บทนำ: ทำไมต้องรู้เรื่องยูโร? สกุลเงินแห่งทวีปยุโรป
สำหรับคนไทยที่ชื่นชอบการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเพื่อท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือทำธุรกิจ การทำความรู้จักกับยูโรซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของหลายประเทศในยุโรปนั้นช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก ยูโรไม่ได้เป็นแค่ตัวเงิน แต่ยังสะท้อนถึงการรวมตัวทางเศรษฐกิจและการเมืองของชาติในทวีปนี้ ทำให้การค้าขายและการเคลื่อนไหวระหว่างประเทศราบรื่นยิ่งขึ้น ในโลกวันนี้ ยูโรติดอันดับสองของสกุลเงินสำรองที่สำคัญที่สุด รองจากดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น และมีบทบาทเด่นในการค้าขายทั่วโลก รวมถึงการลงทุนที่หลากหลาย

ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจยูโรอย่างละเอียด ตั้งแต่ประเทศที่ใช้สกุลเงินนี้ ประวัติศาสตร์ สัญลักษณ์ต่างๆ จนถึงปัจจัยที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างยูโรกับเงินบาทไทยเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้น ยังมีคู่มือเฉพาะสำหรับคนไทยที่อยากวางแผนการเงินให้ฉลาดก่อนไปยุโรป ไม่ว่าจะเรื่องแลกเงิน ชำระค่าบริการ หรือเคล็ดลับที่ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหา เพื่อให้ทริปของคุณสนุกและไร้ความกังวล
ยูโรคืออะไร? ความเป็นมาและสัญลักษณ์ของสกุลเงินยุโรป
ยูโร หรือที่รู้จักในชื่อ Euro ด้วยสัญลักษณ์ € คือสกุลเงินหลักที่ใช้อย่างเป็นทางการใน 19 ชาติที่เป็นสมาชิกยูโรโซน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปที่มีสมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศ แนวคิดเรื่องสกุลเงินเดียวกันในยุโรปเริ่มก่อตัวตั้งแต่ยุค 1970s แต่ยูโรกำเนิดอย่างแท้จริงในวันที่ 1 มกราคม 1999 โดยเริ่มต้นในรูปแบบดิจิทัลสำหรับบัญชีธนาคาร ก่อนจะนำธนบัตรและเหรียญจริงมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2002 จุดมุ่งหมายหลักคือเพื่อกระตุ้นการรวมเศรษฐกิจ ทำให้การค้าขายและการเดินทางภายในทวีปสะดวกสบายขึ้น และช่วยรักษาความมั่นคงให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวม

สัญลักษณ์ € เกิดจากแรงบันดาลใจในตัวอักษรกรีก epsilon ที่แทนถึงมรดกทางวัฒนธรรมของยุโรป ขณะที่เส้นสองเส้นตรงกลางสื่อถึงความมั่นคงที่ยั่งยืน ธนบัตรยูโรมีทั้งหมดเจ็ดรุ่น คือ 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 ยูโร แต่ละรุ่นมีขนาดและสีที่แตกต่าง เพื่อให้ง่ายต่อการจำ พร้อมลายพิมพ์ที่สะท้อนสถาปัตยกรรมยุโรปจากสมัยต่างๆ ส่วนเหรียญยูโรมีแปดประเภท ได้แก่ 1, 2, 5, 10, 20, 50 เซนต์ รวมถึง 1 และ 2 ยูโร ประเทศสมาชิกแต่ละแห่งสามารถปรับแต่งด้านหนึ่งของเหรียญให้เข้ากับเอกลักษณ์ท้องถิ่นได้ ในขณะที่อีกด้านจะเป็นรูปแบบเดียวกันทุกประเทศ เพื่อความสม่ำเสมอ
