บทนำ: เก็งกำไรค่าเงินคืออะไร และทำไมต้องรู้กฎหมาย?

ในยุคที่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและโอกาสลงทุนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การเก็งกำไรค่าเงิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Forex จากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ กำลังกลายเป็นเรื่องที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนชาวไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ หลายคนเห็นศักยภาพในการสร้างรายได้จากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน แต่เบื้องหลังความน่าตื่นเต้นนี้ ยังซ่อนความซับซ้อนและกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่ต้องระวัง หากมองข้ามไป อาจนำมาซึ่งความเสียหายทางการเงินและปัญหาทางกฎหมายที่รุนแรง

บทความนี้จึงมุ่งชี้แจงสถานะทางกฎหมายของการเก็งกำไรค่าเงินในประเทศไทย โดยเฉพาะคำถามยอดฮิตว่ากิจกรรมนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ เราจะวิเคราะห์เจาะลึกพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ. 2485 บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเข้าถึงตลาดค่าเงินอย่างถูกต้อง รวมถึงเคล็ดลับป้องกันตัวเองจากกลโกงที่มักมาในคราบการลงทุน Forex แบบผิดกฎหมาย

ไม่ว่านักลงทุนจะเป็นมือใหม่ที่กำลังมองหาโอกาส หรือผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการขยายพอร์ต การทำความเข้าใจกรอบกฎหมาย ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และแนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัย เป็นกุญแจสำคัญในการจัดการเงินทุนอย่างชาญฉลาด บทความนี้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยให้คุณก้าวสู่โลกการลงทุนค่าเงินด้วยความมั่นใจ โดยหลีกเลี่ยงกับดักจากความไม่รู้และการหลอกลวงที่ผิดกฎหมาย

เก็งกำไรค่าเงิน ผิดกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่? ไขข้อสงสัยตามกฎหมาย

คำถามที่นักลงทุนชาวไทยมักสงสัยมากที่สุดเกี่ยวกับการเก็งกำไรค่าเงิน ก็คือมันผิดกฎหมายหรือเปล่า คำตอบตรงๆ คือ ขึ้นอยู่กับรูปแบบและช่องทางที่ใช้ บางวิธีถูกกฎหมาย แต่บางวิธีผิดชัดเจน เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเข้มงวด โดยหลักๆ คือพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ. 2485 ซึ่งมอบอำนาจให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ดูแลและกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ

ความแตกต่างระหว่างการเก็งกำไรที่ถูกกฎหมายกับการเก็งกำไรที่ผิดกฎหมาย

โดยหลักการ การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศต้องผ่านผู้รับอนุญาตเท่านั้น เช่น ธนาคารพาณิชย์หรือธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตจาก ธปท. เพื่อให้มั่นใจในความโปร่งใสและการคุ้มครอง

• การเก็งกำไรค่าเงินที่ถูกกฎหมาย: หมายถึงการซื้อขายหรือลงทุนผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตในไทย เช่น ธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ ก.ล.ต. รับรอง สำหรับผลิตภัณฑ์อย่างกองทุนรวมต่างประเทศ หรือการแลกเปลี่ยนเงินเพื่อจุดประสงค์ที่กฎหมายยอมรับ เช่น การค้าขาย การลงทุน หรือการเรียนต่อต่างประเทศ กิจกรรมเหล่านี้จึงไม่ผิดกฎหมายและปลอดภัย
• การเก็งกำไรค่าเงินที่ผิดกฎหมาย: เกิดขึ้นเมื่อใช้แพลตฟอร์มออนไลน์หรือโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่ได้จดทะเบียนในไทย หรือไม่ใช่บริษัทหลักทรัพย์ที่ ก.ล.ต. อนุมัติ การทำธุรกรรมกับบุคคลหรือนิติบุคคลเหล่านี้ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เนื่องจากขาดใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ แม้แต่การชวนเพื่อนลงทุนในช่องทางเหล่านี้ ก็อาจถูกมองเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดได้

ธปท. ออกประกาศเตือนซ้ำๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมกับผู้ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งไม่เพียงผิดกฎหมาย แต่ยังเสี่ยงถูกโกงและขาดการคุ้มครอง หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ลองดูข้อมูลกฎระเบียบจากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ ที่นี่

