ทำไมตาราง Forex จึงสำคัญต่อการเทรดของคุณ?
การเข้าใจตาราง Forex ถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกคนที่อยากประสบความสำเร็จในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เครื่องมือนี้ไม่ใช่แค่ตารางธรรมดา แต่เป็นแหล่งข้อมูลลึกซึ้งที่ประกอบด้วยสองส่วนหลัก คือ ปฏิทินเศรษฐกิจและเวลาการเทรด Forex ซึ่งช่วยให้คุณคาดเดาความผันผวนของตลาดได้ และคว้าโอกาสทำกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ

ในฐานะเทรดเดอร์ คุณควรทราบว่าข่าวเศรษฐกิจสำคัญจะประกาศเมื่อไหร่ และช่วงเวลาไหนที่ตลาดคึกคักที่สุด หากมองข้ามข้อมูลเหล่านี้ อาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ หรือเจอความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น บทความนี้จะอธิบายทุกมุมมองของตาราง Forex พร้อมแนวทางปฏิบัติที่เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยโดยเฉพาะ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูง เพื่อให้คุณนำเครื่องมือนี้ไปใช้อย่างชาญฉลาดและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว
ส่วนที่ 1: ทำความเข้าใจ “ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex”
ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex คืออะไร?
ปฏิทินเศรษฐกิจคือเครื่องมือที่รวบรวมกำหนดการประกาศข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์สำคัญทั่วโลก ซึ่งอาจกระทบต่อตลาดการเงินรวมถึง Forex ข้อมูลเหล่านี้ครอบคลุมจากประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ยูโรโซน ญี่ปุ่น แคนาดา ออสเตรเลีย และอื่นๆ การติดตามปฏิทินนี้ช่วยให้เทรดเดอร์เตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงราคาคู่เงินที่อาจเกิดจากข้อมูลประกาศได้อย่างดี
ดัชนีเศรษฐกิจในปฏิทินจะแสดงตัวชี้วัดสุขภาพเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ เช่น อัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตของ GDP การเปลี่ยนแปลงของดัชนีเหล่านี้เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์และข้อมูลครั้งก่อน มักส่งผลกระทบใหญ่ต่อสกุลเงินของประเทศนั้น และเป็นแรงผลักดันหลักให้เกิดความผันผวนในตลาด

วิธีอ่านปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory และ Investing.com
Forex Factory และ Investing.com เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่เทรดเดอร์ทั่วโลกใช้ติดตามปฏิทินเศรษฐกิจ ทั้งสองแห่งให้ข้อมูลคล้ายกัน แต่รูปแบบการแสดงและการตั้งค่าต่างกันเล็กน้อย นี่คือวิธีอ่านข้อมูลหลักๆ
1. วันและเวลา: แสดงวันและเวลาที่ข่าวเศรษฐกิจจะประกาศ คุณสามารถปรับให้แสดงตามเวลาท้องถิ่นของคุณได้
2. สกุลเงิน: ระบุสกุลเงินของประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น USD สำหรับดอลลาร์สหรัฐ EUR สำหรับยูโร JPY สำหรับเยนญี่ปุ่น
3. ระดับความสำคัญ: ใช้สีหรือสัญลักษณ์บอกผลกระทบต่อตลาด เช่น ต่ำ ปานกลาง สูง ข่าวระดับสูงมักทำให้เกิดความผันผวนรุนแรง
4. เหตุการณ์: ชื่อดัชนีเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ เช่น Non-Farm Payrolls CPI อัตราดอกเบี้ย
5. Actual: ค่าจริงที่ประกาศออกมา
6. Forecast: ค่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้า
7. Previous: ค่าจริงจากครั้งประกาศล่าสุด
การเปรียบเทียบ Actual กับ Forecast สำคัญมาก ถ้าค่าจริงดีกว่าคาด สกุลเงินของประเทศนั้นมักแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้ามถ้าแย่กว่า
