การลงทุนในทองคำยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในประเทศไทย ท่ามกลางรูปแบบสินค้าทองคำที่หลากหลาย การซื้อขายแบบ Gold Spot ถือเป็นหนึ่งในวิธีการสำคัญที่ได้รับความชื่นชอบมากที่สุด เพราะเป็นจุดศูนย์กลางของการค้าในตลาดทองคำระดับโลก การเข้าใจหลักการของ Gold Spot ไม่เพียงช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนทำกำไรได้ แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการจัดการพอร์ตลงทุนอย่างชาญฉลาด ท่ามกลางความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน

ในบทความนี้ เราจะสำรวจทุกมุมมองของ Gold Spot อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมายพื้นฐาน วิธีการทำงาน จนถึงความแตกต่างจาก Gold Future และปัจจัยที่กำหนดราคา นอกจากนี้ ยังมีคู่มือครบถ้วนสำหรับนักลงทุนชาวไทยที่อยากเริ่มเทรด Gold Spot รวมถึงเคล็ดลับในการเลือกโบรกเกอร์ การจัดการความเสี่ยง และข้อควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น

Gold Spot คืออะไร? ความหมายและกลไกการทำงาน
นิยามของ Gold Spot: ทองคำในรูปแบบดิจิทัล
Gold Spot หมายถึงการซื้อขายทองคำที่ใช่ราคาในขณะนั้น โดยทำการส่งมอบทันทีหลังจากตกลงซื้อขาย แต่ในความเป็นจริง การเทรดที่เราพบเจอส่วนใหญ่มักเป็นสัญญาที่อิงกับราคาทองคำ โดยไม่ต้องรับทองคำจริงมาถือครอง สรุปง่ายๆ มันคือทองคำในรูปแบบเสมือนที่ให้คุณถือสถานะในทองคำโดยไม่จำเป็นต้องเก็บทองคำแท่งจริง
Gold Spot ทำหน้าที่เป็นตัววัดราคาทองคำมาตรฐานในตลาดการเงินโลก โดยส่วนใหญ่ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งทรอยออนซ์ ทำให้ราคาของมันได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนใช้เก็งกำไรจากความผันผวนของราคาทองคำในช่วงสั้นๆ ไปจนถึงกลางๆ

กลไกการซื้อขาย Gold Spot: ใครกำหนดราคา?
การซื้อขาย Gold Spot มักเกิดขึ้นในตลาดแบบตรงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย หรือผ่านเครือข่ายของโบรกเกอร์และธนาคารใหญ่ๆ โดยไม่มีการรวมศูนย์เหมือนตลาดหุ้น
ราคาของ Gold Spot ถูกขับเคลื่อนหลักๆ จากอุปสงค์และอุปทานของทองคำในตลาดโลก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลากหลาย เช่น สภาวะเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ย นโยบายธนาคารกลาง และสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่สำคัญอย่าง COMEX ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ CME Group มีบทบาทหลักในการกำหนดราคาทองคำระดับโลก ด้วยสภาพคล่องสูงและผู้เข้าร่วมจำนวนมาก การเปลี่ยนแปลงราคาใน COMEX จึงมักกลายเป็นเกณฑ์อ้างอิงสำหรับ Gold Spot ทั่วโลก World Gold Council มอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานทองคำทั่วโลกที่เป็นประโยชน์มาก
Gold Spot กับ Gold Future ต่างกันอย่างไร? การเปรียบเทียบเชิงลึก
ข้อแตกต่างสำคัญ: สภาพคล่อง, การส่งมอบ, และความผันผวน
นักลงทุนเริ่มต้นมักสับสนระหว่าง Gold Spot กับ Gold Future ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ แม้ทั้งสองจะเกี่ยวข้องกับทองคำ แต่มีความแตกต่างชัดเจนในหลายด้าน ดังที่แสดงในตารางเปรียบเทียบด้านล่าง
| คุณสมบัติ | Gold Spot | Gold Future |
|---|---|---|
| นิยาม | การซื้อขายทองคำในราคาปัจจุบัน ไม่มีการส่งมอบทองคำจริง (ส่วนใหญ่) | สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า กำหนดส่งมอบและราคาในอนาคต |
| ตลาด | ตลาด OTC (Over-the-Counter) ผ่านโบรกเกอร์ | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (เช่น TFEX ในไทย, COMEX ในสหรัฐฯ) |
| การส่งมอบ | ไม่มีการส่งมอบทองคำจริงทางกายภาพ | มีกำหนดส่งมอบทองคำจริงตามสัญญา (แต่ส่วนใหญ่ปิดสถานะก่อน) |
| สภาพคล่อง | สูงมาก เนื่องจากเป็นตลาดระดับโลก 24 ชั่วโมง | ขึ้นอยู่กับตลาดและเดือนของสัญญา อาจไม่เท่า Gold Spot |
| ความผันผวน | เคลื่อนไหวตามราคาทองคำโลกแบบ Realtime | เคลื่อนไหวตามราคาทองคำโลกและปัจจัยเฉพาะของสัญญา |