กรณีศึกษา: การซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อเก็บเก็งกำไรส่วนตัว

สำหรับบุคคลทั่วไป การแลกเงินต่างประเทศจำนวนไม่มากเพื่อใช้ส่วนตัว เช่น เตรียมเดินทางหรือเก็บออม ถือเป็นเรื่องปกติและไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าซื้อขายในปริมาณใหญ่บ่อยๆ โดยมุ่งหวังกำไรจากความผันผวน และใช้ช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็อาจถูกตีความว่าเป็นการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายได้ จุดเส้นแบ่งระหว่าง “เก็งกำไรส่วนตัว” กับ “ประกอบธุรกิจ” นั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน ดังนั้น การปรึกษาธนาคารหรือสถาบันที่ได้รับอนุญาตก่อนลงมือ จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด

ความเสี่ยงและบทลงโทษของการเก็งกำไรค่าเงินที่ผิดกฎหมาย

การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเก็งกำไรค่าเงินแบบผิดกฎหมายในไทย ไม่ได้เสี่ยงแค่เรื่องเงินเท่านั้น แต่ยังอาจถูกดำเนินคดีรุนแรง ทั้งนักลงทุน ผู้ชักชวน และผู้ให้บริการ ล้วนตกอยู่ในภาวะเสี่ยง

ความเสี่ยงทางการเงิน

• การสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด: แพลตฟอร์มเถื่อนมักขาดความโปร่งใส ใช้กลไกที่เอาเปรียบ เช่น ปรับราคาไม่เป็นธรรม หรือปฏิเสธการถอนเงิน ทำให้เงินหายวับไปกับตา
• ความผันผวนของตลาด: ตลาด Forex เคลื่อนไหวรุนแรง การใช้เลเวอเรจสูงที่โบรกเกอร์เถื่อนเสนอ สามารถทำให้ทุนหมดเกลี้ยงในชั่วพริบตา โดยเฉพาะมือใหม่ที่ยังไม่ชำนาญ
• การถูกฉ้อโกง: ช่องทางเหล่านี้มักเป็นแหล่งของกลโกงหลากหลาย เช่น แบบแชร์ลูกโซ่ หลอกลงทุนในสิ่งที่ไม่มีจริง หรือยักยอกเงินไปใช้ส่วนตัว ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในไทย

ความเสี่ยงและบทลงโทษทางกฎหมาย

ตามพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ. 2485 การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจต้องรับโทษดังนี้

• โทษปรับ: สำหรับผู้ทำธุรกรรมกับผู้ไม่ได้รับอนุญาต หรือผู้ประกอบธุรกิจเถื่อน อาจถูกปรับเงินจำนวนสูง เพื่อเป็นบทลงโทษทางเศรษฐกิจ
• โทษจำคุก: ในกรณีรุนแรง เช่น การเป็นนายหน้าชักชวน การจัดซื้อขาย หรือเชื่อมโยงกับการฟอกเงิน อาจติดคุกเพิ่มเติม เพื่อยับยั้งการกระทำผิดซ้ำ
• การฟอกเงิน: การโอนเงินไปยังแพลตฟอร์มเถื่อน หรือรับเงินกลับจากกิจกรรมผิดกฎหมาย อาจถูกฟ้องฐานฟอกเงิน ซึ่งมีโทษหนักหน่วงตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

จากเคสจริงในอดีต นักลงทุนไทยจำนวนไม่น้อยสูญเงินไปกับ Forex เถื่อน และบางรายยังถูกดำเนินคดีโดยไม่ตั้งใจ เพียงเพราะขาดความรู้เรื่องกฎหมายและช่องทางที่ถูกต้อง สิ่งนี้ยิ่งทำให้ง่ายต่อการตกหลุมพรางของมิจฉาชีพในตลาดมืด

วิธีการเก็งกำไรค่าเงินและลงทุนในค่าเงินอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย

ถึงแม้การลงทุน Forex โดยตรงกับโบรกเกอร์ต่างชาติที่ไม่ได้รับอนุญาตจะผิดกฎหมาย แต่ไทยยังมีทางเลือกที่ถูกต้องและปลอดภัยสำหรับการลงทุนค่าเงิน โดยอยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท. และ ก.ล.ต. ซึ่งช่วยให้มั่นใจในความโปร่งใสและการคุ้มครอง

