66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

Hedging Forex คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเทรดไทย ปกป้องเงินทุน ทำกำไรในตลาดผันผวน

Home / ห้องเรียนฟอเร็กซ์ / Hed...

meetcinco_com | 10 11 月

Hedging Forex คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเทรดไทย ปกป้องเงินทุน ทำกำไรในตลาดผันผวน

## Hedging Forex คืออะไร? ทำไมต้องสนใจ?

ในการเทรด Forex ที่ตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การรู้จักจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดชาวไทยที่อยากรักษาเงินทุนไว้ให้ปลอดภัยและยังคงโอกาสทำกำไรต่อไป กลยุทธ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมและช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนคือการเฮดจิ้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Hedging Forex ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้เทรดรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือมีประสบการณ์มานานแล้ว การเข้าใจเทคนิคนี้จะช่วยให้คุณรับมือกับความเสี่ยงได้ดีขึ้น และอาจกลายเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในวงการนี้

Thai trader calmly in volatile forex market a shield represents hedging protecting capital illustration

Hedging Forex ไม่ได้แค่ป้องกันความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างสมดุลระหว่างการรักษาเงินทุนกับการเปิดรับโอกาสทำกำไร ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจรายละเอียดทุกด้านของกลยุทธ์นี้ ตั้งแต่ความหมายพื้นฐาน วิธีการทำงาน ประเภทต่างๆ ข้อดีข้อเสีย และเคล็ดลับการนำไปใช้จริง โดยจะเน้นมุมมองที่เกี่ยวข้องกับนักเทรดในไทย เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับพอร์ตของคุณได้อย่างมั่นใจ

Balanced scale with money bags and a protective shield representing hedging forex illustration style

## Hedging Forex คืออะไร? นิยามและหลักการทำงานพื้นฐาน

### ความหมายของ Hedging ในบริบท Forex

ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex การเฮดจิ้งคือวิธีการบริหารความเสี่ยงที่ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาที่คาดเดาไม่ได้ โดยหลักการคือการเปิดออเดอร์ซื้อขายสองทางหรือมากกว่าในทิศทางตรงข้ามกัน เพื่อให้ส่วนหนึ่งชดเชยความสูญเสียจากอีกส่วน

ลองนึกถึงสถานการณ์ที่คุณถือพอร์ตซื้อคู่เงิน EUR/USD อยู่ แล้วเริ่มสงสัยว่าราคาอาจร่วงลงในช่วงสั้นๆ การเฮดจิ้งจะช่วยให้คุณเปิดพอร์ตขายในคู่เงินเดียวกัน เพื่อยึดมูลค่าของพอร์ตเดิมไว้ ไม่ว่าราคาจะไปทางไหน พอร์ตของคุณก็จะไม่เสียหายหนัก ซึ่งนี่ช่วยให้คุณมีเวลาวิเคราะห์ตลาดเพิ่มเติมและวางแผนต่อไปอย่างไม่เร่งรีบ

Opposite arrows on a forex chart representing buy and sell positions balancing for hedging illustration

### กลไกการทำงานของ Hedging: ตัวอย่างง่ายๆ

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูตัวอย่างพื้นฐานกัน สมมติคุณเปิดพอร์ตซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.1000 ขนาด 1 ล็อต โดยคาดว่าราคาจะขึ้น แต่ตลาดเริ่มมีสัญญาณร่วง คุณเลยเลือกเฮดจิ้งด้วยการเปิดพอร์ตขาย EUR/USD ที่ราคา 1.0980 ขนาด 1 ล็อตเช่นกัน

– ถ้าราคาร่วงต่อ พอร์ตซื้อเดิมจะขาดทุน แต่พอร์ตขายจะกำไร ชดเชยกันทำให้ยอดรวมไม่เพิ่มขาดทุน
– ถ้าราคากลับขึ้น พอร์ตซื้อจะฟื้นตัวหรือกำไร ในขณะที่พอร์ตขายขาดทุน

ไม่ว่าจะเกิดอะไร การเฮดจิ้งช่วยจำกัดความเสี่ยงจากพอร์ตแรกไว้ที่จุดที่คุณตัดสินใจ ซึ่งให้เวลาคุณตัดสินใจว่าจะปิดพอร์ตไหน หรือรอตลาดปรับตัว โดยไม่ต้องกลัวว่าความสูญเสียจะลุกลาม นี่คือการจัดการพอร์ตที่ชาญฉลาด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมความเสี่ยงโดยรวมของการเทรด Forex