| เลเวอเรจ | มักมีเลเวอเรจสูงกว่า (ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์) | มีเลเวอเรจตามที่ตลาดกำหนด (เช่น TFEX) |
| ระยะเวลา | ไม่มีวันหมดอายุ สามารถถือสถานะได้นานเท่าที่ต้องการ (มีค่า Swap/Rollover) | มีวันหมดอายุสัญญาที่แน่นอน |
| ความซับซ้อน | ค่อนข้างตรงไปตรงมา เข้าใจง่ายกว่า | ซับซ้อนกว่า ต้องเข้าใจเรื่อง Rolling Over สัญญา |
| เหมาะสำหรับ | นักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้น-กลาง, นักลงทุนมือใหม่ | นักลงทุนที่มีประสบการณ์, การบริหารความเสี่ยง, Hedge Fund |
สรุปแล้ว Gold Spot มีความยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่ายกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเก็งกำไรจากราคาทองคำโดยไม่ยุ่งยากกับการส่งมอบหรือจัดการสัญญา ในทางตรงกันข้าม Gold Future จะเหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากกว่า ที่ต้องการใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงหรือเก็งกำไรในช่วงเวลาที่กำหนดชัดเจน โดยรวมแล้ว การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและระดับความเชี่ยวชาญของแต่ละคน
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคา Gold Spot
ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์
ราคา Gold Spot ได้รับผลกระทบอย่างมากจากปัจจัยเศรษฐกิจระดับใหญ่และสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ ทองคำมักถูกมองว่าเป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัย ซึ่งนักลงทุนจะหันไปถือครองในช่วงที่ตลาดการเงินเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หรือเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก
- อัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน: หากธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทองคำที่ไม่มีผลตอบแทนจากดอกเบี้ยจะดูน่าสนใจน้อยลง เพราะนักลงทุนอาจหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า แต่ถ้าลดอัตราดอกเบี้ยหรือใช้นโยบายผ่อนคลาย ราคาทองคำมักจะได้รับแรงหนุน
- เงินเฟ้อ: ทองคำเป็นเครื่องมือหลักในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เมื่อมูลค่าเงินลดลง นักลงทุนจึงหันมาถือทองคำเพื่อรักษาคุณค่าของพอร์ต
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD): เนื่องจากราคา Gold Spot คิดเป็นดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำจะถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น แต่ถ้าดอลลาร์อ่อน ราคาจะสูงขึ้นตาม
- เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์: ความขัดแย้งทางการเมือง สงคราม การก่อการร้าย หรือวิกฤตอื่นๆ มักทำให้ผู้คนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
อุปสงค์และอุปทานของทองคำในตลาดโลก
เช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ราคา Gold Spot ถูกกำหนดโดยหลักการพื้นฐานของอุปสงค์และอุปทาน
- อุปทาน (Supply): แหล่งอุปทานหลักมาจากการขุดเหมืองทองคำ การรีไซเคิลทองคำเก่า และการขายสำรองจากธนาคารกลาง หากอุปทานลดลงจากปัญหาการผลิตหรือธนาคารกลางเก็บทองคำเพิ่ม ราคาก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
- อุปสงค์ (Demand): อุปสงค์ทองคำเกิดจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะ:
- เครื่องประดับ: เป็นส่วนแบ่งใหญ่สุด โดยเฉพาะในประเทศเอเชียที่นิยมใช้ทองคำทำเครื่องประดับ
- การลงทุน: นักลงทุนซื้อในรูปแบบแท่ง เหรียญ ETF หรือ Gold Spot เพื่อป้องกันความเสี่ยงและเก็งกำไร
- ภาคอุตสาหกรรม: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทันตกรรม และการแพทย์ ด้วยคุณสมบัติพิเศษ
- ธนาคารกลาง: หลายประเทศสะสมทองคำในทุนสำรองเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้สกุลเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็จัดการทุนสำรองที่อาจรวมทองคำด้วย
วิธีการเทรด Gold Spot ในประเทศไทย: เริ่มต้นอย่างไร?
