66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

Delist คืออะไร? เปิดทุกแง่มุมการเพิกถอนหุ้น ศึกษาผลกระทบและทางรอดสำหรับนักลงทุนไทย

Home / เริ่มต้นเทรด / Del...

meetcinco_com | 24 10 月

Delist คืออะไร? เปิดทุกแง่มุมการเพิกถอนหุ้น ศึกษาผลกระทบและทางรอดสำหรับนักลงทุนไทย

## บทนำ: ทำความรู้จัก ‘Delist’ ในบริบทของตลาดทุนไทย

ในแวดวงการลงทุน หุ้นที่ซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคือส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต แต่บางครั้งบริษัทก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่หุ้นของตัวเองถูกถอดออกจากตลาด ซึ่งเรียกว่า ‘Delist’ หรือในภาษาไทยคือการเพิกถอนหลักทรัพย์หรือการเพิกถอนหุ้น เหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มักสร้างผลกระทบรุนแรงทั้งต่อบริษัทและนักลงทุนที่ถือหุ้นเหล่านั้น โดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ที่มีกฎระเบียบเฉพาะเจาะจงเพื่อรักษาความโปร่งใสและความมั่นคงของตลาด

ภาพประกอบตลาดหุ้นกับลูกศรแดงชี้ลงและใบหุ้นถูกถอดออก

บทความนี้จะพาคุณสำรวจทุกมุมมองของการ Delist ตั้งแต่ความหมาย พื้นฐาน ประเภท สาเหตุ ไปจนถึงขั้นตอนตามกฎของ SET ผลกระทบต่อบริษัทและนักลงทุน รวมถึงตัวอย่างจริงที่น่าสนใจ และเคล็ดลับที่ช่วยให้นักลงทุนไทยจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น เพื่อให้คุณเข้าใจลึกซึ้งและตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาดในตลาดทุนไทย

## ‘Delist’ คืออะไร? ความหมายและประเภทของการเพิกถอนหลักทรัพย์ในไทย

### นิยามศัพท์ ‘Delist’ และ ‘การเพิกถอนหุ้น’

คำว่า ‘Delist’ มาจากภาษาอังกฤษ แปลว่าการถอดถอนหรือยกเลิกการจดทะเบียน ในตลาดทุนไทยหมายถึงการที่หุ้นของบริษัทจดทะเบียนถูกเพิกถอนออกจากการซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างถาวร หลังจากนั้น นักลงทุนจะไม่สามารถซื้อขายหุ้นเหล่านั้นผ่านระบบปกติของตลาดได้อีก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลต่อมูลค่าทรัพย์สินของผู้ถือหุ้น

ภาพประกอบหนังสือเปิดเผยแนวคิดเกี่ยวกับการเพิกถอน เช่น ประเภท สาเหตุ และผลกระทบ

### การเพิกถอนโดยสมัครใจ (Voluntary Delisting) ในบริบทไทย

การเพิกถอนโดยสมัครใจเกิดขึ้นเมื่อบริษัทตัดสินใจขอถอนหุ้นออกจากตลาดด้วยตัวเอง มักมาจากเหตุผลทางธุรกิจหรือการปรับโครงสร้างองค์กร เช่น การเปลี่ยนจากบริษัทมหาชนเป็นบริษัทเอกชนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหาร หรือเพื่อให้ครอบครัวผู้ก่อตั้งควบคุมได้มากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นชัดคือกรณีการควบรวมกิจการหรือการซื้อกิจการที่ทำให้บริษัทไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนต่อ หรือการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด เพื่อรวบรวมหุ้นให้ครบสัดส่วนที่อนุญาตให้เพิกถอนได้ สำหรับกรณีนี้ บริษัทต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง และต้องจัดทำการเสนอซื้อที่ยุติธรรมเพื่อปกป้องสิทธิผู้ถือหุ้นรายเล็ก

### การเพิกถอนโดยไม่สมัครใจ (Involuntary Delisting) และเหตุผลหลัก

ในทางตรงกันข้าม การเพิกถอนโดยไม่สมัครใจคือคำสั่งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่บังคับให้บริษัทถอนหุ้นออก เนื่องจากฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ที่วางไว้ สาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับปัญหาฐานะการเงิน เช่น ส่วนของผู้ถือหุ้นเหลือน้อยกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน หรือขาดทุนต่อเนื่องจนเสี่ยงล้มละลาย นอกจากนี้ ยังรวมถึงการไม่ส่งงบการเงินหรือข้อมูลสำคัญตามกำหนด การถูกพักการซื้อขายนานโดยไม่แก้ไขได้ หรือการกระทำผิดกฎหมายหลักทรัพย์และบรรษัทภิบาลอย่างร้ายแรง เหตุการณ์เหล่านี้แสดงถึงความไม่มั่นคงที่ตลาดไม่อาจปล่อยไว้

