66, Broklyn St, New York, USA
Turning big ideas into great services!

Put Call Option คือ: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักลงทุนไทย ทำกำไรและลดความเสี่ยงในตลาดอนุพันธ์

Home / เริ่มต้นเทรด / Put...

meetcinco_com | 12 10 月

Put Call Option คือ: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักลงทุนไทย ทำกำไรและลดความเสี่ยงในตลาดอนุพันธ์

Call Option และ Put Option คืออะไร? ความรู้พื้นฐานที่นักลงทุนต้องรู้

ในแวดวงการลงทุนที่เต็มเปี่ยมด้วยโอกาสและอุปสรรค เครื่องมืออย่างออปชันยืนเป็นตัวเลือกที่ทั้งน่าท้าทายและมีศักยภาพสูง มันช่วยให้นักลงทุนคว้ากำไรได้ไม่ว่าจะตลาดกำลังพุ่งขึ้นหรือร่วงลง แถมยังนำมาใช้ป้องกันความเสี่ยงได้อย่างชาญฉลาด ออปชัน归属于กลุ่มตราสารอนุพันธ์ โดยมูลค่าของมันผูกติดกับราคาสินทรัพย์หลัก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี หรือสินค้าโภคภัณฑ์

ภาพประกอบออปชันในฐานะเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อนและทรงพลังพร้อมสินทรัพย์อ้างอิง

ออปชันหลักๆ แบ่งเป็นสองประเภทที่นักลงทุนควรรู้จักให้ดี คือ Call Option และ Put Option แต่ละแบบมีลักษณะเฉพาะและจุดประสงค์ที่ชัดเจน การเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนชาวไทยขยายพอร์ตจากหุ้นหรือกองทุนทั่วไป สู่ตลาดอนุพันธ์อย่าง TFEX ได้อย่างมั่นใจ

ภาพประกอบสองประเภทออปชันหลัก Call และ Put สำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการขยายพอร์ต

ทำความรู้จัก Call Option: สิทธิในการซื้อ

Call Option คือข้อตกลงที่มอบสิทธิให้ผู้ถือ (ผู้ซื้อ) ได้ซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในปริมาณที่กำหนด ณ ราคาใช้สิทธิที่ตกลงไว้ ก่อนหรือเมื่อถึงวันหมดอายุ ผู้ถือไม่จำเป็นต้องใช้อะไร แต่ผู้ขายต้องยอมขายหากถูกเรียกใช้ เพื่อแลกสิทธิ ผู้ซื้อต้องชำระค่าพรีเมียมให้ผู้ขาย

ภาพประกอบสัญญา Call Option แสดงสิทธิในการซื้อสินทรัพย์ที่ราคาใช้สิทธิ
  • วิธีทำกำไร: ผู้ซื้อ Call จะชนะเมื่อราคาสินทรัพย์ทะลุราคาใช้สิทธิ บวกค่าพรีเมียมที่จ่าย เช่น ซื้อ Call หุ้น A ราคาใช้สิทธิ 100 บาท พรีเมียม 5 บาท ถ้าราคาขึ้น 110 บาท ใช้อสิทธิซื้อ 100 แล้วขายตลาด 110 ได้กำไร 10 หัก 5 เหลือ 5 บาท
  • ความเสี่ยง: ผู้ซื้อจำกัดเสี่ยงแค่พรีเมียม ถ้าราคาไม่ขึ้นก็ไม่ใช้อะไร เสียแค่ค่าที่จ่าย แต่ผู้ขายเสี่ยงไม่จำกัด ถ้าราคาพุ่ง ผู้ขายอาจต้องซื้อหุ้นแพงเพื่อส่งมอบ

ทำความรู้จัก Put Option: สิทธิในการขาย

Put Option คือข้อตกลงที่ให้สิทธิผู้ซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงในปริมาณกำหนด ณ ราคาใช้สิทธิที่ตั้งไว้ ก่อนหรือเมื่อหมดอายุ ผู้ซื้อไม่ต้องใช้ก็ได้ แต่ผู้ขายต้องยอมซื้อหากถูกเรียก ผู้ซื้อชำระพรีเมียมให้ผู้ขายเหมือนกัน