เลือกโบรกเกอร์ Gold Spot ที่เชื่อถือได้และถูกกฎหมายในไทย
สำหรับการเริ่มเทรด Gold Spot ในไทย สิ่งแรกที่ต้องทำคือเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โบรกเกอร์เหล่านี้มักเป็นบริษัทหลักทรัพย์หรือผู้ได้รับอนุญาตสำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อิงราคาทองคำโลก
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์:
- การกำกับดูแล: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. หรือ SEC Thailand) หรือไม่ การเลือกที่ถูกกฎหมายช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยของเงินทุนและได้รับการคุ้มครอง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นแหล่งข้อมูลหลักสำหรับตรวจสอบ
- ค่าธรรมเนียมและสเปรด: เปรียบเทียบค่าคอมมิชชั่นและส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย เพราะมีผลโดยตรงต่อกำไรสุทธิ
- แพลตฟอร์มการซื้อขาย: ดูว่าแพลตฟอร์มใช้งานง่าย เสถียร และมีเครื่องมือวิเคราะห์ครบหรือไม่ เช่น MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5)
- เลเวอเรจ: เข้าใจอัตราที่โบรกเกอร์เสนอ เพราะเกี่ยวข้องกับขนาดการเทรดและความเสี่ยง
- บริการลูกค้า: โบรกเกอร์ดีควรมีทีมสนับสนุนที่ตอบสนองรวดเร็วและมืออาชีพ
- ตัวอย่างโบรกเกอร์ (เพื่อการศึกษา ไม่ใช่การแนะนำ): ในตลาดไทยหรือที่บริการนักลงทุนไทย เช่น บล.บัวหลวง (Bualuang Securities) หรือ ThinkMarkets ซึ่งได้รับการรับรองและมีบริการในไทย ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลละเอียดก่อนตัดสินใจ
ขั้นตอนการเปิดบัญชีและเริ่มต้นการซื้อขาย
หลังจากเลือกโบรกเกอร์ที่ใช่แล้ว ขั้นตอนเริ่มต้นเทรด Gold Spot มักเป็นดังนี้:
- ลงทะเบียนเปิดบัญชี: กรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่กำหนด โดยใช้เอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชนและหลักฐานที่อยู่
- ยืนยันตัวตน (KYC): ดำเนินการยืนยันตามกฎของโบรกเกอร์ อาจรวมถึงถ่ายรูปคู่บัตรหรือวิดีโอคอล
- ฝากเงินเข้าบัญชี: โอนเงินผ่านธนาคารหรือช่องทางออนไลน์ที่โบรกเกอร์รองรับ
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแพลตฟอร์ม: ติดตั้งแพลตฟอร์มอย่าง MT4/MT5 บนคอมหรือมือถือ
- เริ่มต้นการซื้อขาย: ล็อกอิน เลือกสัญลักษณ์ Gold Spot (เช่น XAU/USD) วิเคราะห์ แล้วส่งคำสั่งซื้อหรือขาย
การอ่านกราฟราคา Gold Spot และเครื่องมือวิเคราะห์
การตีความกราฟราคา Gold Spot แบบเรียลไทม์เป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจเทรด แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีกราฟและเครื่องมือเทคนิคให้ใช้
- รูปแบบกราฟ: เรียนรู้กราฟแท่งเทียนที่แสดงราคาเปิด-ปิด สูง-ต่ำในแต่ละช่วง
- แนวรับและแนวต้าน: ระบุระดับราคาที่คาดว่าจะมีแรงซื้อหรือขายเข้า
- อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค: ใช้เครื่องมือเช่น Moving Averages (MA), RSI, MACD เพื่อพยากรณ์ทิศทางและสัญญาณเทรด
