66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

KDJ Indicator คือเครื่องมือการวิเคราะห์ที่สำคัญในตลาดการเงิน

Home / ข่าวตลาดเงิน / KDJ...

meetcinco_com | 27 6 月

KDJ Indicator คือเครื่องมือการวิเคราะห์ที่สำคัญในตลาดการเงิน

เจาะลึก KDJ Indicator: เครื่องมือสำคัญสำหรับการจับสัญญาณตลาดและโอกาสทำกำไร

ในโลกของการลงทุนที่เต็มไปด้วยความผันผวนและโอกาส การมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่แม่นยำเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางในมหาสมุทรแห่งตลาดการเงิน และหนึ่งในเข็มทิศที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่นักลงทุนและเทรดเดอร์ทั่วโลก นั่นคือ KDJ Indicator คุณเคยสงสัยไหมว่าอินดิเคเตอร์ตัวนี้ทำงานอย่างไร และทำไมมันถึงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนในการประเมินแรงโมเมนตัมของตลาด ตรวจจับภาวะซื้อหรือขายมากเกินไป และช่วยค้นหาจุดกลับตัวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ?

บทความนี้จะนำคุณเดินทางเข้าสู่โลกของ KDJ Indicator อย่างครบวงจร ตั้งแต่รากฐาน หลักการทำงานที่ซับซ้อนแต่ทรงพลัง ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรดจริง และข้อควรระวังต่างๆ ที่คุณจำเป็นต้องรู้ เราจะถอดรหัสความลับของเส้น K, D และ J พร้อมกับเปิดเผยเทคนิคการตีความสัญญาณที่สำคัญ เพื่อให้คุณสามารถนำความรู้นี้ไปปรับใช้และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดการเงินได้อย่างมั่นใจ เปรียบเสมือนการเรียนรู้จากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์มาแล้วและพร้อมที่จะแบ่งปันภูมิปัญญาให้คุณได้เติบโตในเส้นทางนี้ไปพร้อมกัน

  • KDJ Indicator ถูกพัฒนาจาก Stochastic Oscillator ทำให้มีเส้น J ที่เพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์
  • KDJ เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวน เช่น ตลาดฟิวเจอร์ส และสินทรัพย์ดิจิทัล
  • ใช้งาน KDJ ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เช่น Moving Averages เพื่อยืนยันสัญญาณ

KDJ Indicator คืออะไร: จุดเริ่มต้นของการทำความเข้าใจ

ก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่การประยุกต์ใช้ เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานกันก่อนว่า KDJ Indicator คืออะไร กันแน่? โดยพื้นฐานแล้ว KDJ Indicator เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Stochastic Oscillator ซึ่งคิดค้นโดยคุณ จอร์จ เลน (George Lane) แต่ KDJ นั้นมีการเพิ่มเส้นเข้ามาอีกหนึ่งเส้น นั่นคือ เส้น J ซึ่งช่วยให้สัญญาณมีความรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นในการบ่งชี้จุดกลับตัว

อินดิเคเตอร์ KDJ มักถูกเรียกว่า “Random Index” หรือ “Stochastic Oscillator” ที่มีการปรับปรุง เพราะมันพยายามที่จะบอกเราว่าราคาปิดปัจจุบันของสินทรัพย์นั้นอยู่ในตำแหน่งใดเมื่อเทียบกับช่วงราคาที่ซื้อขายในช่วงเวลาหนึ่งๆ คุณลองนึกภาพการเคลื่อนไหวของราคาที่เหมือนลูกตุ้มนาฬิกา KDJ จะช่วยบอกเราว่าลูกตุ้มนั้นแกว่งไปถึงจุดสูงสุดหรือต่ำสุดของรอบการเคลื่อนที่แล้วหรือยัง

แผนภูมิการวิเคราะห์ KDJ Indicator

เรามักจะพบเห็น KDJ Indicator ใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดที่มีความผันผวนสูง เช่น ตลาดฟิวเจอร์ส ตลาดหุ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันสำหรับ สินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Assets) และ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ด้วยความไวในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้นและนักลงทุนที่ต้องการจับจังหวะตลาดได้อย่างรวดเร็ว คุณพร้อมที่จะเจาะลึกองค์ประกอบของมันแล้วหรือยัง?