## เกณฑ์และกระบวนการเพิกถอนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยละเอียด

### มาตรการเตือนก่อนการเพิกถอน: เครื่องหมายและการหยุดพักการซื้อขาย

ก่อนถึงขั้นตอนเพิกถอนอย่างเป็นทางการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะใช้เครื่องหมายเตือนเพื่อแจ้งนักลงทุนถึงความเสี่ยงของหุ้นนั้นๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนตัดสินใจได้ทันเวลา ตัวอย่างเครื่องหมายสำคัญ ได้แก่ SP สำหรับการพักการซื้อขายชั่วคราวเนื่องจากขาดข้อมูลสำคัญหรือกระทบสิทธิผู้ถือหุ้น NP สำหรับรอข้อมูลเพิ่มเติม NC สำหรับไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด NPG สำหรับปัญหาผลประกอบการที่เสี่ยงเพิกถอน และ C สำหรับเตือนพิเศษเรื่องฐานะการเงินหรือธรรมาภิบาล เครื่องหมายเหล่านี้ไม่เพียงจำกัดการซื้อขาย แต่ยังลดสภาพคล่องและมูลค่าหุ้น นักลงทุนจึงควรติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเพิกถอน

ภาพประกอบโซ่ขาดที่เป็นสัญลักษณ์ของการเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์พร้อมป้ายห้ามซื้อขาย

### กระบวนการเพิกถอนหุ้นตามกฎเกณฑ์ของ SET

กระบวนการเพิกถอนใน SET มีขั้นตอนที่ชัดเจนและแตกต่างกันตามประเภท เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและยุติธรรม

สำหรับการเพิกถอนโดยสมัครใจ เริ่มจากการที่บริษัทประกาศเจตนารมณ์ต่อสาธารณะและตลาด จากนั้นจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติด้วยคะแนนเสียงอย่างน้อยสามในสี่ของผู้มาร่วมประชุมที่มีสิทธิ์ ตามด้วยการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดในราคายุติธรรม พร้อมแจ้งรายละเอียดให้ผู้ถือหุ้นทราบ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน ตลาดจะอนุมัติและกำหนดวันเพิกถอน

ส่วนการเพิกถอนโดยไม่สมัครใจ ตลาดจะแจ้งเตือนบริษัทและให้เวลาซ่อมแซม หากบริษัทส่งแผนแก้ไข เช่น การฟื้นฟูฐานะการเงินหรือปรับโครงสร้าง แต่ตลาดเห็นว่าไม่เพียงพอหรือบริษัทไม่ปฏิบัติตาม ก็จะสั่งพักการซื้อขายหรือติดเครื่องหมายเตือน หากยังไม่แก้ไขได้ภายในกำหนด ตลาดจะสั่งเพิกถอนและประกาศอย่างเป็นทางการ นักลงทุนสามารถตรวจสอบรายละเอียดกฎเกณฑ์ได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET Regulations เพื่อเตรียมตัวรับมือ

## ผลกระทบของการเพิกถอนหุ้นต่อบริษัทและนักลงทุนไทย

### ผลกระทบต่อบริษัทที่ถูกเพิกถอน

การเพิกถอนหุ้นสร้างความเสียหายรุนแรงต่อบริษัทในหลายมิติ โดยเฉพาะการสูญเสียช่องทางระดมทุนหลักจากตลาด ทำให้การขยายธุรกิจหรือฟื้นตัวยากลำบากยิ่งขึ้น ภาพลักษณ์ของบริษัทก็เสื่อมโทรม ส่งผลต่อความเชื่อมั่นจากนักลงทุน คู่ค้า ลูกค้า และธนาคาร ผู้บริหารต้องรับมือแรงกดดันมหาศาล ขณะที่พนักงานอาจรู้สึกไม่มั่นคง นอกจากนี้ ยังมีต้นทุนเพิ่มจากกระบวนการปรับโครงสร้างหรือปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจยืดเยื้อและแพงหูฉี่