## ทำไมต้องใช้ Hedging ในการเทรด Forex? ข้อดีและข้อเสีย

การเลือกใช้เฮดจิ้งขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรด ระดับความอดทนต่อความเสี่ยง และความรู้เกี่ยวกับตลาด การชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้อง

### ประโยชน์ของการทำ Hedging (ข้อดี)

1. ลดและควบคุมความเสี่ยงได้ดี เมื่อตลาดสวนทางกับพอร์ตหลัก การเปิดพอร์ตเฮดจิ้งจะหยุดยั้งความสูญเสียไม่ให้เพิ่มขึ้น ช่วยให้คุณจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. สร้างความมั่นใจทางใจ การรู้ว่าพอร์ตได้รับการคุ้มครองจากความผันผวนรุนแรง ช่วยลดความกดดัน ทำให้คุณตัดสินใจโดยใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
3. ให้เวลาวิเคราะห์เพิ่มเติม เมื่อพอร์ตถูกเฮดจิ้งแล้ว คุณสามารถศึกษาตลาดอย่างละเอียด โดยไม่ต้องรีบปิดพอร์ตด้วยความกลัว ซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดพลาด
4. คุ้มครองกำไรหรือจำกัดความสูญเสีย ถ้ามีกำไรลอยตัวแต่กลัวราคาย่อ คุณสามารถล็อกกำไรบางส่วนไว้โดยไม่ปิดทั้งหมด และยังรอโอกาสให้พอร์ตหลักฟื้นตัวได้
5. เพิ่มความยืดหยุ่นในการเทรด โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวนหรือช่วงข่าวสำคัญที่อาจทำให้ราคาแกว่งตัวหนัก

### ข้อจำกัดและความเสี่ยงที่ควรระวัง (ข้อเสีย)

1. ต้นทุนการเทรดเพิ่มขึ้น การเปิดสองทางหมายถึงสเปรดและค่าธรรมเนียมสองเท่า ถ้าถือข้ามคืน ค่า Swap สำหรับทั้งสองพอร์ตอาจทำให้ค่าใช้จ่ายพอกพูน
2. ใช้มาร์จิ้นมากขึ้น บางโบรกเกอร์นับพอร์ตเฮดจิ้งแยก ทำให้มาร์จิ้นที่เหลือสำหรับพอร์ตอื่นลดลง และจำกัดขนาดการเทรด
3. อาจพลาดกำไร ถ้าตลาดกลับตัวเร็วตามที่คาด พอร์ตเฮดจิ้งอาจทำให้คุณเสียโอกาสกำไรจากพอร์ตหลัก
4. จัดการยาก โดยเฉพาะมือใหม่ การตัดสินใจปิดพอร์ตไหนก่อนหรือปรับพอร์ตเฮดจิ้งต้องอาศัยประสบการณ์
5. อาจกระทบจิตใจ ถ้าจัดการไม่ดี การมีทั้งกำไรและขาดทุนพร้อมกันอาจทำให้ลังเลและตัดสินใจผิด

ดังนั้น การเฮดจิ้งต้องวางแผนดีและเข้าใจกลไกให้ลึก เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดโดยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด

## ประเภทของ Hedging Strategy ในตลาด Forex

กลยุทธ์เฮดจิ้งใน Forex มีหลากหลายรูปแบบ แต่ละแบบเหมาะกับสถานการณ์ต่างกัน การรู้จักแต่ละประเภทจะช่วยให้คุณเลือกใช้นได้ตรงจุด

### 1. Direct Hedging (การเฮดจิ้งโดยตรง)

การเฮดจิ้งโดยตรงคือวิธีที่เรียบง่ายและใช้บ่อยที่สุด โดยเปิดพอร์ตซื้อและขายในคู่เงินเดียวกัน ขนาดล็อตเท่าหรือใกล้เคียงกัน เช่น ถ้าซื้อ EUR/USD 1 ล็อต ก็ขาย EUR/USD 1 ล็อตทันทีหรือเมื่อราคาสวนทาง

– หลักการ: ล็อกราคาคู่เงินนั้นไว้ กำไรขาดทุนจากทั้งสองจะหักล้างกัน ไม่ว่าราคาจะไปทางไหน
– ข้อดี: ง่ายต่อการทำ เหมาะสำหรับหยุดขาดทุนชั่วคราวและให้เวลาวิเคราะห์
– ข้อเสีย: สเปรดและ Swap สองเท่า มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