ยูโร สกุลเงินประเทศอะไร? รายชื่อ 19 ประเทศสมาชิกยูโรโซนอย่างเป็นทางการ
ยูโรโซนหมายถึงกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปที่เลือกใช้ยูโรเป็นสกุลเงินหลัก ปัจจุบันมีสมาชิก 19 ชาติ ครอบคลุมประชากรราว 340 ล้านคน ทำให้ยูโรกลายเป็นสกุลเงินที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดอันดับสองของโลก มาดูรายชื่อประเทศเหล่านี้กัน:
- **ออสเตรีย (Austria)**
- **เบลเยียม (Belgium)**
- **ไซปรัส (Cyprus)**
- **เอสโตเนีย (Estonia)**
- **ฟินแลนด์ (Finland)**
- **ฝรั่งเศส (France)**
- **เยอรมนี (Germany)**
- **กรีซ (Greece)**
- **ไอร์แลนด์ (Ireland)**
- **อิตาลี (Italy)**
- **ลัตเวีย (Latvia)**
- **ลิทัวเนีย (Lithuania)**
- **ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg)**
- **มอลตา (Malta)**
- **เนเธอร์แลนด์ (Netherlands)**
- **โปรตุเกส (Portugal)**
- **สโลวาเกีย (Slovakia)**
- **สโลวีเนีย (Slovenia)**
- **สเปน (Spain)**

ทุกประเทศในรายชื่อนี้ต้องผ่านเกณฑ์เศรษฐกิจที่เข้มงวดอย่างเกณฑ์มาสทริชต์ก่อนเข้าร่วม ซึ่งครอบคลุมเรื่องการควบคุมเงินเฟ้อ หนี้สินภาครัฐ และความเสถียรของอัตราแลกเปลี่ยน หากอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับยูโรโซนและสมาชิก ลองเข้าไปดูที่ เว็บไซต์ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีข้อมูลครบถ้วน
ประเทศในยุโรปที่ใช้ยูโรแต่ไม่ใช่สมาชิกยูโรโซน
นอกจาก 19 ชาติหลักแล้ว ยังมีบางพื้นที่ในยุโรปที่นำยูโรมาใช้แม้จะไม่ได้สังกัดสหภาพยุโรปหรือยูโรโซนอย่างเป็นทางการ พวกนี้มักเลือกใช้ยูโรเพื่อความสะดวกในการค้าขายและท่องเที่ยว โดยไม่ต้องมีสกุลเงินของตัวเอง ตัวอย่างเช่น:
- **มอนเตเนโกร (Montenegro)**
- **โคโซโว (Kosovo)**
- **อันดอร์รา (Andorra)**
- **โมนาโก (Monaco)**
- **ซานมารีโน (San Marino)**
- **นครรัฐวาติกัน (Vatican City)**
สถานที่เหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีเงินของตัวเอง จึงหันมาใช้ยูโรเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แม้จะไม่มีสิทธิ์มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายการเงินของยูโรโซน ซึ่งต่างจากการเป็นสมาชิกเต็มตัวที่ต้องยึดตามกฎร่วมกันทุกประการ
ทำไมบางประเทศในยุโรปถึงไม่ใช้ยูโร?