- ข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจ: ติดตามข่าวสำคัญและปฏิทินที่อาจกระทบราคาทองคำ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
บริหารความเสี่ยงและข้อควรระวังในการเทรด Gold Spot สำหรับนักลงทุนไทย
กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่สำคัญ
Gold Spot มีความผันผวนสูงและใช้เลเวอเรจ ซึ่งขยายทั้งกำไรและขาดทุน การจัดการความเสี่ยงจึงจำเป็น โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียใหญ่
- กำหนด Stop Loss (หยุดขาดทุน): ตั้งจุดตัดขาดทุนชัดเจน เพื่อจำกัดความเสียหายหากราคาไปผิดทาง
- กำหนด Take Profit (ทำกำไร): กำหนดเป้าหมายกำไร และปิดสถานะเมื่อถึงจุดนั้นเพื่อล็อกผลตอบแทน
- บริหารขนาดการลงทุน (Position Sizing): ใช้เงินเพียงส่วนน้อยของพอร์ตที่ยอมเสียได้ในแต่ละเทรด
- ทำความเข้าใจเลเวอเรจ: เลเวอเรจช่วยเทรดด้วยเงินน้อยแต่เพิ่มความเสี่ยง ใช้อย่างระมัดระวัง
- กระจายความเสี่ยง: อย่าลงทุนทั้งหมดในทองคำ กระจายไปยังสินทรัพย์อื่นเพื่อลดผลกระทบ
- ศึกษาและฝึกฝน: เรียนรู้ตลาดและกลยุทธ์ต่อเนื่อง เริ่มด้วยบัญชีทดลองก่อนใช้เงินจริง เพื่อสร้างความมั่นใจ
ทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมและภาษีในประเทศไทย
นักลงทุนไทยควรรู้จักค่าธรรมเนียมและภาษีที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Gold Spot เพื่อวางแผนการเงินให้ดี
- ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์: รวมถึงคอมมิชชั่น สเปรด และค่า Swap สำหรับถือสถานะข้ามคืน
- ภาษี: กำไรจากการเก็งกำไรส่วนต่างราคาอาจถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร ต้องรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่กฎภาษีซับซ้อนและอาจเปลี่ยนแปลง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือกรมสรรพากรเพื่อข้อมูลล่าสุด
สรุป: Gold Spot ทางเลือกการลงทุนทองคำที่น่าสนใจ
Gold Spot เป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดและเข้าถึงง่ายสำหรับนักลงทุนไทยที่อยากเก็งกำไรจากความผันผวนราคาทองคำโลก ด้วยระบบที่ไม่ต้องรับทองคำจริงและโอกาสใช้เลเวอเรจ มันกลายเป็นเครื่องมือสร้างผลตอบแทนที่ทรงพลัง แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่ต้องระวัง
การศึกษาลึกซึ้งเกี่ยวกับ Gold Spot การเลือกโบรกเกอร์ที่ถูกต้อง การฝึกวิเคราะห์ตลาด และวินัยในการจัดการความเสี่ยง ล้วนช่วยให้ประสบความสำเร็จ การลงทุนแบบนี้ไม่ใช่แค่การเทรด แต่เป็นการปรับตัวเข้ากับตลาดโลกเพื่อคว้าโอกาสและควบคุมความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Gold Spot (FAQ)
Gold Spot คืออะไร และแตกต่างจากทองคำแท่งทั่วไปอย่างไร?
Gold Spot คือการซื้อขายทองคำในราคาปัจจุบันโดยอ้างอิงราคาทองคำในตลาดโลก มักจะไม่มีการส่งมอบทองคำจริงทางกายภาพ แต่เป็นการเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา ในขณะที่ทองคำแท่งทั่วไปคือการซื้อขายทองคำจริงที่มีการส่งมอบและเก็บรักษาไว้ ซึ่งมักจะเน้นการลงทุนระยะยาวเพื่อรักษามูลค่า
Gold Spot คิดราคายังไง และใครเป็นผู้กำหนดราคา?