  • วิธีทำกำไร: ผู้ซื้อ Put ชนะเมื่อราคาสินทรัพย์ต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ ลบพรีเมียม มักใช้คาดตลาดลงหรือป้องกันพอร์ต เช่น ซื้อ Put หุ้น B ราคาใช้สิทธิ 50 บาท พรีเมียม 3 บาท ถ้าราคาลง 40 บาท ใช้อสิทธิขาย 50 ได้กำไร 10 หัก 3 เหลือ 7 บาท
  • ความเสี่ยง: ผู้ซื้อเสี่ยงแค่พรีเมียม ถ้าราคาไม่ลงก็ไม่ใช้ แต่ผู้ขายเสี่ยงไม่จำกัด ถ้าราคาร่วงหนัก ผู้ขายต้องซื้อหุ้นแพงจากผู้ซื้อ

องค์ประกอบสำคัญของสัญญา Option ที่ต้องเข้าใจ

การรู้จักส่วนประกอบหลักของออปชันช่วยให้คำนวณมูลค่า วางแผน และจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้คือแกนกลางที่กำหนดราคาและผลตอบแทน

  1. สินทรัพย์อ้างอิง: สินทรัพย์ที่ออปชันผูกติด เช่น หุ้น ดัชนีอย่าง SET50 Index Options ใน TFEX สินค้าโภคภัณฑ์ หรือสกุลเงิน ราคาและความผันผวนของมันคือปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนมูลค่าออปชัน
  2. ราคาใช้สิทธิ: ราคาที่ผู้ซื้อใช้อสิทธิซื้อ (Call) หรือขาย (Put) สินทรัพย์ ราคาใช้สิทธิที่ต่างกันทำให้พรีเมียมต่าง
  3. วันหมดอายุ: วันสุดท้ายของสัญญา ถ้าไม่ใช้อะไร สัญญาหมด ผู้ซื้อเสียพรีเมียม มูลค่าออปชันลดลงใกล้หมดอายุ เรียก Time Decay
  4. ค่าพรีเมียม: ราคาสัญญาที่ผู้ซื้อจ่ายให้ผู้ขาย ประกอบด้วย มูลค่าที่แท้จริง และมูลค่าตามเวลา ปัจจัยที่影响 ได้แก่ ราคาสินทรัพย์ ราคาใช้สิทธิ วันหมดอายุ ดอกเบี้ย และความผันผวน

เมื่อเข้าใจว่าส่วนเหล่านี้เชื่อมโยงกัน นักลงทุนจะประเมินความคุ้มและเสี่ยงได้ชัดเจนก่อนลงมือ

Call Option vs Put Option: ความแตกต่างและจุดประสงค์การใช้งาน

แม้ทั้งคู่จะเป็นออปชัน แต่ Call และ Put มีลักษณะและการนำไปใช้ที่ต่างกันมาก การรู้จุดต่างนี้ช่วยให้นักลงทุนไทยเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับมุมมองตลาด

คุณสมบัติ Call Option Put Option
**สิทธิของผู้ซื้อ** สิทธิที่จะ “ซื้อ” สินทรัพย์อ้างอิง สิทธิที่จะ “ขาย” สินทรัพย์อ้างอิง
**หน้าที่ของผู้ขาย** หน้าที่ที่จะ “ขาย” สินทรัพย์อ้างอิง หน้าที่ที่จะ “ซื้อ” สินทรัพย์อ้างอิง
**มุมมองตลาด (ผู้ซื้อ)** คาดการณ์ว่าราคาจะ “ขึ้น” (Bullish) คาดการณ์ว่าราคาจะ “ลง” (Bearish)
**กำไรสูงสุด (ผู้ซื้อ)** ไม่จำกัด (ราคาขึ้นได้ไม่จำกัด) จำกัด (ราคาลงได้ต่ำสุดที่ 0)
**ขาดทุนสูงสุด (ผู้ซื้อ)** จำกัด (เท่ากับค่าพรีเมียมที่จ่ายไป) จำกัด (เท่ากับค่าพรีเมียมที่จ่ายไป)
**วัตถุประสงค์หลัก** เก็งกำไรในตลาดขาขึ้น, เพิ่มผลตอบแทน, ป้องกันความเสี่ยงจากการขายชอร์ต เก็งกำไรในตลาดขาลง, ป้องกันความเสี่ยงพอร์ตลงทุน, สร้างรายได้จากค่าพรีเมียม (ผู้ขาย)

นักลงทุนไทยนำ Call และ Put มาสร้างกลยุทธ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเก็งกำไรจากทิศตลาดหรือป้องกันพอร์ต เช่น ถ้าถือหุ้นเยอะแต่กลัวราคาตก ซื้อ Put เพื่อคุ้มครอง กำไรจาก Put จะช่วยอุดหนุนขาดทุนจากหุ้น