ถึงแม้สหภาพยุโรปจะผลักดันให้สมาชิกใช้ยูโร แต่ก็ยังมีหลายชาติที่ยึดติดกับสกุลเงินดั้งเดิมของตัวเอง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่างที่แตกต่างกันไป ดังนี้:
- **เดนมาร์ก (Denmark):** ใช้สิทธิ์ยกเว้นหรือ opt-out จากสนธิสัญญามาสทริชต์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้ยูโร แม้จะผ่านเกณฑ์เศรษฐกิจแล้ว เหตุผลสำคัญคือต้องการรักษาอำนาจควบคุมการเงินและเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาติ
- **สวีเดน (Sweden):** ยังไม่เข้าเกณฑ์บางข้อ โดยเฉพาะการเข้าร่วมกลไกอัตราแลกเปลี่ยนยุโรป หรือ ERM II ชาวสวีเดนส่วนใหญ่ยังสนับสนุนการใช้โครนาสวีเดนต่อไป เพื่อความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
- **โปแลนด์ (Poland), สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic), ฮังการี (Hungary), โรมาเนีย, บัลแกเรีย, โครเอเชีย:** แม้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ยังไม่เปลี่ยนมาใช้ยูโรเพราะบางแห่งยังไม่ผ่านเกณฑ์มาสทริชต์ครบถ้วน หรือกำลังเตรียมตัว ท่ามกลางการถกเถียงภายในเกี่ยวกับข้อดีข้อเสีย เช่น ความกลัวว่าจะสูญเสียการควบคุมนโยบายเศรษฐกิจของตัวเอง
การตัดสินใจเรื่องนี้ซับซ้อน เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของแต่ละประเทศ สหภาพยุโรปยังคงพยายามขยายการใช้ยูโรต่อไป เมื่อสมาชิกอื่นๆ พร้อมและผ่านเกณฑ์ที่วางไว้
1 ยูโรเท่ากับกี่บาทไทย? เข้าใจอัตราแลกเปลี่ยนและปัจจัยที่ส่งผล
อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างยูโรกับเงินบาทไทย หรือ EUR/THB เป็นเรื่องที่คนไทยที่เดินทางหรือทำธุรกิจต้องคอยอัปเดตเสมอ เพราะมันเปลี่ยนแปลงทุกวัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจและเหตุการณ์โลก ตัวอย่างเช่น ในช่วงนี้ 1 ยูโรอาจอยู่ที่ราว 38-40 บาท หรืออาจสูงหรือต่ำกว่านั้นตามสภาวะตลาด
หากอยากเช็คอัตราใหม่ๆ ลองเข้าเว็บไซต์ธนาคารไทยชั้นนำอย่างธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารไทยพาณิชย์ รวมถึง เว็บของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ที่ให้ข้อมูลอ้างอิงรายวัน หรือใช้บริการอย่าง Wise เพื่อดูอัตราตลาดกลางที่แม่นยำ
สิ่งที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนยูโรผันผวนมีหลายปัจจัยหลัก เช่น:
- **นโยบายการเงิน:** เมื่อธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB กับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ BOT ปรับดอกเบี้ยขึ้นลง ค่าเงินจะตอบสนองทันที
- **สภาพเศรษฐกิจโดยรวม:** ตัวชี้วัดอย่างเงินเฟ้อ การเติบโต GDP อัตราความว่างงาน และดุลการค้าของยูโรโซนกับไทย ล้วนมีอิทธิพล
- **ความไม่แน่นอนทางการเมือง:** เหตุการณ์สำคัญในยุโรปหรือไทย สามารถสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทำให้ค่าเงินแกว่ง
- **เหตุการณ์ระดับโลก:** วิกฤตการณ์อย่างโรคระบาดหรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ มักนำมาซึ่งความผันผวนที่คาดเดายาก