1. การทำธุรกรรมผ่านธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย

ธนาคารใหญ่ๆ ในไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย ล้วนให้บริการเงินตราต่างประเทศที่ถูกกฎหมายและน่าเชื่อถือ

• บัญชีเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit Account – FCD): เปิดบัญชีเพื่อฝากเงินต่างสกุล เช่น ดอลลาร์ ยูโร หรือเยน สำหรับออม ชำระเงิน หรือเตรียมลงทุน การถือเงินในบัญชีนี้ช่วยให้เก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในระยะยาว แต่ต้องแลกผ่านธนาคารเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย
• การซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุ: ธนาคารช่วยแลกเงินสำหรับจุดประสงค์หลากหลาย เช่น จ่ายค่าสินค้า ลงทุนต่างประเทศ โอนเงินเรียนต่อ หรือซื้ออสังหาฯ ต่างแดน ทุกอย่างอยู่ภายใต้ระเบียบของ ธปท. ตัวอย่างเช่น บริการแลกเงินของธนาคารกสิกรไทย ดูได้ที่นี่
• ตราสารอนุพันธ์เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน: สำหรับธุรกิจหรือนักลงทุนสถาบันที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง ธนาคารอาจเสนอผลิตภัณฑ์อย่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือออปชั่น เพื่อล็อกอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งช่วยจัดการความไม่แน่นอนได้ดี

2. การลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ดูแลตลาดทุนไทย ทำให้มีตัวเลือกการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินอย่างถูกต้อง

• กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Funds – FIF): บริษัทจัดการกองทุนที่ ก.ล.ต. รับรอง สามารถออกกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ต่างชาติ รวมถึงตราสารหนี้ หุ้น หรือสกุลเงิน การเลือกกองทุนเหล่านี้คือทางอ้อมในการเก็งกำไรค่าเงินที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Futures) บน TFEX: ตลาด TFEX ภายใต้ ก.ล.ต. มีการซื้อขาย Currency Futures อ้างอิงคู่เงินหลัก เช่น USD/THB ซึ่งเป็นช่องทางเก็งกำไรที่โปร่งใส มีการกำกับดูแลเข้มข้น

3. การทำ Arbitrage และ Hedging ในทางธุรกิจ

สำหรับภาคธุรกิจ การทำกำไรจากส่วนต่างราคา (Arbitrage) หรือป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เกี่ยวกับค่าเงิน เป็นกลยุทธ์มาตรฐานที่ถูกกฎหมายและช่วยบริหารความเสี่ยงทางการเงิน โดยต้องผ่านสถาบันที่ได้รับอนุญาตและปฏิบัติตามระเบียบ ธปท. ซึ่งในทางปฏิบัติ ช่วยให้บริษัทรักษาเสถียรภาพได้ดีขึ้น

การเลือกช่องทางที่ถูกต้องและมีผู้กำกับดูแล จะช่วยให้นักลงทุนจัดการความเสี่ยงและปกป้องทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมาย

การป้องกันตัวเองจากโบรกเกอร์ Forex เถื่อนและกลโกงในไทย

ทุกปี นักลงทุนไทยตกเป็นเหยื่อกลโกงในคราบ Forex เถื่อนจำนวนมาก การรู้วิธีสังเกตและป้องกันจึงสำคัญ เพื่อไม่ให้เงินหายไปกับมิจฉาชีพเหล่านี้

วิธีสังเกตและหลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ Forex เถื่อน