### 2. Correlation Hedging (การเฮดจิ้งด้วยคู่เงินที่มีความสัมพันธ์กัน)

การเฮดจิ้งด้วยความสัมพันธ์คือการใช้คู่เงินที่เกี่ยวข้องกันแทนคู่เดิม เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเปิดพอร์ตในคู่เงินที่มีความสัมพันธ์สูงทั้งบวกหรือลบ

– หลักการ: ถ้าคู่เงินสองคู่เคลื่อนไหวไปด้วยกัน เช่น EUR/USD กับ GBP/USD ถ้าพอร์ตซื้อ EUR/USD ขาดทุน คุณอาจขาย GBP/USD เพื่อชดเชย
– ตัวอย่าง: ความสัมพันธ์บวก เช่น EUR/USD กับ GBP/USD, AUD/USD กับ NZD/USD; ความสัมพันธ์ลบ เช่น EUR/USD กับ USD/CHF, GBP/USD กับ USD/JPY
– ข้อดี: กระจายเสี่ยงดีกว่า ลด Swap ได้ถ้าเลือกคู่เหมาะสม
– ข้อเสีย: ต้องรู้ความสัมพันธ์ลึก และมันอาจเปลี่ยนแปลงได้

### 3. Option Hedging (การเฮดจิ้งด้วย Options) – 簡要提及

การเฮดจิ้งด้วยออปชั่นเป็นวิธีซับซ้อนที่นักลงทุนใหญ่หรือเทรดเดอร์เก่งๆ ชอบใช้ โดยซื้อสัญญาออปชั่นเพื่อปกป้องจากความผันผวนใน Forex

– หลักการ: ซื้อ Call Option สำหรับพอร์ตขาย หรือ Put Option สำหรับพอร์ตซื้อ
– ข้อดี: ยืดหยุ่น จำกัดเสี่ยงชัดเจน ค่าใช้จ่ายคงที่คือพรีเมี่ยม
– ข้อเสีย: ซับซ้อน ต้องมีความรู้เฉพาะ และสภาพคล่องอาจต่ำกว่าตลาดสปอต

### Full Hedging vs Partial Hedging: เมื่อใดควรใช้แบบไหน?

นอกจากประเภทหลัก การเฮดจิ้งยังแบ่งตามระดับการป้องกันได้

– Full Hedging (เฮดจิ้งเต็มรูปแบบ):
– คือ: เปิดพอร์ตเฮดจิ้งขนาดเท่าพอร์ตหลัก เพื่อล็อกขาดทุนหรือกำไรทั้งหมด
– ใช้เมื่อ: ตลาดไม่แน่นอนสูง มีข่าวใหญ่ หรืออยากหยุดขาดทุนชั่วคราว
– ข้อดี: เสี่ยงต่ำสุด
– ข้อเสีย: หยุดกำไรเพิ่ม และมีต้นทุนสเปรด Swap

– Partial Hedging (เฮดจิ้งบางส่วน):
– คือ: เปิดพอร์ตเฮดจิ้งขนาดเล็กลง เช่น ซื้อ 1 ล็อต แต่ขาย 0.5 ล็อต
– ใช้เมื่อ: ยังเชื่อในทิศทางหลัก แต่กลัวย่อชั่วคราว
– ข้อดี: ยังมีโอกาสกำไรจากพอร์ตหลัก
– ข้อเสีย: เสี่ยงไม่หมดสิ้น

การเลือกระหว่างสองแบบนี้ขึ้นกับการวิเคราะห์ ความมั่นใจ และระดับเสี่ยงที่รับได้ Partial ให้ยืดหยุ่นกว่า แต่ Full ปลอดภัยกว่าแม้จะปิดโอกาสกำไรชั่วคราว

## วิธีการและขั้นตอนการทำ Hedging Forex อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

การเฮดจิ้งให้ได้ผลต้องวางแผนดี เลือกเครื่องมือเหมาะสม และจัดการอย่างละเอียด โดยเฉพาะนักเทรดไทยที่ต้องคำนึงถึงปัจจัยเฉพาะ

### การเลือกโบรกเกอร์ที่รองรับ Hedging ในไทย

ขั้นแรกสำหรับนักเทรดไทยคือหาโบรกเกอร์ที่อนุญาตเฮดจิ้ง เพราะบางแห่ง โดยเฉพาะที่อยู่ภายใต้กฎเข้มงวด อาจห้ามเปิดพอร์ตสวนทางในคู่เดียวกัน