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและตัวอย่างการใช้งาน ลองดูที่ Forex Factory ปฏิทินเศรษฐกิจ และ Investing.com ปฏิทินเศรษฐกิจ
ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องจับตา
มีดัชนีเศรษฐกิจหลายตัวที่เทรดเดอร์ควรใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะกระทบตลาด Forex อย่างมาก
* NFP (Non-Farm Payrolls): รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ประกาศทุกวันศุกร์แรกของเดือน สะท้อนสุขภาพตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ กระทบ USD สูงมาก
* CPI (Consumer Price Index): ดัชนีราคาผู้บริโภค ชี้วัดเงินเฟ้อหลัก เปลี่ยนแปลงกระทบการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
* อัตราดอกเบี้ย: การตัดสินใจของธนาคารกลางเรื่องอัตราดอกเบี้ย เป็นเหตุการณ์สำคัญที่กระทบมูลค่าสกุลเงินโดยตรง
* GDP (Gross Domestic Product): ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ แสดงมูลค่ารวมสินค้าและบริการ ชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ
* PMI (Purchasing Managers’ Index): ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ครอบคลุมภาคการผลิตและบริการ สะท้อนภาวะเศรษฐกิจและการขยายตัวธุรกิจ
* คำแถลงของธนาคารกลางและการประชุม: การสื่อสารจากผู้ว่าการหรือคณะกรรมการนโยบายการเงิน ให้สัญญาณทิศทางนโยบายในอนาคต
เปรียบเทียบปฏิทินเศรษฐกิจ: Forex Factory vs. Investing.com
การเลือกใช้ Forex Factory หรือ Investing.com ขึ้นกับความชอบและสไตล์เทรดของคุณ
| คุณสมบัติ | Forex Factory | Investing.com |
| :—————- | :———————————————————————————————————– | :——————————————————————————————————– |
| **ความเร็ว/ความแม่นยำ** | รวดเร็วและแม่นยำสูง ได้รับการยอมรับจากเทรดเดอร์มืออาชีพ | รวดเร็วและแม่นยำเช่นกัน น่าเชื่อถือสูง |
| **อินเทอร์เฟซ** | ข้อมูลกระชับชัดเจน ใช้สีบ่งบอกระดับความสำคัญ ใช้งานง่ายสำหรับคนที่ชินแล้ว | มีกราฟและข้อมูลประกอบละเอียด ข่าวและบทวิเคราะห์รวมกัน เหมาะกับคนต้องการข้อมูลลึก |
| **ฟังก์ชันการกรอง** | กรองสกุลเงิน ระดับความสำคัญ ประเภทเหตุการณ์ได้ละเอียด | กรองหลากหลาย สามารถบันทึกการตั้งค่าได้ |
| **เวลาท้องถิ่น** | ตั้งค่าได้ง่าย แสดง GMT หรือเวลาท้องถิ่น | ตั้งค่าเวลาท้องถิ่นง่าย ปรับตามเขตเวลาที่ต้องการได้ |
| **การแจ้งเตือน** | มีระบบแจ้งเตือนผ่านเบราว์เซอร์หรืออีเมล | แจ้งเตือนหลากหลาย รวมแอปมือถือ |
| **ภาษา** | รองรับหลายภาษา เน้นอังกฤษ | รองรับหลายภาษา รวมไทย มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ไทย |
| **ข้อสังเกตเพิ่มเติม** | มีฟอรัมคึกคักและแหล่งข้อมูลอื่นๆ สำหรับศึกษา | มีเครื่องมืออื่นๆ เช่น กราฟสด อัตราแลกเปลี่ยน บทวิเคราะห์จากหลายสำนัก |
นอกจากสองแพลตฟอร์มนี้ โบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่ยังมีปฏิทินเศรษฐกิจในตัว เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มเทรดเพื่อความสะดวก
ส่วนที่ 2: “ตารางเวลา Forex” – รอบตลาดและเวลาเทรดที่เหมาะสม
ทำความเข้าใจรอบตลาด Forex ทั่วโลก
ตลาด Forex เป็นตลาดกระจายศูนย์ เปิด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาจะคึกคักเท่ากัน การรู้จักรอบตลาดหลักทั่วโลกช่วยวางแผนเทรดได้ดี รอบตลาดหลักมีสี่ช่วง
1. รอบตลาดซิดนีย์: ตลาดแรกที่เปิดในสัปดาห์และวัน
* เวลาเปิด-ปิด (GMT): 22:00 – 07:00
* เวลาไทย: 05:00 – 14:00 น.
2. รอบตลาดโตเกียว (หรือเอเชีย): ตลาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย
* เวลาเปิด-ปิด (GMT): 00:00 – 09:00
* เวลาไทย: 07:00 – 16:00 น.