ตัวอย่างการซื้อขาย Option ในตลาดจริง (กรณีศึกษา TFEX)

ในไทย ตลาดออปชันคือ TFEX ผลิตภัณฑ์หลักคือ SET50 Index Options ที่อ้างอิงดัชนี SET50 ลองดูตัวอย่างสถานการณ์จริง

สมมติฐาน: SET50 อยู่ที่ 850 จุด สัญญาขนาด 200 บาทต่อจุด

1. ซื้อ Call Option (Long Call) – คาดตลาดขึ้น

  • สถานการณ์: เชื่อ SET50 จะขึ้น
  • ทำ: ซื้อ Call ราคาใช้สิทธิ 850 จุด หมดอายุเดือนหน้า พรีเมียม 15 จุด (15 x 200 = 3,000 บาท)
  • ผล:
    • SET50 ขึ้น 880 จุด: กำไร (880 – 850) – 15 = 15 จุด หรือ 3,000 บาท (คุ้มทุน 865 จุด)
    • SET50 ลง 830 จุด: ไม่ใช้ เสีย 3,000 บาท สูงสุด

2. ขาย Call Option (Short Call) – คาดไม่ขึ้นหรือลงนิด

  • สถานการณ์: เชื่อ SET50 ไม่เกิน 850 หรือลง
  • ทำ: ขาย Call ราคาใช้สิทธิ 850 จุด ได้พรีเมียม 15 จุด (3,000 บาท)
  • ผล:
    • SET50 ลง 830 จุด: กำไรเต็ม 3,000 บาท ผู้ซื้อไม่ใช้
    • SET50 ขึ้น 880 จุด: ขาดทุน 15 จุด หรือ 3,000 บาท เสี่ยงไม่จำกัด

3. ซื้อ Put Option (Long Put) – คาดลงหรือป้องกัน

  • สถานการณ์: เชื่อ SET50 ลง หรือป้องพอร์ต
  • ทำ: ซื้อ Put ราคาใช้สิทธิ 850 จุด พรีเมียม 15 จุด (3,000 บาท)
  • ผล:
    • SET50 ลง 820 จุด: กำไร (850 – 820) – 15 = 15 จุด หรือ 3,000 บาท (คุ้มทุน 835 จุด)
    • SET50 ขึ้น 870 จุด: ไม่ใช้ เสีย 3,000 บาท สูงสุด

4. ขาย Put Option (Short Put) – คาดไม่ลงหรือขึ้นนิด

  • สถานการณ์: เชื่อ SET50 ไม่ต่ำ 850 หรือขึ้น
  • ทำ: ขาย Put ราคาใช้สิทธิ 850 จุด ได้พรีเมียม 15 จุด (3,000 บาท)
  • ผล:
    • SET50 ขึ้น 870 จุด: กำไรเต็ม 3,000 บาท ผู้ซื้อไม่ใช้
    • SET50 ลง 820 จุด: ขาดทุน 15 จุด หรือ 3,000 บาท เสี่ยงไม่จำกัด

ตัวอย่างเหล่านี้ชี้ให้เห็นออปชันใช้เก็งกำไรหรือป้องกันได้ นักลงทุนต้องรู้จุดคุ้มทุนและเสี่ยงที่ยอมรับ

ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณาก่อนลงทุน Option ในประเทศไทย

ออปชันเสี่ยงสูงกว่าหุ้นตรงๆ เพราะซับซ้อนและใช้เลเวอเรจมาก นักลงทุนไทยต้องพิจารณาให้รอบคอบ

  1. เสี่ยงเวลา: มูลค่าตามเวลาลดลงใกล้หมดอายุ ไม่ว่าตลาดจะเป็นยังไง ถ้าสินทรัพย์ไม่ขยับตามคาดในเวลาจำกัด ก็อาจขาดทุน
  2. เสี่ยงความผันผวน: ราคาออปชัน敏感ต่อความผันผวนตลาด สูงขึ้นทำให้พรีเมียมแพง
  3. เสี่ยงสภาพคล่อง: ออปชันบางตัว โดยเฉพาะราคาใช้สิทธิไกลหรือหมดอายุไกล อาจซื้อขายยาก
  4. เสี่ยงไม่จำกัดผู้ขาย: ขาย Call หรือ Put ได้พรีเมียมแต่เสี่ยงขาดทุนหนักถ้าตลาดผิดทาง
  5. เสี่ยงเลเวอเรจ: ผลตอบแทนสูงถ้าถูกทาง แต่ขาดทุนเร็วถ้าผิด ต้องจัดการเสี่ยงดี
  6. ข้อควรรู้ในไทย (TFEX):
    • กฎ: TFEX และ ก.ล.ต. เข้มงวด ศึกษากฎที่เกี่ยวข้องจาก เว็บ ก.ล.ต.
    • โบรกเกอร์: เลือกที่ได้รับอนุญาต มีแพลตฟอร์มดี ค่าคอมสมเหตุสมผล และให้คำปรึกษา
    • ภาษี: กำไรจาก TFEX อาจกระทบภาษี ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
    • สภาพคล่อง SET50: เป็นหลักแต่บางซีรีส์คล่องน้อย ตรวจก่อน