คู่มือแลกเงินยูโรสำหรับคนไทย: เที่ยวยุโรปอย่างชาญฉลาด
การเตรียมการเงินให้ดีก่อนไปยุโรปคือสิ่งที่ช่วยให้ทริปของคุณลื่นไหลและประหยัดงบประมาณ เราจะมาดูคำแนะนำละเอียดๆ สำหรับคนไทยในการจัดการกับยูโร
แลกเงินยูโรในไทย vs. ในยุโรป: ข้อดีข้อเสีย
การเลือกแลกเงินยูโรที่ไหนขึ้นอยู่กับแผนเดินทางและความสะดวกของคุณเอง
การแลกเงินยูโรในประเทศไทย:
- **ข้อดี:**
- **อัตราแลกเปลี่ยนคุ้มค่า:** ร้านแลกเงินชื่อดังอย่าง SuperRich หรือธนาคารใหญ่ๆ อย่าง KBank กับ SCB มักให้เรทดีกว่าที่สนามบินยุโรปมาก
- **สะดวกและมั่นใจ:** แลกได้ล่วงหน้าในจำนวนที่พอใจ ก่อนขึ้นเครื่อง ทำให้พร้อมใช้งานทันทีที่ถึง
- **ตัวเลือกเยอะ:** มีหลายร้านให้เปรียบเทียบเรทได้ง่ายๆ
- **ข้อเสีย:**
- **ใช้เวลา:** ต้องหาเวลาว่างไปร้านแลกเงิน
- **เสี่ยงเรื่องเงินสด:** พกเงินจำนวนมากอาจเสี่ยงต่อการสูญหายหรือถูกขโมย
การแลกเงินยูโรในยุโรป:
- **ข้อดี:**
- **เหมาะสำหรับกรณีฉุกเฉิน:** ถ้าต้องการเงินด่วนหลังถึงที่หมาย
- **เข้าถึงง่าย:** แลกได้ที่สนามบิน ธนาคาร หรือตู้ ATM ใกล้ๆ
- **ข้อเสีย:**
- **เรทไม่ดี:** ที่สนามบินหรือโรงแรมในยุโรป เรทมักแพงกว่าที่ไทยชัดเจน
- **ค่าธรรมเนียมแพง:** ถอนจาก ATM ด้วยบัตรไทย จะเจอค่าธรรมเนียมถอนต่างประเทศและค่าปรับจากเรทแลกเปลี่ยนที่สูง
เคล็ดลับ:** แนะนำให้แลกยูโรส่วนใหญ่ที่ไทยก่อนไป แล้วพกเงินสดแค่พอสำหรับวันแรกๆ ที่เหลือใช้บัตรเครดิต เดบิต หรือ Travel Card แทน เพื่อความยืดหยุ่น
วิธีการชำระเงินในยุโรป: แนะนำสำหรับนักเดินทางชาวไทย
ยุโรปมีทางเลือกชำระเงินหลากหลาย คุณควรเตรียมพร้อมเพื่อความคล่องตัวและปลอดภัย:
- **เงินสด:** แม้สังคมยุโรปจะนิยมไร้เงินสด แต่เงินสดยังจำเป็นสำหรับร้านเล็กๆ ตลาดนัด หรือค่าแท็กซี่ พกแค่พอใช้ต่อวันก็พอ
- **บัตรเครดิตหรือเดบิต:** ทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด ร้านค้าส่วนใหญ่รับ Visa กับ Mastercard แจ้งธนาคารล่วงหน้าเพื่อป้องกันบัตรถูกบล็อก และเช็คค่าธรรมเนียมต่างประเทศที่ราว 2-3% ของยอดใช้
- **Travel Card:** เช่น YouTrip หรือ Planet SCB ที่เติมยูโรล่วงหน้าในเรทดี ใช้เหมือนเดบิตโดยไม่มีค่าธรรมเนียมต่างประเทศ แต่ต้องเช็ครายละเอียดค่าธรรมเนียมเติมหรือถอน
- **แอปชำระเงิน:** บางพื้นที่ใช้แอปท้องถิ่น แต่บัตรเครดิตเดบิตยังเป็นมาตรฐานที่เชื่อถือได้ทั่วไป
ข้อควรระวังในการจัดการเงินยูโร: หลีกเลี่ยงความผิดพลาด
เพื่อให้ทริปของคุณไม่มีสะดุด ลองพิจารณาเคล็ดลับเหล่านี้:
- **ดูแลเงินและบัตรให้ดี:** แยกเก็บเงินสดกับบัตรไว้คนละจุด อย่าพกเงินเยอะเกิน และระวังการฉกกระเป๋าในจุดท่องเที่ยว crowded
- **ใช้ ATM อย่างปลอดภัย:** เลือกตู้ในธนาคารหรือที่สาธารณะ หลีกเลี่ยงที่เปลี่ยวๆ และตรวจสอบตู้ก่อนใช้ ปิดบัง PIN ทุกครั้งเพื่อป้องกัน skimming
- **ตรวจธนบัตรปลอม:** เรียนรู้ลักษณะธนบัตรจริง เช่น ลายน้ำ แถบโลหะ และเนื้อกระดาษ เพื่อไม่ให้พลาด
- **ขอคืนภาษี VAT:** ถ้าซื้อของแพงจากร้าน tax free ขอฟอร์มคืนภาษีที่ร้าน แล้วจัดการที่สนามบินก่อนกลับ ลองดูรายละเอียดที่ เว็บ Yourope สำหรับกฎนักท่องเที่ยว
