครั้งสกุลเงินของประเทศที่กำลังเติบโตแต่มีปัจจัยเฉพาะตัวที่แข็งแกร่ง เช่น เงินดอลลาร์ไต้หวัน ก็สามารถแข็งค่าขึ้นได้จากปัจจัยภายใน เช่น ผลประกอบการที่ดีของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง TSMC หรือ Oracle ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงการลดความเสี่ยงของนักลงทุนในประเทศเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานะของ Safe Haven นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามบริบทและปัจจัยที่แตกต่างกัน

สกุลเงิน สถานะในการเป็น Safe Haven
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อดีตสกุลเงิน Safe Haven หลัก
เงินเยนญี่ปุ่น ที่หลบภัยทางเลือกที่ดีในยามวิกฤต
เงินฟรังก์สวิส มีความมั่นคงสูงและเป็นกลางทางการเมือง

การเปลี่ยนแปลงสถานะของดอลลาร์สหรัฐฯ: เมื่อที่หลบภัยหลักถูกตั้งคำถาม

ดังที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าในอดีต เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นสกุลเงิน Safe Haven อันดับหนึ่งที่นักลงทุนทั่วโลกหันเข้าหาในยามวิกฤต แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจและทำให้สถานะของดอลลาร์ถูกตั้งคำถาม

ในช่วงสงครามความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ปะทุขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งโดยปกติแล้วควรจะส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในฐานะ Safe Haven แต่คราวนี้กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นทันที ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?

ปัจจัยหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทคือ ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศสหรัฐฯ เอง ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนบางส่วน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคง รอดูข้อมูลเศรษฐกิจและท่าทีนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) อย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะตัดสินใจเคลื่อนย้ายเงินทุนครั้งใหญ่ ทำให้เงินดอลลาร์ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกในการหลบภัยเสมอไปในทุกสถานการณ์อีกต่อไป

ในทางกลับกัน เรากลับเห็น เงินเยนญี่ปุ่น และ ทองคำ กลายเป็นที่หลบภัยที่นักลงทุนเลือกใช้แทนดอลลาร์ในบางสถานการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตลาดโลก เงินบาทเองก็เคยอ่อนค่าทะลุ 38.15 บาท/ดอลลาร์ ในปี 2565 เช่นเดียวกับเงินยูโรที่อ่อนค่าลงถึง 1.00 ยูโร/ดอลลาร์ และเงินเยนที่อ่อนค่าทะลุ 148 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กลับส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในระยะนั้น ก่อนที่จะถูกทดสอบสถานะ Safe Haven ในเวลาต่อมา

การที่ Safe Haven ที่เคยเป็นหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกตั้งคำถาม แสดงให้เห็นว่าโลกการลงทุนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และนักลงทุนจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นในการประเมินสถานการณ์และปรับพอร์ตการลงทุนอยู่เสมอ ไม่ยึดติดกับแนวคิดเดิมๆ ที่เคยเชื่อถือ

บทเรียนจากอดีต: Safe Haven ทำงานอย่างไรในวิกฤตการณ์?

การเรียนรู้จากเหตุการณ์ในอดีตช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของ Safe Haven ได้ดีขึ้น วิกฤตการณ์หลายครั้งที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงบทบาทของสินทรัพย์เหล่านี้ แต่ก็ยังคงมีความแตกต่างกันไปตามบริบทของวิกฤต

วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Subprime Crisis) ปี 2008

ในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่เริ่มต้นจากตลาดอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อซับไพรม์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งลุกลามไปทั่วโลก นักลงทุนจำนวนมากพยายาม ลดความเสี่ยง ด้วยการย้ายเงินทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยงสูงในตลาดพัฒนาแล้ว และหันไปหา ตลาดเกิดใหม่ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสกุลเงิน Safe Haven หลักก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในเวลานั้น เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่นที่แข็งแกร่งเท่า

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปี 2020

เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ตลาดการเงินเข้าสู่ภาวะผันผวนอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในฐานะที่หลบภัย สะท้อนถึงความตื่นตระหนกของนักลงทุนที่ต้องการสินทรัพย์ที่สามารถรักษามูลค่าได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงและมีการผลิตวัคซีน ราคาทองคำก็ปรับลดลง แสดงให้เห็นว่าแม้เป็น Safe Haven ผลตอบแทนก็ไม่คงที่และขึ้นอยู่กับบริบทของวิกฤต และวัฏจักรของเศรษฐกิจ