3. รอบตลาดลอนดอน (หรือยุโรป): มีสภาพคล่องและความผันผวนสูงสุด
* เวลาเปิด-ปิด (GMT): 07:00 – 16:00
* เวลาไทย: 14:00 – 23:00 น.
4. รอบตลาดนิวยอร์ก (หรืออเมริกาเหนือ): สำคัญและสภาพคล่องสูงรองจากลอนดอน
* เวลาเปิด-ปิด (GMT): 12:00 – 21:00
* เวลาไทย: 19:00 – 04:00 น. (วันถัดไป)
ข้อมูลเวลาเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่เทรดเดอร์ควรมี เพื่อปรับแผนเทรดให้เข้ากับเวลาไทยและความผันผวนที่ต้องการ

ช่วงเวลาคาบเกี่ยว (Overlap Sessions) และโอกาสในการเทรด
ช่วงเวลาคาบเกี่ยวคือเวลาที่สองตลาดหลักเปิดพร้อมกัน ทำให้สภาพคล่องและความผันผวนสูงขึ้นจากจำนวนเทรดเดอร์และปริมาณซื้อขายที่เพิ่ม ราคาคู่เงินจึงเคลื่อนไหวชัดเจนและรวดเร็ว ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบความผันผวน
ช่วงคาบเกี่ยวสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ ได้แก่
* โตเกียว-ลอนดอน:
* เวลา (GMT): 07:00 – 09:00
* เวลาไทย: 14:00 – 16:00 น.
* ตลาดเอเชียปิดและยุโรปเปิด สภาพคล่องเพิ่มแต่ความผันผวนอาจไม่สูงเท่าช่วงอื่น
* ลอนดอน-นิวยอร์ก:
* เวลา (GMT): 12:00 – 16:00
* เวลาไทย: 19:00 – 23:00 น.
* ช่วงสำคัญที่สุด สภาพคล่องสูงสุด ปริมาณซื้อขายมหาศาล มักเกิดการเคลื่อนไหวรุนแรงและแนวโน้มชัดเจน เทรดเดอร์หลายคนเลือกช่วงนี้
การศึกษาจาก Babypips เกี่ยวกับเวลาตลาด Forex จะช่วยให้เห็นภาพรวมและประโยชน์ของแต่ละช่วงชัดเจนยิ่งขึ้น
เวลาที่ดีที่สุดในการเทรด Forex สำหรับเทรดเดอร์ไทย
สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่ปรับตามเวลาไทย ช่วงที่ดีที่สุดมักตรงกับคาบเกี่ยวลอนดอน-นิวยอร์ก ซึ่งเป็นหัวค่ำในไทย
* 19:00 น. ถึง 23:00 น. (เวลาไทย): คาบเกี่ยวลอนดอน-นิวยอร์ก สภาพคล่องและความผันผวนสูง เหมาะจับโอกาสจากราคาที่เคลื่อนไหวรุนแรงและแนวโน้มชัด คู่เงินยอดนิยม เช่น EUR/USD GBP/USD USD/JPY
* 14:00 น. ถึง 16:00 น. (เวลาไทย): คาบเกี่ยวโตเกียว-ลอนดอน ความผันผวนน้อยกว่าแต่ตลาดเริ่มคึกคัก เหมาะเริ่มวันเทรดและจับสัญญาณแรก
คำแนะนำเพิ่มสำหรับเทรดเดอร์ไทย
* พิจารณาตารางเวลาส่วนตัว: เลือกช่วงที่เข้ากับกิจวัตร เพื่อจดจ่อเต็มที่
* วันหยุดราชการไทย: แม้ตลาดเปิด แต่ถ้าเป็นวันหยุดสำคัญ คู่เงินเกี่ยว THB อาจสภาพคล่องต่ำ หรือกระทบจิตวิทยาเทรด
* ระวังช่วงข่าว: ไม่ว่าจะเวลาไหน ถ้ามีข่าวระดับสูง ต้องระมัดระวังพิเศษ
ส่วนที่ 3: การประยุกต์ใช้ตาราง Forex ในกลยุทธ์การเทรด
กลยุทธ์การเทรดตามข่าว (News Trading Strategy)
กลยุทธ์เทรดตามข่าวคือการวางแผนซื้อขายโดยใช้ข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์สำคัญจากปฏิทินเศรษฐกิจ หลักการคือ ข่าวระดับสูงที่ประกาศมักทำให้ราคาคู่เงินผันผวนรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับเทรดเดอร์ที่เข้า-ออกตลาดได้ฉับไว
ขั้นตอนพื้นฐานของกลยุทธ์นี้
1. ระบุข่าวสำคัญ: ตรวจปฏิทินเพื่อหาข่าวระดับสูง เช่น NFP CPI การประกาศอัตราดอกเบี้ย
2. วิเคราะห์การคาดการณ์: เข้าใจ Forecast และ Previous เพื่อประเมินโอกาสที่ Actual จะดีหรือแย่กว่าคาด
3. เตรียมพร้อม: ก่อนประกาศ จัดแพลตฟอร์มเทรดและเลือกคู่เงินที่กระทบตรง
4. ตัดสินใจ: หลังประกาศ เปรียบเทียบ Actual กับ Forecast และ Previous แล้วเข้า-ออกตลาดรวดเร็ว
ความเร็วในการตัดสินใจและวิเคราะห์ที่แม่นยำเป็นกุญแจสำคัญในกลยุทธ์นี้ โดยเฉพาะในการจับทิศทางตลาด