– ตรวจนโยบาย: ก่อนสมัครหรือเทรดจริง ดูให้ชัดว่าอนุญาตเฮดจิ้งไหม
– แพลตฟอร์ม: ส่วนใหญ่ใช้ MT4 หรือ MT5 ซึ่งจัดการพอร์ตยืดหยุ่น
– การกำกับดูแล: เลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากไทยยังไม่กำกับ Forex โดยตรง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์การเงิน แต่ Forex ต้องพึ่งโบรกเกอร์ต่างชาติที่ปลอดภัย

### วางแผนกลยุทธ์ Hedging ที่เหมาะสม

การวางแผนคือกุญแจสำคัญของทุกกลยุทธ์ รวมถึงเฮดจิ้ง

1. วิเคราะห์ตลาดละเอียด: ใช้เทคนิคอลและฟันดาเมนทัลเพื่อคาดทิศทางราคา
2. กำหนดจุดเข้า-ออก: ตัดสินใจเฮดจิ้งเมื่อไหร่ และปิดเมื่อไหร่ เพื่อหลีกเลี่ยงอารมณ์
3. ประเมินเสี่ยง-ผลตอบแทน: คำนวณสเปรด Swap เทียบกับเสี่ยงที่ป้องกัน เพื่อให้คุ้มค่า
4. ขนาดพอร์ต: เลือก Full หรือ Partial ตามความมั่นใจและเสี่ยงที่รับได้

### การเปิดและปิดคำสั่ง Hedging

การปฏิบัติจริงบนแพลตฟอร์มไม่ยาก แต่ต้องรอบคอบ

1. เปิดพอร์ตหลัก: เริ่มด้วยซื้อหรือขายตามปกติ
2. ติดตามตลาด: สังเกตราคาและข่าวที่เกี่ยวข้อง
3. เริ่มเฮดจิ้ง: เมื่อเห็นสัญญาณสวนทางหรืออยากล็อกกำไร/ขาดทุน เปิดพอร์ตตรงข้ามในคู่เดียวกันหรือคู่เกี่ยวข้อง
4. ตั้ง Take Profit/Stop Loss: แม้เฮดจิ้งแล้ว ก็ตั้ง SL สำหรับพอร์ตเฮดจิ้งเพื่อจำกัดเสี่ยงหรือล็อกกำไร
5. จัดการและยกเลิก: เมื่อตลาดชัดเจน ปิดพอร์ตเฮดจิ้งก่อนหรือทั้งหมดตามแผน การจับจังหวะยกเลิกสำคัญมาก เพื่อไม่เสียโอกาสหรือขาดทุนเพิ่ม

## ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการทำ Hedging และวิธีแก้ไข

เฮดจิ้งมีประโยชน์แต่ก็มีกับดักที่เทรดเดอร์ชอบพลาด ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์แย่ลง การรู้จักปัญหาเหล่านี้ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงได้

1. ละเลยต้นทุน:
– ปัญหา: มองข้ามสเปรดและ Swap สองเท่า ทำให้ต้นทุนกัดกินกำไรหรือเพิ่มขาดทุน
– แก้ไข: คำนวณล่วงหน้า เลือกโบรกเกอร์สเปรดต่ำ Swap ดี หรือเฮดจิ้งสั้นๆ เพื่อลดค่า

2. ตัดสินใจช้า:
– ปัญหา: รอขาดทุนหนักก่อนเฮดจิ้ง หรือยกเลิกช้า พลาดกำไร
– แก้ไข: วางแผนชัด กำหนดจุดและยึดวินัย

3. ไม่เข้าใจกลไก:
– ปัญหา: เปิดเฮดจิ้งโดยไม่รู้ว่าหักล้างกันยังไง หรือจัดการยกเลิกผิด
– แก้ไข: ศึกษาลึก ฝึกในเดโมก่อนใช้จริง

4. ใช้แทน Stop Loss:
– ปัญหา: คิดว่าเฮดจิ้งหยุดขาดทุนได้จริง แต่จริงๆ แค่ล็อกไว้และมีต้นทุน
– แก้ไข: ใช้เฮดจิ้งเสริม SL ไม่ใช่แทน Investopedia อธิบายกลยุทธ์เฮดจิ้งและต่างจากเครื่องมืออื่น

5. จัดการมาร์จิ้นผิด:
– ปัญหา: บางโบรกเกอร์หักมาร์จิ้นแยก ทำให้เสี่ยง Margin Call
– แก้ไข: ตรวจนโยบาย และปรับขนาดล็อตให้พอดีกับมาร์จิ้น