### ผลกระทบต่อนักลงทุนและผู้ถือหุ้นไทย

สำหรับนักลงทุนไทย การ Delist คือหายนะที่ทำให้สภาพคล่องหุ้นหายวับไป หุ้นเหล่านั้นไม่สามารถซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ได้อีก ผู้ถือหุ้นจึงต้องหาทางขายในตลาดนอกกระดาน ซึ่งผู้ซื้อน้อยและราคาตกต่ำกว่ามูลค่าจริงมาก มูลค่าหุ้นมักร่วงหนัก นำไปสู่การขาดทุนหรือสูญเสียทั้งหมด การเข้าถึงข้อมูลบริษัทก็ลดลง เนื่องจากไม่ต้องรายงานสาธารณะต่อ หากบริษัทล้มละลาย ผู้ถือหุ้นจะได้ส่วนแบ่งสินทรัพย์เป็นลำดับสุดท้าย หลังเจ้าหนี้ได้รับชำระครบ ซึ่งหลายครั้งอาจไม่ได้อะไรเลย

### สิทธิและทางเลือกของนักลงทุนเมื่อหุ้นถูกเพิกถอนในตลาดหลักทรัพย์ไทย

แม้สถานการณ์จะเลวร้าย แต่ผู้ถือหุ้นยังมีทางออกให้เลือก หากเป็นการเพิกถอนโดยสมัครใจ สามารถตอบรับการเสนอซื้อหุ้นเพื่อรับเงินคืนในราคาที่กำหนด ซึ่งมักเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากไม่มีหรือไม่ต้องการ ก็ลองขายในตลาดนอกกระดาน แต่ต้องระวังสภาพคล่องต่ำและราคาที่ถูกกด นอกจากนี้ ควรติดตามข่าวสารบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากยังดำเนินธุรกิจ เพื่อรอโอกาสฟื้นตัวหรือปรับโครงสร้างใหม่ หากสับสน ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือกฎหมายจะช่วยได้มาก และหากสงสัยว่ามีการกระทำไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ SEC Thailand เพื่อปกป้องสิทธิ

## กรณีศึกษาการเพิกถอนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย: บทเรียนจาก TCCC และอื่นๆ

การดูตัวอย่างจริงช่วยให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น หนึ่งในกรณีที่โดดเด่นคือบริษัท ปูนซิเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ TCCC ซึ่งจดทะเบียนใน SET มานาน แต่ถูกเพิกถอนในปี 2560

กรณี TCCC เกิดจากการที่กลุ่มบริษัท Siam City Cement Public Company Limited หรือ SCCC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจากรายย่อยเพื่อปรับโครงสร้างกลุ่ม โดย SCCC ประกาศราคาเสนอซื้อที่ชัดเจน ผู้ถือหุ้นรายย่อยสามารถเลือกขายคืนได้ ผู้ที่ตอบรับได้รับเงินคืนตามราคา แต่ผู้ที่ปฏิเสธต้องถือหุ้นในบริษัทเอกชนที่ไร้สภาพคล่อง มูลค่าหุ้นจึงลดลงอย่างมาก กรณีนี้สอนให้เห็นว่าการเพิกถอนโดยสมัครใจมักมาพร้อมการเสนอซื้อที่ยุติธรรม แต่ผู้ลงทุนต้องชั่งน้ำหนักข้อเสนออย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในอนาคต

นอกจาก TCCC แล้ว ยังมีบริษัทไทยอีกหลายแห่งที่เผชิญทั้งการเพิกถอนสมัครใจและไม่สมัครใจ แต่ละกรณีล้วนเป็นบทเรียนให้ผู้ลงทุนตรวจสอบความเสี่ยงของบริษัทให้ละเอียดก่อนลงทุน โดยเฉพาะปัจจัยทางการเงินและธรรมาภิบาล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์คล้ายกัน

## ข้อควรระวังและคำแนะนำสำหรับนักลงทุนไทยในการรับมือกับความเสี่ยง Delist

เพื่อรับมือกับความเสี่ยงการเพิกถอน นักลงทุนไทยควรเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ เริ่มจากการศึกษาข้อมูลบริษัทอย่างถี่ถ้วน ทั้งงบการเงิน ผลประกอบการ สภาวะอุตสาหกรรม แผนธุรกิจ และบรรษัทภิบาล การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยประเมินความเสี่ยงได้ตั้งแต่แรก