โบรกเกอร์เถื่อนมักมีลักษณะที่ชัดเจน สามารถจับตาดูได้ดังนี้

• ผลตอบแทนสูงเกินจริงและรับประกันผลกำไร: โฆษณาว่าทำกำไรได้ 10-30% ต่อเดือนโดยไม่มีเสี่ยง ซึ่งในความเป็นจริง การลงทุนไม่มีอะไรรับประกันได้แบบนี้
• ไม่มีใบอนุญาตในประเทศไทย: อ้างจดทะเบียนต่างประเทศ แต่ขาดอนุญาตจาก ธปท. หรือ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนใหญ่
• ชักชวนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย: ใช้ Facebook, Line, Instagram หรือ Telegram ชวนลงทุน โดยปลอมตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ
• ระบบการลงทุนแบบแชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme): ชวนหาสมาชิกใหม่เพื่อรับโบนัส หรือจ่ายกำไรจากเงินสมาชิกใหม่ ไม่ใช่จากผลการเทรดจริง
• การบังคับให้ฝากเงินเพิ่ม: เมื่อขาดทุน จะชวนเติมเงินเพื่อ “แก้สถานการณ์” หรือ “รับโปรโมชั่น” ซึ่งเป็นกับดักชัดเจน
• ขั้นตอนการถอนเงินยุ่งยากหรือถอนไม่ได้: มีข้อแก้ตัวสารพัด เช่น ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม หรือระบบขัดข้อง จนเงินไม่เคยออกมา
• ข้อมูลบริษัทไม่โปร่งใส: ข้อมูลบริษัท ผู้บริหาร หรือที่ตั้งไม่ชัดเจน ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นของปลอม

การตรวจสอบใบอนุญาตกับหน่วยงานกำกับดูแลของไทย

ขั้นตอนสำคัญคือตรวจสอบใบอนุญาตของโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มก่อนลงทุนเสมอ

• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.): ดูแลหลักเรื่องแลกเปลี่ยนเงิน สามารถเช็ครายชื่อผู้ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ ธปท. ได้ง่ายๆ
• สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.): ดูแลตลาดทุนและผลิตภัณฑ์ค่าเงิน เช่น กองทุนหรือ TFEX ก.ล.ต. มีรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจเถื่อนที่ควรหลีกเลี่ยง พร้อมข้อมูลตรวจสอบสำหรับนักลงทุน

การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหรือทางการเงินกับแพลตฟอร์มที่น่าสงสัย กลโกงออนไลน์ยังรวมถึงการหลอกล่อข้อมูล (Phishing) การปลอมตัว หรือแฮกบัญชี ดังนั้น ใช้รหัสผ่านแข็งแกร่งและเปิดการยืนยันหลายชั้น (Multi-Factor Authentication) เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะในยุคที่การโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น

สรุปและข้อคิด: เก็งกำไรค่าเงินอย่างชาญฉลาดและปลอดภัย

การเก็งกำไรค่าเงินเป็นโอกาสที่น่าลงทุน หากทำอย่างถูกต้องและเข้าใจความเสี่ยง ในไทย พระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ. 2485 คือกรอบหลักที่กำหนดขอบเขตกิจกรรมที่อนุญาตหรือห้าม

สรุปคือ การเก็งกำไรตรงๆ กับโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่ได้รับอนุญาตผิดกฎหมายและเสี่ยงสูง ทั้งเสียเงินและถูกดำเนินคดี ช่องทางเหล่านี้ขาดการคุ้มครอง และอาจลากคุณเข้าสู่วงจรกลโกงหรือฟอกเงิน

แต่ถ้าเลือกทางถูก เช่น ผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาต หรือผลิตภัณฑ์ภายใต้ ก.ล.ต. อย่างกองทุนรวมต่างประเทศหรือ Currency Futures บน TFEX ก็ปลอดภัยและถูกกฎหมาย

ก่อนเริ่มลงทุนใดๆ เกี่ยวกับค่าเงิน ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ตรวจใบอนุญาต และเข้าใจระเบียบของ ธปท. กับ ก.ล.ต. ถ้าสงสัย ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานตรง การเก็งกำไรอย่างชาญฉลาดคือการยึดกฎหมายและปกป้องทรัพย์สินจากความเสี่ยงทุกชนิด

เก็งกำไรค่าเงิน Forex ในประเทศไทยผิดกฎหมายหรือไม่?

การเก็งกำไรค่าเงิน Forex โดยตรงกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ. 2485 อย่างไรก็ตาม การลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมาย เช่น กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ หรือ Currency Futures บน TFEX ถือว่าถูกกฎหมาย

การซื้อขายเงินตราต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ถือว่าถูกกฎหมายไหม?