การจัดการความเสี่ยงในการเทรดตามข่าว
เทรดตามข่าวมีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนรุนแรง ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงจึงจำเป็นเพื่อปกป้องทุน นี่คือเทคนิคแนะนำ
* กำหนด Stop Loss และ Take Profit เสมอ: Stop Loss จำกัดขาดทุนถ้าตลาดสวนทาง Take Profit ล็อกกำไรเมื่อถึงเป้า
* ใช้ Lot Size เล็ก: ลดขนาดสัญญาในช่วงข่าวเพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนใหญ่
* หลีกเลี่ยงเทรดก่อนข่าว: ตลาดอาจผันผวนก่อนประกาศจริง ซึ่งเดาทิศทางยาก
* รอตลาดสงบ: ถ้าไม่มั่นใจ รอความผันผวนลดและทิศทางชัดก่อนเข้า
* ฝึกในบัญชีทดลอง: ลองกลยุทธ์นี้ใน Demo ก่อนใช้จริง เพื่อชินกับความเร็วและผันผวน
* ระวัง Slippage: ช่วงข่าวสำคัญ ราคาเคลื่อนไว คำสั่งอาจดำเนินที่ราคาต่างจากตั้งไว้
สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่มัก overtrade หรือ revenge trade เมื่อขาดทุน ต้องมีวินัยและยึดแผนจัดการความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
การผสานตาราง Forex กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
การนำตาราง Forex มาผสมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะเสริมกลยุทธ์เทรดให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
1. ระวังข่าวสำคัญ: ถ้าราคาใกล้แนวรับหรือแนวต้านสำคัญแต่มีข่าวระดับสูงประกาศ ต้องระวังเพราะข่าวอาจทะลุแนวเหล่านั้นหรือเกิด false breakout ได้ง่าย
2. ใช้ช่วงคาบเกี่ยวยืนยัน: ในช่วงสภาพคล่องสูง ถ้าการวิเคราะห์เทคนิคบอกทะลุแนว การเคลื่อนไหวตอนนั้นอาจยืนยันสัญญาณได้ดี
3. วางแผนล่วงหน้า: ใช้ปฏิทินหาวันและเวลาข่าวสำคัญ แล้วใช้วิเคราะห์เทคนิคหาสัญญาเข้า-ออก ปรับจัดการความเสี่ยงให้เหมาะ
4. สังเกต Price Action หลังข่าว: หลังข่าวออก ดูว่าราคาตอบสนองแนวรับ/ต้านอย่างไร ถ้าทะลุแนวสำคัญ อาจเป็นแนวโน้มใหม่
5. หลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก: ช่วงผันผวนสูงจากข่าว ตัวชี้วัดเทคนิคบางตัวอาจหลอก ควรใช้หลายตัวประกอบกันและระวัง
การรวมปัจจัยพื้นฐานจากข่าวกับเทคนิคจากกราฟ ทำให้มุมมองครอบคลุม เพิ่มโอกาสกำไรและลดความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อคุณเข้าใจว่าข่าวสามารถเปลี่ยนทิศทางตลาดได้อย่างไรในบริบทของกราฟ
สรุป: ใช้ตาราง Forex อย่างชาญฉลาด เพื่อโอกาสทำกำไรที่ยั่งยืน
ตาราง Forex เป็นเครื่องมือขาดไม่ได้สำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ ไม่ว่าจะมือใหม่หรือโปร การเข้าใจปฏิทินเศรษฐกิจช่วยคาดเดาผันผวนจากข่าวสำคัญ ขณะที่การรู้เวลาเทรดและรอบตลาดช่วยเลือกช่วงเหมาะสม โดยเฉพาะเทรดเดอร์ไทยที่ต้องคำนึงถึงเวลาไทยในการวางแผน
การนำตารางนี้ไปใช้ในกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเทรดตามข่าวหรือผสมวิเคราะห์เทคนิค ล้วนต้องอาศัยความรู้ วินัย และการจัดการความเสี่ยงที่ดี การใช้อย่างชาญฉลาดจะช่วยเพิ่มโอกาสกำไรและนำไปสู่ความสำเร็จยั่งยืนในตลาด Forex สำหรับเทรดเดอร์ไทย การปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ท้องถิ่นยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตาราง Forex
ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex Factory ใช้ยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับเทรดเดอร์ไทย?