ราคา Gold Spot อ้างอิงจากราคาทองคำในตลาดโลก โดยมีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อทรอยออนซ์เป็นหน่วยวัด ราคาถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานในตลาด OTC และได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการเคลื่อนไหวของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหลัก เช่น COMEX
เทรด Gold Spot โบรกไหนดีที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย?
การเลือกโบรกเกอร์ควรพิจารณาจาก การกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. (SEC Thailand) ค่าธรรมเนียม สเปรด แพลตฟอร์มการซื้อขาย และบริการลูกค้า นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทยอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
ต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ถึงจะเริ่มเทรด Gold Spot ได้?
จำนวนเงินทุนเริ่มต้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์ บางโบรกเกอร์อาจอนุญาตให้เปิดบัญชีด้วยเงินทุนจำนวนไม่มากนัก เช่น หลักพันบาท แต่การมีเงินทุนที่เพียงพอจะช่วยให้บริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้นและมีขนาดการซื้อขายที่เหมาะสม
Gold Spot กับ Gold Future ต่างกันอย่างไรในแง่ของความเสี่ยงและการลงทุน?
Gold Spot มีความยืดหยุ่นกว่า ไม่มีวันหมดอายุสัญญา เหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้น-กลาง ส่วน Gold Future มีวันหมดอายุ มีการส่งมอบ (แม้ส่วนใหญ่จะปิดสถานะก่อน) และอาจซับซ้อนกว่าในการบริหารจัดการ เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และต้องการทำ Hedging ความเสี่ยงของทั้งคู่สูงเนื่องจากมีเลเวอเรจ
การเทรด Gold Spot ในไทยมีค่าธรรมเนียมหรือภาษีอะไรบ้างที่ควรรู้?
ค่าธรรมเนียมที่พบบ่อยคือ สเปรด (ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย) ค่าคอมมิชชั่น (ถ้ามี) และค่า Swap หรือ Rollover Fee สำหรับการถือสถานะข้ามคืน สำหรับภาษี กำไรจากการเทรด Gold Spot อาจเข้าข่ายเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือกรมสรรพากร
จะดูกราฟราคา Gold Spot Realtime และเครื่องมือวิเคราะห์ได้จากที่ไหน?
คุณสามารถดูกราฟราคา Gold Spot Realtime ได้จากแพลตฟอร์มการซื้อขายของโบรกเกอร์ (เช่น MT4/MT5) หรือเว็บไซต์วิเคราะห์ตลาดการเงินชั้นนำต่างๆ เช่น TradingView, Investing.com ซึ่งมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมายให้ใช้งาน
ข้อควรระวังหลักๆ ในการเทรด Gold Spot สำหรับนักลงทุนมือใหม่คืออะไร?
สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อย ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ใช้บัญชีทดลองก่อนลงทุนจริง มีวินัยในการกำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit และเข้าใจว่าการใช้เลเวอเรจมีความเสี่ยงสูง ควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณพร้อมจะสูญเสียได้
เทรด Gold Spot สามารถทำกำไรได้จากส่วนต่างของราคาอย่างเดียวหรือไม่?
โดยหลักแล้ว การเทรด Gold Spot มุ่งเน้นการทำกำไรจากส่วนต่างของราคา (Price Difference) โดยการซื้อเมื่อราคาต่ำและขายเมื่อราคาสูง (หรือขายชอร์ตเมื่อราคาสูงและซื้อคืนเมื่อราคาต่ำ) โบรกเกอร์บางรายอาจมีค่า Swap หรือ Rollover Fee ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งบวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับทิศทางการถือสถานะและอัตราดอกเบี้ย
ซื้อขาย Gold Spot ผ่านแอปพลิเคชันมือถือได้หรือไม่?
ได้ครับ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีแอปพลิเคชันบนมือถือที่รองรับทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถติดตามราคา วิเคราะห์ตลาด และทำการซื้อขาย Gold Spot ได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างสะดวกสบาย