หากแอปพลิเคชันนั้นเป็นของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยที่ได้รับอนุญาต หรือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. (สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง) ก็ถือว่าถูกกฎหมาย แต่หากเป็นแอปพลิเคชันของโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในไทย ก็ถือว่าผิดกฎหมายและมีความเสี่ยงสูงมาก

ถ้าถูกหลอกจากการลงทุน Forex เถื่อนในไทย ต้องแจ้งความที่ไหน?

หากตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงจากการลงทุน Forex เถื่อน ควร

• รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักฐานการโอนเงิน บทสนทนา ข้อมูลแพลตฟอร์ม
• แจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)
• สามารถปรึกษาสำนักงาน ก.ล.ต. หรือ ธปท. เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้

ธนาคารกสิกรไทย (Kasikornbank) มีบริการเก็งกำไรค่าเงินที่ถูกกฎหมายหรือไม่?

ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ในประเทศไทย มีบริการที่เกี่ยวข้องกับเงินตราต่างประเทศที่ถูกกฎหมาย เช่น บัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD) และการแลกเปลี่ยนเงินเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่ได้ให้บริการ "เก็งกำไรค่าเงิน Forex" โดยตรงในลักษณะเดียวกับโบรกเกอร์ออนไลน์ ผู้ลงทุนควรศึกษาบริการของธนาคารอย่างละเอียดและปรึกษาเจ้าหน้าที่

ข้อแตกต่างระหว่างการเก็งกำไรค่าเงินกับการบริหารความเสี่ยงค่าเงินคืออะไร?

การเก็งกำไรค่าเงิน: มีเป้าหมายหลักในการแสวงหากำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยการคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต มักมีความเสี่ยงสูง
การบริหารความเสี่ยงค่าเงิน (Hedging): มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน มักใช้โดยภาคธุรกิจที่มีรายรับหรือรายจ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ เพื่อล็อกอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคต

มีวิธีตรวจสอบโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. (SEC Thailand) ได้อย่างไร?

ก.ล.ต. ไม่ได้ให้ใบอนุญาตสำหรับโบรกเกอร์ Forex โดยตรง แต่จะกำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์ที่เสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับค่าเงิน เช่น TFEX Currency Futures คุณสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้จากเว็บไซต์ทางการของ ก.ล.ต. และตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยง

การซื้อเงินต่างประเทศเพื่อเก็บเก็งกำไรส่วนตัวในจำนวนมาก ผิดกฎหมายไหม?

การซื้อเงินตราต่างประเทศจำนวนมากเพื่อเก็งกำไรส่วนตัว หากดำเนินการผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาตและมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน มักจะไม่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากเป็นการทำธุรกรรมผ่านช่องทางที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือมีลักษณะคล้ายกับการประกอบธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาต อาจเข้าข่ายความผิดได้

รัฐบาลไทยมีนโยบายควบคุมการเก็งกำไรค่าเงินอย่างไรบ้าง?

รัฐบาลไทยมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้กำกับดูแลหลัก โดยมีนโยบายควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ และกำหนดให้การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศต้องผ่านผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและป้องกันการฟอกเงิน นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังกำกับดูแลผลิตภัณฑ์การลงทุนในตลาดทุนที่เกี่ยวข้องกับค่าเงิน

การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่มีค่าผูกกับค่าเงิน (Stablecoin) ถือเป็นการเก็งกำไรค่าเงินหรือไม่?

Stablecoin เช่น USDT หรือ USDC ที่มีค่าผูกกับสกุลเงิน fiat (เช่น USD) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลในฐานะโทเคนดิจิทัล ไม่ใช่เงินตราต่างประเทศโดยตรง การลงทุนใน Stablecoin มีลักษณะคล้ายการถือครองสกุลเงินนั้นๆ และอาจมีการเก็งกำไรจากความผันผวนของค่าเงิน แต่ต้องทำผ่านผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เท่านั้น

ถ้าเจอเว็บไซต์/เพจ Facebook ที่ชวนลงทุน Forex ผิดปกติ ควรทำอย่างไร?

• อย่าหลงเชื่อหรือให้ข้อมูลส่วนตัวเด็ดขาด
• แจ้งเบาะแสไปยังสำนักงาน ก.ล.ต. ผ่านสายด่วน 1207 หรืออีเมล
• แจ้งไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย หากเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
• รายงานเพจ/เว็บไซต์นั้นๆ ให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องทราบ