สำหรับเทรดเดอร์ไทย ควรเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าเขตเวลา (Time Zone) ใน Forex Factory ให้เป็นเวลาไทย (Bangkok, GMT+7) จากนั้นให้กรองเฉพาะคู่เงินที่คุณสนใจ และให้ความสำคัญกับข่าวที่มีสัญลักษณ์สีแดง (High Impact) เป็นหลัก โดยเฉพาะข่าวที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินหลัก เช่น USD, EUR, JPY การเปรียบเทียบค่า Actual กับ Forecast อย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเทรด
เวลา Forex เปิด-ปิด ตามเวลาไทยเป็นอย่างไร และช่วงไหนควรเทรด?
ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ช่วงเวลาสำคัญตามเวลาไทยคือ:
- **ตลาดซิดนีย์:** 05:00 – 14:00 น.
- **ตลาดโตเกียว:** 07:00 – 16:00 น.
- **ตลาดลอนดอน:** 14:00 – 23:00 น.
- **ตลาดนิวยอร์ก:** 19:00 – 04:00 น. (ของวันถัดไป)
ช่วงที่ควรเทรดมากที่สุดคือช่วงคาบเกี่ยวของตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ซึ่งตรงกับ 19:00 – 23:00 น. ของเวลาไทย เนื่องจากมีสภาพคล่องและความผันผวนสูง
ข่าว NFP หรืออัตราดอกเบี้ย มีผลกระทบต่อคู่เงินที่เทรดอย่างไรบ้าง?
ข่าว NFP (Non-Farm Payrolls) หรือการประกาศอัตราดอกเบี้ย ล้วนเป็นข่าวที่มีผลกระทบสูงมากต่อคู่เงินที่เกี่ยวข้อง
- **NFP (สหรัฐฯ):** หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาดการณ์ มักจะทำให้ USD แข็งค่าขึ้น (เช่น EUR/USD มีแนวโน้มลง, USD/JPY มีแนวโน้มขึ้น) และในทางกลับกัน
- **อัตราดอกเบี้ย:** หากธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มักจะทำให้สกุลเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนจากการฝากเงินสูงขึ้น ดึงดูดเงินลงทุนเข้ามา
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาอาจซับซ้อนกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ของตลาดและปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย
การเทรดตามข่าวมีความเสี่ยงอะไรบ้าง และมีวิธีจัดการอย่างไร?
การเทรดตามข่าวมีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนที่รุนแรงและรวดเร็ว รวมถึงโอกาสเกิด Slippage (ราคาที่เปิด/ปิดไม่ตรงกับที่ตั้งไว้) วิธีจัดการความเสี่ยง ได้แก่:
- กำหนด Stop Loss และ Take Profit เสมอ
- ใช้ Lot Size ที่เล็กลงกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการเข้าเทรดก่อนข่าวประกาศ
- รอให้ตลาดสงบลงและทิศทางชัดเจนก่อนเข้าเทรด
- ฝึกฝนในบัญชีทดลองก่อนใช้ในบัญชีจริง
นอกเหนือจาก Forex Factory แล้ว มีปฏิทินเศรษฐกิจตัวอื่นที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ไทยไหม?