ออปชันต้องการความรู้ลึกและติดตามตลาดใกล้ชิด จัดการเงินและเสี่ยงให้ดีคือกุญแจสำหรับนักลงทุนไทย

เริ่มต้นเทรด Option ในประเทศไทย: ขั้นตอนและคำแนะนำสำหรับมือใหม่

สำหรับมือใหม่ที่อยากเทรดออปชันใน TFEX การเริ่มถูกวิธีช่วยลดเสี่ยงและเพิ่มโอกาส

  1. ศึกษา: สำคัญสุด ออปชันซับซ้อน เริ่มจากพื้นฐาน Call Put ส่วนประกอบ กลยุทธ์เบื้องต้น จัดการเสี่ยง แหล่งเรียนรู้มีเยอะ เช่น เว็บ TFEX SET InvestNow สัมมนาโบรกเกอร์ หรือหนังสือลงทุน
  2. เปิดบัญชี: ติดต่อโบรกเกอร์อนุพันธ์ที่ ก.ล.ต. อนุมัติและสมาชิก TFEX อาจต้องมีบัญชีหุ้นก่อนหรือเปิดพร้อม โบรกเกอร์บอกเอกสารและขั้นตอน
  3. วางมาร์จิ้น: ไม่ใช้เงินเต็ม แต่ต้องวาง Initial Margin ตามประเภทและกลยุทธ์
  4. รู้แพลตฟอร์ม: แต่ละโบรกเกอร์ต่างกัน ฝึกใช้ ส่งคำสั่ง ดูราคาให้คล่อง
  5. บัญชีทดลอง: ทดลองก่อนใช้เงินจริง ฝึกแพลตฟอร์มและกลยุทธ์โดยไม่เสี่ยง
  6. กลยุทธ์ง่าย: มือใหม่เริ่มซื้อ Call หรือ Put เสี่ยงจำกัด หลีกขาย Option ก่อน
  7. จัดการเสี่ยง: กำหนดขีดขาดทุน ปฏิบัติวินัย จัดการเงินสำคัญเท่าวิเคราะห์
  8. ติดตามข่าว: ตลาดอนุพันธ์ผันผวน敏感ข่าวในนอก ตามข้อมูลช่วยตัดสินใจดี

เริ่มเทรดออปชันต้องอดทน เรียนรู้ วินัย เตรียมดีช่วยใช้เครื่องมือนี้เต็มที่ในตลาดไทย

สรุป: ทำไม Call Option และ Put Option จึงเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจ

Call และ Put คือเครื่องมือยืดหยุ่นทรงพลัง ตอบโจทย์นักลงทุนไทยหลากหลาย ตั้งแต่เก็งกำไรตามทิศตลาด ไปถึงจัดการเสี่ยงพอร์ต Call ช่วยตลาดขึ้น Put ช่วยตลาดลง สร้างกลยุทธ์ครอบคลุมทุกสถานการณ์

แต่ความน่าสนใจมาพร้อมซับซ้อนและเสี่ยงสูงกว่าระบบเก่า ต้องรู้ลึกเรื่องราคาใช้สิทธิ วันหมดอายุ พรีเมียม ปัจจัย影响มูลค่า รวมถึงเสี่ยงเวลา ผันผวน เลเวอเรจ เลือกโบรกเกอร์ดี ปฏิบัติกฎ TFEX อย่างเคร่ง

ถ้าศึกษาเตรียมพร้อม Call และ Put จะช่วยขยายกำไร จัดการเสี่ยงแบบมือโปรสำหรับนักลงทุนไทย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Call Option และ Put Option

Call Option และ Put Option แตกต่างจากการซื้อขายหุ้นหรือฟิวเจอร์สอย่างไรในตลาดไทย?