- **หลีกเลี่ยง DCC:** เวลาใช้บัตร ร้านค้าอาจถามให้เลือกชำระเป็นบาทหรือยูโร ให้เลือกยูโรเสมอ เพื่อใช้เรทจากธนาคารตัวเองที่ยุติธรรมกว่า
สรุป: วางแผนการเงินก่อนเที่ยวยุโรปอย่างมั่นใจ
การรู้จักยูโร สกุลเงินที่ใช้ในหลายประเทศยุโรป เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับคนไทยที่กำลังวางแผนทริป ไม่ว่าจะไปเที่ยว เรียน หรือทำธุรกิจ การเข้าใจว่าประเทศไหนใช้ยูโรและบทบาทของมัน จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจ
เราได้รวบรวมข้อมูลครบครันตั้งแต่ประวัติยูโร รายชื่อสมาชิกยูโรโซน ไปจนถึงชาติที่ยังไม่ใช้ และที่เด่นคือคู่มือจัดการเงินสำหรับคนไทย โดยเปรียบเทียบการแลกเงิน วิธีชำระที่หลากหลาย และข้อควรระวังที่จะช่วยประหยัดและหลีกเลี่ยงปัญหา
ด้วยการวางแผนการเงินที่รอบคอบ คุณจะสนุกกับยุโรปได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย意外หรือปัญหาแลกเงิน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับสกุลเงินยูโรสำหรับคนไทย
ประเทศในทวีปยุโรปทั้งหมดใช้สกุลเงินยูโรหรือไม่?
ไม่ทั้งหมดครับ มีเพียง 19 ประเทศสมาชิกในกลุ่มยูโรโซนเท่านั้นที่ใช้ยูโรเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีบางประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกยูโรโซนแต่ก็ใช้ยูโรด้วยตนเอง เช่น มอนเตเนโกร และโคโซโว แต่ก็มีอีกหลายประเทศในยุโรป รวมถึงบางประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ที่ยังคงใช้สกุลเงินประจำชาติของตนเอง เช่น เดนมาร์ก สวีเดน และโปแลนด์
คนไทยควรแลกเงินยูโรที่ไหนดีที่สุด: ในไทยหรือไปแลกที่ยุโรป?
โดยทั่วไปแล้ว การแลกเงินยูโรในประเทศไทยมักจะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่า โดยเฉพาะที่ร้านแลกเปลี่ยนเงินตราใหญ่ๆ หรือธนาคารพาณิชย์หลักๆ แนะนำให้แลกเงินส่วนใหญ่ในไทยก่อนเดินทาง และพกเงินสดไปในปริมาณที่พอใช้สำหรับค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ส่วนที่เหลือสามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิต หรือ Travel Card เพื่อความปลอดภัยและสะดวก
มีวิธีไหนบ้างที่คนไทยสามารถชำระเงินในยุโรปได้นอกจากเงินสด?
นอกจากเงินสดแล้ว คุณสามารถใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่ออกโดยธนาคารในประเทศไทย (เช่น Visa, Mastercard) ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ บัตร Travel Card เช่น YouTrip หรือ Planet SCB ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณสามารถเติมเงินยูโรเข้าไปในบัตรได้ล่วงหน้าในอัตราที่ดี และใช้จ่ายได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการทำรายการต่างประเทศ
อัตราแลกเปลี่ยนยูโรวันนี้กับธนาคารไทยเป็นอย่างไรบ้าง?
อัตราแลกเปลี่ยนยูโรเทียบกับเงินบาทมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดได้จากเว็บไซต์ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อดูอัตราอ้างอิง
ถ้าไปเที่ยวยุโรป ควรพกเงินยูโรเป็นเงินสดไปเท่าไหร่ถึงจะพอ?