แน่นอน นอกจาก Forex Factory แล้ว Investing.com เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากและรองรับภาษาไทย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ไทย นอกจากนี้ โบรกเกอร์ Forex หลายรายยังมีปฏิทินเศรษฐกิจของตัวเองให้บริการ ซึ่งมักจะผสานรวมเข้ากับแพลตฟอร์มการเทรดโดยตรง ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน
จะตั้งค่าการแจ้งเตือนข่าวสารสำคัญจากตาราง Forex ได้อย่างไร?
ทั้ง Forex Factory และ Investing.com มีฟังก์ชันการแจ้งเตือนข่าวสารสำคัญ คุณสามารถเข้าไปที่หน้าปฏิทินเศรษฐกิจและคลิกที่ไอคอนรูประฆังหรือการตั้งค่าการแจ้งเตือน โดยเลือกสกุลเงินที่ต้องการ ระดับความสำคัญของข่าว (เช่น High Impact) และวิธีการแจ้งเตือน (เช่น อีเมล, การแจ้งเตือนบนเบราว์เซอร์, หรือผ่านแอปพลิเคชันมือถือ) เพื่อให้คุณไม่พลาดข่าวสำคัญ
มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการใช้ตาราง Forex เพื่อวางแผนการเทรด?
ข้อควรระวังหลักๆ ได้แก่:
- **Slippage:** ในช่วงข่าวแรง ราคาอาจเคลื่อนที่เร็วมากจนคำสั่งไม่ถูกจับคู่ตามราคาที่ตั้งไว้
- **ความผิดพลาดของข่าว:** บางครั้งข่าวอาจถูกแก้ไขหรือตีความผิดพลาดได้
- **Over-leveraging:** การใช้เลเวอเรจสูงเกินไปในช่วงข่าวสามารถนำไปสู่การขาดทุนจำนวนมาก
- **ปัจจัยอื่นๆ:** อย่าพึ่งพาแค่ข่าวอย่างเดียว ควรพิจารณาการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย
- **ความคาดหวังของตลาด:** บางครั้งตลาดอาจตอบสนองต่อ “การคาดการณ์” มากกว่าค่า “Actual” หากค่าจริงออกมาตามคาดการณ์อยู่แล้ว
หากมีข่าวเศรษฐกิจสำคัญในประเทศไทย จะส่งผลต่อตลาด Forex อย่างไรบ้าง?
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญในประเทศไทย เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือข้อมูล GDP ของไทย อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อคู่เงินที่มีสกุลเงินบาท (THB) เช่น USD/THB หรือ EUR/THB สำหรับคู่เงินหลักอื่นๆ ข่าวไทยมักจะมีผลกระทบทางอ้อมหรือจำกัด แต่ก็อาจส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนในภูมิภาคได้บ้าง อย่างไรก็ตาม สำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดคู่เงินหลัก ข่าวไทยมักไม่มีผลกระทบที่รุนแรงเท่าข่าวจากเศรษฐกิจหลักของโลก
กราฟ Forex กับตาราง Forex แตกต่างกันอย่างไร และควรใช้คู่กันหรือไม่?
กราฟ Forex แสดงการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตและปัจจุบัน ช่วยในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหารูปแบบและสัญญาณการซื้อขาย ส่วนตาราง Forex (ปฏิทินเศรษฐกิจ) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตที่อาจส่งผลต่อราคา ทั้งสองเป็นเครื่องมือที่แตกต่างกันแต่เสริมซึ่งกันและกันอย่างมาก การใช้ทั้งกราฟและการวิเคราะห์ทางเทคนิคควบคู่ไปกับตาราง Forex (การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน) จะช่วยให้คุณมีมุมมองที่สมบูรณ์และตัดสินใจเทรดได้อย่างรอบคอบมากขึ้น
มือใหม่ควรเริ่มต้นใช้ตาราง Forex ในการเทรดอย่างไร?
สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานของปฏิทินเศรษฐกิจ โดยเน้นไปที่ข่าวที่มีระดับความสำคัญสูง (สีแดง) และติดตามคู่เงินหลักที่นิยมเทรด เช่น EUR/USD, GBP/USD ควรเริ่มต้นด้วยการสังเกตว่าเมื่อข่าวออกแล้ว ราคาเคลื่อนไหวอย่างไร โดยไม่จำเป็นต้องรีบเข้าเทรดจริง อาจลองใช้บัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนการอ่านและตอบสนองต่อข่าวสารก่อน รวมถึงทำความเข้าใจว่าแต่ละดัชนีเศรษฐกิจมีความหมายอย่างไร