สงครามตะวันออกกลางและปัจจัยล่าสุด

จากข้อมูลล่าสุดที่วิเคราะห์โดยคุณพูน พานิชพิบูลย์ จาก Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย การที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้แข็งค่าขึ้นอย่างทันทีทันใดในยามสงครามตะวันออกกลางที่ผ่านมา ถือเป็นสัญญาณที่น่าสนใจ แสดงให้เห็นว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในสหรัฐฯ และการรอดูผลข้อมูลเศรษฐกิจจาก FOMC มีผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด และเงินเยนญี่ปุ่น รวมถึงทองคำ กลายเป็นที่หลบภัยที่นักลงทุนเลือกใช้แทนในบางสถานการณ์

บทเรียนเหล่านี้สอนให้เราเข้าใจว่า Safe Haven ไม่ได้คงที่ตายตัว และการตอบสนองของตลาดต่อวิกฤตแต่ละครั้งอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยแวดล้อมเฉพาะหน้า การเรียนรู้จากประวัติศาสตร์จะช่วยให้เราเตรียมพร้อมและปรับตัวได้ดีขึ้นในอนาคต

กลยุทธ์การลงทุนใน Safe Haven: ข้อควรพิจารณาเพื่อสร้างพอร์ตที่แข็งแกร่ง

เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่า Safe Haven คืออะไร และมีสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง คำถามต่อไปคือ คุณควรนำสินทรัพย์เหล่านี้มาใช้ในกลยุทธ์การลงทุนของคุณอย่างไร เพื่อให้พอร์ตของคุณแข็งแกร่งและปลอดภัยจากความผันผวนของตลาด? เรามีข้อแนะนำและข้อควรพิจารณาสำคัญดังนี้

  • ศึกษาและทำความเข้าใจสินทรัพย์แต่ละประเภท: ก่อนตัดสินใจลงทุนใน Safe Haven ชนิดใดก็ตาม คุณควรศึกษาคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย และกลไกการเคลื่อนไหวของราคาให้ถ่องแท้ เพราะผลตอบแทนและพฤติกรรมของ Safe Haven แต่ละชนิดไม่คงที่ และแตกต่างกันไปตามสถานการณ์และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น คุณจะลงทุนในทองคำ เงินสด พันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นตั้งรับ ก็ต้องรู้รายละเอียดของมัน
  • มีความยืดหยุ่นและพร้อมปรับพอร์ตการลงทุน: ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สินทรัพย์ที่เคยเป็น Safe Haven อาจไม่เป็นที่ต้องการเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวและนักลงทุนกลับไปหาสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ดังนั้น คุณควรหมั่นทบทวนและปรับสัดส่วนของ Safe Haven ในพอร์ตของคุณให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและการประเมินความเสี่ยงของคุณ
  • พิจารณาผลตอบแทนที่ควรสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ: การลงทุนใน Safe Haven มีเป้าหมายหลักคือการรักษามูลค่า แต่ก็ไม่ควรละเลยอัตราเงินเฟ้อ หากผลตอบแทนจาก Safe Haven ที่คุณถือครองนั้นต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ นั่นหมายความว่ากำลังซื้อของเงินลงทุนของคุณกำลังลดลง ดังนั้น คุณควรเลือก Safe Haven ที่มีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียง เพื่อรักษามูลค่าที่แท้จริงของเงินทุนของคุณ
  • ปรับสัดส่วนการลงทุนตามอายุและความสามารถในการรับความเสี่ยง: โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนที่อายุน้อยและสามารถรับความเสี่ยงได้สูง อาจจัดสรรเงินลงทุนใน Safe Haven ในสัดส่วนที่น้อยกว่า ในขณะที่นักลงทุนที่ใกล้เกษียณอายุ หรือไม่ชอบความเสี่ยง อาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven ให้มากขึ้น เพื่อปกป้องเงินทุนและรักษามูลค่าทรัพย์สิน
  • การกระจายสินทรัพย์ (Asset Diversification) มีความสำคัญ: ไม่ควรลงทุนใน Safe Haven เพียงประเภทเดียว การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ตลาดคริปโทฯ จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ต และยังช่วยให้พอร์ตของคุณสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในยามที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน เพราะสินทรัพย์แต่ละประเภทมักจะเคลื่อนไหวไม่พร้อมกัน

ในการเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถกระจายการลงทุนและเข้าถึงสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ความยืดหยุ่นและข้อได้เปรียบทางเทคนิคของ Moneta Markets นั้นโดดเด่น แพลตฟอร์มนี้รองรับแพลตฟอร์มหลักอย่าง MT4, MT5, Pro Trader ผนวกกับการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วและค่าสเปรดที่ต่ำ มอบประสบการณ์การเทรดที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนของคุณในทุกสภาวะตลาด

การปรับพอร์ตลงทุนในระยะยาว: เมื่อไหร่ที่ Safe Haven อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด?