นอกจากนี้ ต้องติดตามประกาศจาก SET อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจับสัญญาณเตือน เช่น การติดเครื่องหมาย SP, NP, NC หรือ NPG ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจนำไปสู่การเพิกถอน การกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นหลายตัว หลายอุตสาหกรรม หรือสินทรัพย์อื่นๆ จะช่วยลดผลกระทบ หากหุ้นในมือมีสัญญาณน่าเป็นห่วง ควรพิจารณาขายหรือปรับพอร์ตทันที และหากไม่แน่ใจ ปรึกษาที่ปรึกษาการลงทุนจะช่วยตัดสินใจได้ดีขึ้น สุดท้าย ทำความเข้าใจสิทธิผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะในกรณีการเสนอซื้อ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองให้มากที่สุด

## สรุป: การเพิกถอนหุ้นไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นบทเรียนสำคัญในตลาดทุน

การเพิกถอนหุ้นหรือ Delist คือกระบวนการถอดหุ้นบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์อย่างถาวร ซึ่งสร้างผลกระทบใหญ่หลวงทั้งต่อบริษัทและนักลงทุน ในตลาด SET สถานการณ์นี้เกิดได้ทั้งจากเจตนาของบริษัทหรือคำสั่งจากตลาดเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎ

นักลงทุนจำเป็นต้องเข้าใจกลไกและผลกระทบนี้ให้ลึก เพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะศึกษาข้อมูลบริษัท ติดตามข่าวจาก SET หรือกระจายการลงทุน ทุกอย่างเหล่านี้คือกุญแจสู่การลงทุนที่มั่นคง ท่ามกลางความผันผวนของตลาดทุนไทย

## คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเพิกถอนหุ้น (FAQ)

1. หุ้นถูกเพิกถอน จะต้องทําอย่างไร? นักลงทุนควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อบริษัทถูก Delist?

หากหุ้นถูกเพิกถอน สิ่งแรกที่ควรทำคือติดตามข่าวสารและประกาศจากบริษัทและตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุและกระบวนการเพิกถอน หากมีการเสนอซื้อหลักทรัพย์คืน (Tender Offer) ควรพิจารณาตอบรับข้อเสนอเพื่อรับเงินลงทุนคืน หากไม่มี Tender Offer หรือไม่ตอบรับ นักลงทุนอาจต้องพยายามหาช่องทางขายในตลาดนอกกระดาน (OTC) ซึ่งสภาพคล่องต่ำและราคาอาจถูกกดดันมาก นอกจากนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

2. การเพิกถอนหุ้นคืออะไร และมีกี่ประเภทในตลาดหลักทรัพย์ไทย?

การเพิกถอนหุ้น (Delisting) คือการที่หุ้นของบริษัทจดทะเบียนถูกถอดถอนออกจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยสิ้นเชิง โดยหลักๆ แล้วมี 2 ประเภท ได้แก่:

  • การเพิกถอนโดยสมัครใจ (Voluntary Delisting): บริษัทตัดสินใจขอถอนหุ้นเองด้วยเหตุผลทางธุรกิจ เช่น การปรับโครงสร้างหรือการควบรวมกิจการ
  • การเพิกถอนโดยไม่สมัครใจ (Involuntary Delisting): ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีคำสั่งให้เพิกถอน เนื่องจากบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เช่น ปัญหาฐานะการเงิน หรือไม่ส่งงบการเงิน

3. Delist หุ้น คืออะไร และแตกต่างจากการถูกพักการซื้อขายอย่างไร?

Delist หุ้น คือ การที่หุ้นถูกถอดถอนออกจากตลาดอย่างถาวร ทำให้ไม่สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกต่อไป ส่วนการถูกพักการซื้อขาย (Suspension หรือ SP) เป็นเพียงการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว ซึ่งบริษัทอาจสามารถแก้ไขเหตุและกลับมาซื้อขายได้อีกครั้ง การ Delist ถือเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรงกว่าและมีผลกระทบถาวรต่อสภาพคล่องและมูลค่าของหุ้น

4. หากหุ้นถูก Delist ผู้ถือหุ้นยังสามารถขายหุ้นได้อยู่หรือไม่ และช่องทางใด?