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเริ่มต้นการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ หรือมองหาโอกาสในผลิตภัณฑ์สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ที่หลากหลายยิ่งขึ้น Moneta Markets อาจเป็นแพลตฟอร์มที่คุ้มค่าแก่การพิจารณา แพลตฟอร์มนี้มีต้นกำเนิดจากออสเตรเลีย และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินกว่า 1,000 รายการ เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งสำหรับนักลงทุนมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพ

องค์ประกอบหลักและหลักการคำนวณของ KDJ Indicator

หัวใจสำคัญของ KDJ Indicator ประกอบด้วยสามเส้นหลักที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ เส้น K, เส้น D และ เส้น J การทำความเข้าใจหน้าที่ของแต่ละเส้นและการคำนวณเบื้องต้นจะช่วยให้คุณตีความสัญญาณได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

เส้น คำอธิบาย
เส้น K ตัวบ่งชี้หลักที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เร็วที่สุด
เส้น D ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่ายของเส้น K ช่วยลดความผันผวนและช่วยยืนยันแนวโน้ม
เส้น J ค่าที่เน้นย้ำความแตกต่างระหว่างเส้น K และ D ทำให้มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงราคามากที่สุด
  • เส้น K (Fast Stochastic Line): สะท้อนถึงตำแหน่งราคาปิดปัจจุบัน
  • เส้น D (Slow Stochastic Line): ใช้ค่าเฉลี่ย 3 วันของเส้น K
  • เส้น J (Divergence Value): สามารถเคลื่อนที่เกินขอบเขต 0-100%

วิธีการคำนวณ KDJ Indicator: ทีละขั้นตอน

เรามาดูวิธีการคำนวณเบื้องหลังกัน เพื่อให้คุณเห็นภาพว่าตัวเลขเหล่านี้มาจากไหน แม้ว่าแพลตฟอร์มการเทรดส่วนใหญ่จะคำนวณให้คุณโดยอัตโนมัติ แต่การเข้าใจหลักการจะช่วยให้คุณตีความได้อย่างลึกซึ้ง

ขั้นตอนแรกคือการคำนวณ RSV (Raw Stochastic Value) สำหรับช่วงเวลาที่กำหนด (N ซึ่งค่าเริ่มต้นมักจะเป็น 9):

RSV = ((ราคาปิดปัจจุบัน - ราคาต่ำสุดในช่วง N วัน) / (ราคาสูงสุดในช่วง N วัน - ราคาต่ำสุดในช่วง N วัน)) × 100

จากนั้น เราจะนำค่า RSV ที่ได้มาคำนวณหา เส้น K และ เส้น D โดยปกติจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบถ่วงน้ำหนัก (Exponential Moving Average – EMA) ซึ่งเร็วกว่า SMA แต่ในบริบทของ KDJ ทั่วไป เราสามารถใช้ค่าเฉลี่ย 3 วัน ดังนี้:

  • เส้น K = (2/3) × K (วันก่อนหน้า) + (1/3) × RSV (วันนี้)
  • เส้น D = (2/3) × D (วันก่อนหน้า) + (1/3) × K (วันนี้)

และสุดท้าย คือ เส้น J:

  • เส้น J = 3 × K − 2 × D

การตีความสัญญาณ KDJ: ภาวะ Overbought และ Oversold

หนึ่งในประโยชน์หลักของ KDJ Indicator คือความสามารถในการระบุภาวะ Overbought (ซื้อมากเกินไป) และ Oversold (ขายมากเกินไป) ในตลาด ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ว่าราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวในไม่ช้า

ภาวะ คำอธิบาย
Overbought เมื่อเส้น K, D หรือ J เคลื่อนตัวสูงกว่าระดับ 70 หรือ 80 สัญญาณเตือนว่าราคาจะปรับตัวลง
Oversold เมื่อเส้น K, D หรือ J เคลื่อนตัวต่ำกว่าระดับ 30 หรือ 20 สัญญาณเตือนว่าราคาจะปรับตัวขึ้น
  • ภาวะ Overbought: แรงซื้ออาจเริ่มอ่อนแรงลง
  • ภาวะ Oversold: แรงขายอาจเริ่มอ่อนแรงลง