การเรียนรู้จากข้อผิดเหล่านี้จะทำให้เฮดจิ้งของคุณมีประสิทธิภาพ และเสริมการบริหารเสี่ยงโดยรวมให้แข็งแกร่งขึ้น

## Hedging Forex กับการบริหารความเสี่ยงโดยรวม

เฮดจิ้งเป็นแค่เครื่องมือหนึ่งในการจัดการเสี่ยง Forex การประสบความสำเร็จต้องรวมเข้ากับวิธีอื่นๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อให้พอร์ตมั่นคง

1. Hedging vs. Stop Loss:
– Stop Loss: คำสั่งปิดอัตโนมัติเมื่อราคาถึงจุด เพื่อหยุดขาดทุนสูงสุด ง่ายและหยุดจริง
– Hedging: ล็อกขาดทุนแต่พอร์ตยังเปิด มีต้นทุนและมาร์จิ้น
– ใช้ร่วม: ตั้ง SL บนพอร์ตเฮดจิ้งเพื่อล็อกกำไร หรือใช้เฮดจิ้งซื้อเวลาในการปรับ SL พอร์ตหลัก

2. Position Sizing (การจัดการขนาดของสถานะ):
– กำหนดขนาดล็อตให้เหมาะบัญชีและเสี่ยงที่รับได้ แม้ไม่เฮดจิ้ง ล็อตใหญ่เกินเสี่ยงหนัก
– กับเฮดจิ้ง: ขนาดพอร์ตเฮดจิ้งต้องสัมพันธ์กับหลักและเสี่ยงที่อยากลด

3. Diversification (การกระจายความเสี่ยง):
– ไม่ทุ่มคู่เงินเดียว กระจายไปสินทรัพย์อื่นเพื่อลดเสี่ยงรวม

4. Risk-Reward Ratio (อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน):
– คำนวณเสี่ยง-กำไรทุกเทรด เฮดจิ้งช่วยจัดการเสี่ยงแต่พิจารณาผลตอบแทนที่อาจลด

เมื่อไหร่ควรใช้เฮดจิ้ง?
– ตลาดผันผวนสั้นแต่เชื่อทิศยาว
– อยากเวลาวิเคราะห์โดยไม่ปิดหลัก
– ล็อกกำไรบางส่วน
– ข่าวใหญ่ที่เสี่ยงสูง

เฮดจิ้งมีประโยชน์แต่ต้องเป็นส่วนของแผนบริหารเสี่ยงครบวงจร ไม่ใช่ทางแก้ทุกอย่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) ให้ข้อมูลนโยบายเงินที่กระทบค่าเงิน ซึ่งช่วยวิเคราะห์ตลาดและเสี่ยง

## สรุป: Hedging Forex เหมาะกับคุณหรือไม่?

Hedging Forex เป็นกลยุทธ์บริหารเสี่ยงที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องทุน ลดความแกว่งของพอร์ต และให้เวลาตัดสินใจในตลาดที่รวดเร็ว โดยเฉพาะนักเทรดไทยที่เจอความท้าทายจากตลาดพลวัต การเข้าใจและใช้ถูกวิธีจะเพิ่มความมั่นใจและลดเสี่ยงได้มาก

แต่เฮดจิ้งไม่สมบูรณ์แบบ มีต้นทุนสูง มาร์จิ้นเพิ่ม และจัดการซับซ้อน ถ้าผิดพลาดอาจขาดทุนมากหรือพลาดกำไร

Hedging Forex เหมาะกับคุณไหม?
– เหมาะถ้า: มีประสบการณ์ รู้ตลาดดี วินัยสูง วิเคราะห์แม่น อยากยืดหยุ่นกว่า SL หรือปกป้องกำไรในตลาดไม่แน่นอน
– ยังไม่เหมาะถ้า: มือใหม่ ไม่เข้าใจลึก หรือไม่ชินจัดการซับซ้อน อาจสับสนและผิดพลาดง่าย

ก่อนใช้จริง ศึกษาลึก ฝึกเดโม เข้าใจข้อดีเสีย ต้นทุน ข้อจำกัด เพื่อนำไปใช้ให้เกิดผลดีและเป็นส่วนของแผนเทรดที่ชนะ

## คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Hedging Forex (FAQs)

1. Hedging Forex มีความแตกต่างจากการใช้ Stop Loss อย่างไร?

Stop Loss คือคำสั่งปิดพอร์ตอัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่ตั้ง เพื่อจำกัดขาดทุนสูงสุด พอร์ตจะปิดไปเลย

Hedging คือการเปิดพอร์ตตรงข้ามเพื่อล็อกขาดทุนชั่วคราว พอร์ตทั้งสองยังเปิดอยู่ ให้เวลาตัดสินใจแต่มีต้นทุนสเปรดและ Swap

2. โบรกเกอร์ Forex ในไทยรายใดบ้างที่รองรับการทำ Hedging?