ปริมาณเงินสดที่ควรพกติดตัวขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางและรูปแบบการใช้จ่ายของคุณ โดยทั่วไปแนะนำให้พกเงินสดประมาณ 50-100 ยูโรต่อวัน สำหรับค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ค่าเดินทาง หรือของที่ระลึกที่ร้านค้าเล็กๆ อาจไม่รับบัตร ส่วนค่าใช้จ่ายที่มากกว่านั้นควรใช้บัตรเครดิต/เดบิต เพื่อความปลอดภัย
การใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตไทยในยุโรป มีค่าธรรมเนียมอะไรบ้างที่ต้องระวัง?
มีค่าธรรมเนียมหลักๆ ที่ต้องระวังคือ:
- **ค่าธรรมเนียมการทำรายการต่างประเทศ (Foreign Transaction Fee):** โดยปกติประมาณ 2-3% ของยอดใช้จ่าย
- **ค่าธรรมเนียมการถอนเงินสดจากตู้ ATM ต่างประเทศ:** มักจะมีค่าธรรมเนียมคงที่ต่อครั้ง (เช่น 100 บาท) และอาจมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารเจ้าของตู้ ATM ในยุโรปด้วย
- **ค่าธรรมเนียม Dynamic Currency Conversion (DCC):** เมื่อชำระเงิน ให้เลือกชำระเป็นสกุลเงินยูโรเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่ดีจากร้านค้า
ควรสอบถามรายละเอียดค่าธรรมเนียมจากธนาคารผู้ออกบัตรของคุณก่อนเดินทาง
ยูโรโซนคืออะไร และมีประเทศอะไรบ้างที่เป็นสมาชิก?
ยูโรโซนคือกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ได้นำสกุลเงินยูโรมาใช้เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมี 19 ประเทศที่เป็นสมาชิกยูโรโซน ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม ไซปรัส เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สโลวีเนีย และสเปน
การแลกเงินยูโรจำนวนมาก มีข้อควรระวังหรือกฎระเบียบที่คนไทยควรรู้หรือไม่?
การนำเงินสดออกนอกหรือเข้าสู่ประเทศไทย หากมีมูลค่ารวมกันเกิน 450,000 บาท (เทียบเท่าประมาณ 12,000 ยูโร) จะต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ จุดตรวจเข้า-ออกประเทศ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำหรับการนำเข้าหรือส่งออกเงินสดในสหภาพยุโรป หากเกิน 10,000 ยูโร ก็ต้องสำแดงเช่นกัน ควรตรวจสอบระเบียบข้อบังคับล่าสุดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเดินทาง
สกุลเงินยูโรมีประวัติความเป็นมาอย่างไร และทำไมถึงสำคัญกับเศรษฐกิจโลก?
ยูโรก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1999 และเริ่มใช้ธนบัตร/เหรียญในปี 2002 เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจและการค้าภายในยุโรป ความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมาจากสถานะของยูโรในฐานะสกุลเงินสำรองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และการเป็นสกุลเงินหลักสำหรับกลุ่มประเทศที่มี GDP รวมกันขนาดใหญ่ ทำให้มีอิทธิพลต่อตลาดการเงิน การค้าระหว่างประเทศ และนโยบายเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
ถ้าเจอแบงก์ปลอมยูโร ควรทำอย่างไร?
หากคุณสงสัยว่าได้รับธนบัตรยูโรปลอม:
- อย่าพยายามนำไปใช้จ่ายต่อ เพราะอาจถูกดำเนินคดีได้
- เก็บธนบัตรไว้อย่างระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสมากเกินไป
- แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่น หรือธนาคารใกล้เคียงทันที เพื่อให้มีการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย
การรู้ลักษณะของธนบัตรยูโรจริงจะช่วยลดความเสี่ยงในการรับธนบัตรปลอมได้