Golden Cross และ Death Cross: สัญญาณเปลี่ยนทิศทางที่ต้องจับตา

นอกเหนือจากภาวะ Overbought/Oversold แล้ว การตัดกันของเส้นใน KDJ Indicator ยังเป็นสัญญาณที่ทรงพลังในการบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงทิศทางของแนวโน้ม โดยเฉพาะ Golden Cross และ Death Cross

  • Golden Cross (สัญญาณขาขึ้น/ซื้อ):

    สัญญาณนี้เกิดขึ้นเมื่อ เส้น K ตัดขึ้นเหนือ เส้น D ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในขณะที่เส้นทั้งสองอยู่ในระดับต่ำ (เช่น ต่ำกว่า 50 หรือเมื่อออกจากภาวะ Oversold)

  • Death Cross (สัญญาณขาลง/ขาย):

    ในทางตรงกันข้าม Death Cross เกิดขึ้นเมื่อ เส้น K ตัดลงต่ำกว่า เส้น D ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในระดับสูง (เช่น สูงกว่า 50 หรือเมื่อออกจากภาวะ Overbought)

นักเทรดกำลังใช้ KDJ บนหลายหน้าจอ

สัญญาณ Golden Cross และ Death Cross ถือเป็นจุดที่สำคัญในการตัดสินใจเข้าและออกจากตลาด แต่โปรดจำไว้ว่า ไม่มีอินดิเคเตอร์ใดที่สมบูรณ์แบบ การยืนยันสัญญาณเหล่านี้ด้วยเครื่องมืออื่นๆ หรือการพิจารณาสภาพตลาดโดยรวมจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของการตัดสินใจของคุณ

พลังของเส้น J และ Divergence: ค้นหาจุดกลับตัวที่แม่นยำ

แม้ว่าเส้น K และ D จะเป็นแกนหลัก แต่ เส้น J คือสิ่งที่ทำให้ KDJ Indicator โดดเด่นและมีประสิทธิภาพในการจับสัญญาณกลับตัวที่รวดเร็วและรุนแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แนวคิดของ Divergence (ความแตกต่าง) ยังเป็นอีกหนึ่งสัญญาณขั้นสูงที่นักลงทุนมืออาชีพใช้เพื่อระบุจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด

เส้น J: สัญญาณแห่งความรุนแรงและจุดสุดขีด

เนื่องจาก เส้น J คำนวณจากความสัมพันธ์ระหว่าง K และ D (J = 3K – 2D) มันจึงมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคามากที่สุด และสามารถเคลื่อนที่เกินขอบเขต 0-100% ได้

สถานการณ์ คำอธิบาย
J เกิน 90 บ่งชี้ถึงภาวะ Overbought ที่รุนแรงมาก ราคากำลังทำจุดสูงสุดที่สำคัญ
J ต่ำกว่า 10 บ่งชี้ถึงภาวะ Oversold ที่รุนแรงมาก ราคากำลังทำจุดต่ำสุดที่สำคัญ
  • เมื่อเส้น J เกิน 90: สัญญาณเตือนราคาจะแกว่งตัวลงเร็ว
  • เมื่อเส้น J ต่ำกว่า 10: สัญญาณเตือนราคาจะดีดตัวขึ้นทันที

เส้น J มอบสัญญาณที่รวดเร็วและมักจะเป็นแนวทางที่ดีเยี่ยมสำหรับการเทรดระยะสั้นที่ต้องการจับจังหวะการกลับตัว แต่ด้วยความไวที่สูง คุณจึงควรใช้ด้วยความระมัดระวังและยืนยันด้วยสัญญาณอื่นเสมอ

Divergence (ความแตกต่าง): สัญญาณเตือนจากภายใน

Divergence คือปรากฏการณ์ที่ราคาของสินทรัพย์และตัว KDJ Indicator เคลื่อนไหวสวนทางกัน บ่งชี้ถึงการอ่อนแรงของโมเมนตัมและเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดลง ซึ่งมีสองประเภทหลัก:

  • Bearish Divergence (สัญญาณขาลง):

    เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ KDJ Indicator กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลงแสดงให้เห็นว่าแรงซื้อกำลังอ่อนแอลง

  • Bullish Divergence (สัญญาณขาขึ้น):

    เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ KDJ Indicator กลับทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นแสดงให้เห็นว่าแรงขายกำลังอ่อนแอลง

กลยุทธ์การประยุกต์ใช้ KDJ ในการเทรดจริง: กำหนดจุดเข้าและออกอย่างชาญฉลาด

เมื่อคุณเข้าใจหลักการทำงานและวิธีการตีความสัญญาณของ KDJ Indicator แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำไปประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรดจริง การใช้ KDJ อย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้คุณกำหนดจุดเข้าและออกได้อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเทรดระยะสั้นและระยะกลาง

การหาจุดเข้า (Entry Points)

  • ใช้ Golden Cross ในภาวะ Oversold:

    นี่คือสัญญาณซื้อที่ทรงพลังที่สุด คุณควรพิจารณาเข้าซื้อเมื่อเส้น K ตัดขึ้นเหนือเส้น D ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเคลื่อนที่ออกจากระดับ Oversold

  • เส้น J ทะลุขึ้นจากจุดต่ำสุด:

    เมื่อเส้น J เคลื่อนที่ต่ำกว่า 0 หรือ 10 เป็นเวลานานและเริ่มพุ่งทะลุขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่อาจเป็นสัญญาณล่วงหน้าสำหรับการเข้าซื้อ

  • Divergence แบบ Bullish:

    เมื่อราคาทำ Lower Low แต่ KDJ ทำ Higher Low บ่งชี้ถึงแรงขายที่อ่อนแรงลง

การหาจุดออก (Exit Points)

  • ใช้ Death Cross ในภาวะ Overbought:

    นี่คือสัญญาณขายที่แข็งแกร่งที่สุด คุณควรพิจารณาขายหรือปิดสถานะซื้อเมื่อเส้น K ตัดลงต่ำกว่าเส้น D

  • เส้น J พุ่งทะลุจุดสูงสุด:

    เมื่อเส้น J พุ่งทะลุระดับ 100 หรือ 90 ขึ้นไป และเริ่มแสดงสัญญาณการกลับตัวลง

  • Divergence แบบ Bearish:

    เมื่อราคาทำ Higher High แต่ KDJ ทำ Lower High บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่อ่อนแรงลง

การปรับตั้งค่า KDJ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน

แม้ว่า KDJ Indicator จะมีค่าเริ่มต้นที่นิยมใช้คือ (9, 3, 3) แต่การปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดและสินทรัพย์ที่คุณเทรดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  • ค่าเริ่มต้น: (9, 3, 3)

    • 9: ช่วงเวลาที่ใช้ในการคำนวณ RSV
    • 3: ช่วงเวลาที่ใช้ในการหาค่าเฉลี่ยของเส้น K
    • 3: ช่วงเวลาที่ใช้ในการหาค่าเฉลี่ยของเส้น D
  • การปรับค่าที่ยาวขึ้น (14, 3, 3):

    • ข้อดี: ลดจำนวนสัญญาณหลอก
    • ข้อเสีย: สัญญาณอาจมาล่าช้า
  • การปรับค่าที่สั้นลง (5, 3, 3):

    • ข้อดี: เพิ่มความถี่ของสัญญาณ
    • ข้อเสีย: สัญญาณหลอกจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

การทดลองปรับค่าเหล่านี้ในบัญชีทดลอง (Demo Account) และสังเกตพฤติกรรมของ KDJ Indicator จะช่วยให้คุณค้นหา “Sweet Spot” หรือการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสไตล์การเทรดของคุณ

KDJ กับเพื่อนร่วมทาง: ประสานพลังกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยง

ในฐานะนักลงทุนที่ชาญฉลาด คุณคงทราบดีว่าการพึ่งพาอินดิเคเตอร์เพียงตัวเดียวในการตัดสินใจซื้อขายนั้นเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง KDJ Indicator แม้จะทรงพลัง แต่ก็มีข้อจำกัด การผสาน KDJ เข้ากับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการยืนยันสัญญาณและลดโอกาสเกิดสัญญาณหลอกได้อย่างมีนัยสำคัญ เรามาดูกันว่า KDJ สามารถทำงานร่วมกับอินดิเคเตอร์ตัวใดได้บ้าง

เครื่องมือ วิธีการใช้งาน
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ใช้ยืนยันแนวโน้มหลักเมื่อ KDJ ให้สัญญาณซื้อหรือขาย
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ยืนยันภาวะ Overbought/Oversold ของ KDJ
MACD ยืนยันสัญญาณ Golden Cross หรือ Death Cross ของ KDJ
  • การนำ KDJ ไปใช้ร่วมกับดัชนีอื่น ๆ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการตัดสินใจ
  • การผสมผสานเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีมุมมองหลายมิติในการวิเคราะห์ตลาด

ข้อจำกัดและข้อควรระวังในการใช้ KDJ Indicator ที่นักลงทุนควรรู้

ไม่มีอินดิเคเตอร์ใดที่สมบูรณ์แบบ และ KDJ Indicator ก็มีข้อจำกัดและสถานการณ์ที่อาจให้สัญญาณผิดพลาดได้เช่นกัน การตระหนักถึงข้อจำกัดเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้งาน KDJ ได้อย่างระมัดระวังและเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดของคุณ

  • สัญญาณหลอกในตลาด Sideways:

    KDJ มีแนวโน้มที่จะให้สัญญาณหลอกมากในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน

  • อาจเกิด Divergence ล้มเหลว:

    Divergence อาจปรากฏขึ้นแต่ราคายังคงเคลื่อนที่ในทิศทางเดิม

  • ความไวที่มากเกินไป:

    KDJ อาจให้สัญญาณที่เร็วเกินไปทำให้เกิดความกังวลจากการเคลื่อนไหวระยะสั้น

  • ไม่ควรใช้ KDJ เพียงอย่างเดียว:

    ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นเพื่อลดความเสี่ยง

KDJ Indicator ในปี 2025: วิวัฒนาการและการผสานรวมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ในโลกที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง KDJ Indicator ก็เช่นกัน มันไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่กำลังวิวัฒนาการเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ในปี 2025 เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญซึ่งยกระดับประสิทธิภาพของ KDJ ไปอีกขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสานรวมกับเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

  • การรวมเข้ากับโมเดล AI:

    แพลตฟอร์มการเทรดเริ่มนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของ KDJ ควบคู่ไปกับข้อมูลราคา

  • พารามิเตอร์ที่ปรับแต่งได้:

    แพลตฟอร์มเริ่มเสนอ KDJ ที่มีฟังก์ชันการปรับแต่งที่ละเอียดมากขึ้น

  • ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ:

    ระบบแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์เมื่อ KDJ สร้างสัญญาณสำคัญ

บทสรุป: KDJ Indicator กุญแจสู่การเทรดอย่างมีวินัยและเปี่ยมประสิทธิภาพ

ตลอดการเดินทางที่เราได้สำรวจ KDJ Indicator มาอย่างเจาะลึก คุณคงเห็นแล้วว่ามันเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลังและมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำความเข้าใจแนวโน้มตลาดและค้นหาจุดกลับตัวของราคาได้อย่างรวดเร็ว

เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณไขความลับของ KDJ Indicator และนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างผลกำไรในตลาดการเงินได้อย่างแท้จริง ขอให้คุณโชคดีในการลงทุน!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับkdj indicator คือ

Q:KDJ Indicator คืออะไร?

A:KDJ Indicator เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้เพื่อจับสัญญาณการซื้อขายในตลาดการเงิน

Q:การใช้งาน KDJ ต้องพิจารณาสิ่งใดบ้าง?

A:ควรพิจารณาใช้ KDJ ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เพื่อยืนยันสัญญาณ

Q:มีการตั้งค่า KDJ ที่แนะนำหรือไม่?

A:การตั้งค่าเริ่มต้น (9, 3, 3) มักเป็นที่นิยม แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาด

發佈留言