ไทยยังไม่กำกับโบรกเกอร์ Forex โดยตรง นักเทรดไทยจึงใช้โบรกเกอร์ต่างประเทศ ต้องตรวจนโยบายแต่ละแห่งเพราะบางรายจำกัดเฮดจิ้งตามกฎประเทศที่จดทะเบียน

3. ควรใช้กลยุทธ์ Full Hedging หรือ Partial Hedging ในสถานการณ์ใด?

  • Full Hedging: ใช้ในตลาดผันผวนหนัก ข่าวใหญ่คาดเดายาก หรืออยากหยุดขาดทุนทั้งหมดเพื่อประเมินใหม่
  • Partial Hedging: ใช้เมื่อยังเชื่อทิศยาวแต่กลัวย่อสั้น ลดเสี่ยงบางส่วน

4. หาก Hedging ผิดพลาด ควรแก้ไขสถานการณ์อย่างไร?

ถ้าเฮดจิ้งผิด เช่น เปิดผิดทางหรือตลาดไม่เป็นดังคาด ประเมินใหม่ทันที

  • ปิดพอร์ตเฮดจิ้งที่ผิดเพื่อลดต้นทุน
  • ปรับ SL หรือ TP ของพอร์ตเหลือ
  • ถ้าสับสน ปิดทั้งหมดจำกัดขาดทุนและเริ่มใหม่

5. การทำ Hedging มีผลต่อบัญชี Margin อย่างไร?

โบรกเกอร์ที่อนุญาตมักหักมาร์จิ้นแยกสำหรับเฮดจิ้ง ทำให้ใช้มากขึ้น ลด Free Margin สำหรับพอร์ตอื่น แต่บางรายหักน้อยหรือไม่เพิ่ม ต้องถามโบรกเกอร์ตรงๆ

6. นักเทรดมือใหม่ควรเริ่มใช้ Hedging Forex เลยหรือไม่?

มือใหม่ควรเรียนพื้นฐานเทรด บริหารเสี่ยงด้วย SL และ Position Sizing ก่อน เพราะเฮดจิ้งซับซ้อนและต้นทุนสูง ฝึกเดโมให้ชำนาญก่อนใช้เงินจริง

7. นอกจากคู่เงินแล้ว สามารถ Hedging สินทรัพย์อื่นใน Forex ได้หรือไม่?

Hedging Forex มักหมายถึงคู่เงิน แต่หลักการใช้ได้กับสินทรัพย์อื่นบนแพลตฟอร์ม Forex เช่น Commodities หรือ Indices ผ่าน CFD โดยเปิดพอร์ตตรงข้ามในสินทรัพย์เดียวหรือที่เกี่ยวข้อง

8. Hedging Forex มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอะไรบ้าง?

ค่าใช้จ่ายหลักคือ:

  • สเปรด: จ่ายสองครั้งสำหรับซื้อและขาย
  • Swap/Rollover: ถือข้ามคืน จ่ายทั้งสองพอร์ต อาจลบทั้งคู่
  • Opportunity Cost: พลาดกำไรถ้าตลาดไปตามคาดเดิม

9. กองทุน Hedge กับ Hedging Forex คือสิ่งเดียวกันหรือไม่?

ไม่ใช่

  • กองทุน Hedge: กองทุนลงทุนใช้กลยุทธ์หลากหลายรวมเฮดจิ้ง ลงทุนหลายสินทรัพย์
  • Hedging Forex: เทคนิคบริหารเสี่ยงเฉพาะ Forex สำหรับเทรดเดอร์เดี่ยว

10. การทำ Hedging ถือว่าถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่?

ไทยไม่กำกับ Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศโดยตรง เฮดจิ้งเป็นแค่กลยุทธ์เทรด ไม่ผิดกฎ แต่เลือกโบรกเกอร์น่าเชื่อถือที่กำกับต่างประเทศ เพื่อคุ้มครองทุนและข้อมูล

發佈留言