หากหุ้นถูก Delist แล้ว ผู้ถือหุ้นจะไม่สามารถขายหุ้นผ่านช่องทางปกติของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกต่อไป การขายอาจทำได้ผ่านช่องทางตลาดนอกกระดาน (Over-The-Counter หรือ OTC) โดยการหาผู้สนใจซื้อขายกันเองโดยตรง ซึ่งมีสภาพคล่องต่ำมากและราคาอาจถูกกดดันอย่างรุนแรง นอกจากนี้ หากเป็นการเพิกถอนโดยสมัครใจ มักจะมี Tender Offer ซึ่งเป็นโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะขายหุ้นคืนได้

5. ส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชําระแล้ว คืออะไร และทำไมถึงเป็นสาเหตุหลักของการเพิกถอน?

ส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว หมายถึง ฐานะการเงินของบริษัทที่ย่ำแย่จนส่วนของเจ้าของ (ทุนที่ผู้ถือหุ้นลงไปและกำไรสะสม) เหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเงินทุนที่บริษัทได้รับมาตั้งแต่แรกเริ่ม การที่ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงมากแสดงถึงการขาดทุนสะสมอย่างรุนแรง และอาจบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่บริษัทจะล้มละลาย ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาว่าบริษัทไม่มีความมั่นคงเพียงพอที่จะเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป จึงเป็นสาเหตุสำคัญของการเพิกถอนโดยไม่สมัครใจ

6. การทำ Tender Offer เกี่ยวข้องกับการเพิกถอนหุ้นอย่างไร และผู้ถือหุ้นควรพิจารณาอะไร?

Tender Offer (การเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด) มักเกิดขึ้นในกรณีการเพิกถอนหุ้นโดยสมัครใจ โดยบริษัทหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อรวบรวมหุ้นให้ถึงสัดส่วนที่สามารถเพิกถอนได้ ผู้ถือหุ้นควรพิจารณาราคาเสนอซื้อที่ได้รับว่าเป็นราคาที่ยุติธรรมหรือไม่ เมื่อเทียบกับราคาตลาดในขณะนั้น และพิจารณาทางเลือกอื่นหากไม่ตอบรับ Tender Offer ซึ่งมักจะหมายถึงการถือหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องในอนาคต

7. มีบริษัทไทยใดบ้างที่เคยถูกเพิกถอนหุ้น และนักลงทุนได้บทเรียนอะไรจากกรณีเหล่านั้น?

มีบริษัทไทยหลายแห่งที่เคยถูกเพิกถอนหุ้น เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ TCCC ที่ถูกเพิกถอนโดยสมัครใจ นักลงทุนได้บทเรียนสำคัญจากการกรณีศึกษาเหล่านี้ว่า การตรวจสอบสถานะทางการเงินของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ การติดตามข่าวสารจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากการ Delist

8. Delist แล้วจะกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกหรือไม่ และมีเงื่อนไขอย่างไร?

หุ้นที่ถูก Delist แล้วมีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกครั้ง หากบริษัทต้องการกลับมาจดทะเบียนใหม่ จะต้องเข้าสู่กระบวนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด ซึ่งหมายถึงการต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และคุณสมบัติของตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างครบถ้วนทุกประการ เช่นเดียวกับบริษัทที่เข้าตลาดครั้งแรก ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยากและใช้เวลานาน

9. หน่วยงานใดในประเทศไทยที่กำกับดูแลเรื่องการเพิกถอนหุ้น และนักลงทุนสามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ไหน?

หน่วยงานหลักที่กำกับดูแลเรื่องการเพิกถอนหุ้นในประเทศไทยคือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. หรือ SEC Thailand) หากนักลงทุนต้องการขอความช่วยเหลือหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของตนเอง สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานเหล่านี้ได้โดยตรง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหรือการเงิน

10. นักลงทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากหุ้นที่อาจถูก Delist ได้อย่างไร และมีสัญญาณเตือนอะไรบ้าง?

นักลงทุนสามารถป้องกันความเสี่ยงได้โดยการศึกษาข้อมูลบริษัทอย่างละเอียด วิเคราะห์งบการเงินและผลประกอบการอย่างสม่ำเสมอ และกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน สัญญาณเตือนที่สำคัญ ได้แก่ การที่บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง ฐานะการเงินอ่อนแอ (เช่น ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงอย่างมาก) การถูกขึ้นเครื่องหมายต่างๆ จาก SET (เช่น SP, NP, NC, NPG) หรือการมีปัญหาด้านธรรมาภิบาล

發佈留言