เราได้พูดถึงประโยชน์ของ Safe Haven ในการเป็นหลุมหลบภัยยามวิกฤตไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่คุณต้องเข้าใจคือ Safe Haven ไม่ใช่การลงทุนที่เหมาะสมตลอดเวลา และการยึดติดกับสินทรัพย์เหล่านี้มากเกินไป อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาวได้

เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว: โอกาสของสินทรัพย์เสี่ยง

เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากภาวะถดถอย นักลงทุนมักจะเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นและโยกย้ายเงินทุนออกจาก Safe Haven ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ไปหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นแต่มีศักยภาพในการเติบโตมากกว่า เช่น หุ้นในกลุ่มเติบโต (Growth Stocks) หรืออสังหาริมทรัพย์ ในช่วงเวลานี้ การถือครอง Safe Haven ในสัดส่วนที่มากเกินไปอาจทำให้พอร์ตของคุณเติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น เพราะคุณพลาดโอกาสในการทำกำไรจากตลาดขาขึ้น

ลองนึกภาพสถานการณ์คล้ายกับช่วงหลังการผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่ราคาทองคำ ซึ่งเป็น Safe Haven หลัก ปรับตัวลดลงเมื่อตลาดเริ่มมองเห็นแสงสว่างทางเศรษฐกิจ นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการถือครอง Safe Haven มากเกินไปในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังจะกลับมาเติบโต อาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ผลตอบแทนที่จำกัด: การ trade-off ระหว่างความปลอดภัยและการเติบโต

โดยธรรมชาติแล้ว สินทรัพย์ Safe Haven มักจะให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยง หากคุณมีเป้าหมายการลงทุนระยะยาวที่ต้องการการเติบโตของเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญ การพึ่งพา Safe Haven มากเกินไปอาจไม่ตอบโจทย์ ดังนั้น คุณต้องตัดสินใจอย่างชาญฉลาดว่าจะรักษาสมดุลระหว่าง ความปลอดภัย และ โอกาสในการเติบโต อย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและระยะเวลาการลงทุนของคุณ

คำแนะนำคือการหมั่นทบทวนเป้าหมายการลงทุนของคุณเป็นประจำ และปรับสัดส่วนของ Safe Haven ในพอร์ตของคุณตามวัฏจักรเศรษฐกิจ หากคุณเห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัว หรือตลาดเข้าสู่ช่วงขาขึ้น การลดสัดส่วนของ Safe Haven และเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่คัดสรรมาอย่างดี อาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกว่า

สรุป: เส้นทางสู่การลงทุนอย่างชาญฉลาดด้วย Safe Haven

เราได้เดินทางผ่านแนวคิดของ Safe Haven หรือ สินทรัพย์ปลอดภัย มาอย่างละเอียดแล้ว คุณได้เรียนรู้ว่าสินทรัพย์เหล่านี้มีความสำคัญเพียงใดในการปกป้องเงินลงทุนของคุณในยามที่ตลาดผันผวนและเศรษฐกิจไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ ที่เป็นอมตะ เงินสด และ พันธบัตรรัฐบาล ที่ให้ความมั่นคง หุ้นตั้งรับ และ หุ้นปันผล ที่เป็นเกราะป้องกัน หรือแม้กระทั่ง สกุลเงินหลัก ที่เป็นที่พึ่งพิงยามวิกฤต

เรายังได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของสถานะดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะ Safe Haven รวมถึงบทเรียนจากวิกฤตการณ์ในอดีตที่แสดงให้เห็นว่า Safe Haven ทำงานอย่างไรในสถานการณ์จริง แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เราได้เน้นย้ำถึง ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจนำ Safe Haven มาใช้ในพอร์ตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูล การมีความยืดหยุ่น การพิจารณาอัตราเงินเฟ้อ และการปรับสัดส่วนตามอายุและความเสี่ยงที่ยอมรับได้

การลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven เป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการบริหารพอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่คำตอบเดียวสำหรับทุกสถานการณ์ การมีความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาด คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความผันผวน และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมในระยะยาว เพื่อให้คุณสามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงินที่คุณใฝ่ฝันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นเหมือนครูผู้สอนที่ช่วยให้คุณมองเห็นเส้นทางสู่การลงทุนอย่างชาญฉลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับsafe haven คือ

Q:สินทรัพย์ Safe Haven คืออะไร?

A:สินทรัพย์ที่มีลักษณะการรักษามูลค่าหรือให้ผลตอบแทนในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน

Q:มีสินทรัพย์ปลอดภัยใดบ้างที่นิยมใช้?

A:ทองคำ, เงินสด, พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นตั้งรับ และหุ้นปันผล

Q:การลงทุนในสินทรัพย์ Safe Haven มีข้อควรพิจารณาอย่างไรบ้าง?

A:ศึกษาสินทรัพย์ให้ดี, มีความยืดหยุ่นในพอร์ตการลงทุน, พิจารณาอัตราเงินเฟ้อ และกระจายการลงทุน

發佈留言