Call Option และ Put Option เป็นสัญญาที่ให้ “สิทธิ” แต่ไม่ใช่ “ภาระผูกพัน” ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง ณ ราคาและเวลาที่กำหนด ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขายหุ้นที่ซื้อความเป็นเจ้าของโดยตรง หรือฟิวเจอร์สที่เป็น “สัญญาผูกพัน” ที่ต้องส่งมอบหรือรับมอบสินทรัพย์อ้างอิงตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้ Option มีความยืดหยุ่นและจำกัดความเสี่ยงสำหรับผู้ซื้อได้มากกว่า

ค่า Premium Option คำนวณอย่างไร และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อค่าพรีเมียมใน TFEX?

ค่า Premium Option ประกอบด้วยมูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) และมูลค่าตามเวลา (Time Value) ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อค่าพรีเมียมใน TFEX ได้แก่

  • ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น ดัชนี SET50)
  • ราคาใช้สิทธิ (Strike Price)
  • วันหมดอายุ (เวลาที่เหลืออยู่)
  • ความผันผวน (Volatility) ของสินทรัพย์อ้างอิง
  • อัตราดอกเบี้ย

ยิ่งเวลาเหลือมาก ความผันผวนสูง หรือ Option อยู่ในสถานะ In The Money มาก ค่าพรีเมียมมักจะสูงขึ้น

การเทรด Option มีความเสี่ยงสูงจริงหรือไม่ และนักลงทุนมือใหม่ในประเทศไทยควรเริ่มต้นอย่างไร?

การเทรด Option มีความเสี่ยงสูงจริง โดยเฉพาะสำหรับผู้ขาย Option ที่มีความเสี่ยงไม่จำกัด สำหรับนักลงทุนมือใหม่ในประเทศไทย ควรเริ่มต้นด้วย

  1. ศึกษาหาความรู้พื้นฐานอย่างละเอียด
  2. เปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์กับโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาต
  3. ใช้บัญชีทดลอง (Demo Account) ฝึกฝนก่อนใช้เงินจริง
  4. เริ่มต้นด้วยการซื้อ Call Option หรือ Put Option ที่มีความเสี่ยงจำกัด
  5. บริหารความเสี่ยงและเงินลงทุนอย่างเคร่งครัด

นักลงทุนไทยสามารถเทรด Option ได้ที่ไหนบ้าง และต้องเปิดบัญชีประเภทใด?

นักลงทุนไทยสามารถเทรด Option ได้ที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (TFEX) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยต้องเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ (Futures Account) กับโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกของ TFEX

ถ้าไม่ใช้สิทธิ Option ที่ถืออยู่จนถึงวันหมดอายุ จะเกิดอะไรขึ้นกับเงินลงทุนของเรา?

หากคุณไม่ใช้สิทธิ Option ที่ถืออยู่ (ไม่ว่าจะเป็น Call หรือ Put) จนถึงวันหมดอายุ สัญญา Option นั้นจะหมดอายุไปโดยเปล่าประโยชน์ และคุณจะสูญเสียค่าพรีเมียมทั้งหมดที่คุณจ่ายไปเพื่อซื้อสิทธิ Option นั้น

มีภาษีที่เกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากการเทรด Option ในประเทศไทยอย่างไรบ้าง?

กำไรจากการซื้อขายอนุพันธ์ใน TFEX (รวมถึง Option) จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ของกำไรที่ได้รับ แต่จะไม่นำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตอนสิ้นปี (Final Tax) ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขายหุ้นที่กำไรจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับยกเว้นภาษี

Short Call Option และ Short Put Option คืออะไร และมีความเสี่ยงแตกต่างจาก Long Option อย่างไร?

Short Call Option คือการขาย Call Option ทำให้มีหน้าที่ต้องขายสินทรัพย์อ้างอิงหากผู้ซื้อใช้สิทธิ
Short Put Option คือการขาย Put Option ทำให้มีหน้าที่ต้องซื้อสินทรัพย์อ้างอิงหากผู้ซื้อใช้สิทธิ
ความเสี่ยงหลักที่แตกต่างคือ ผู้ขาย (Short) จะได้รับค่าพรีเมียมแต่มีความเสี่ยงในการขาดทุนที่ “ไม่จำกัด” (สำหรับ Short Call) หรือ “สูงมาก” (สำหรับ Short Put หากราคาลงไปถึงศูนย์) ในขณะที่ผู้ซื้อ (Long) มีความเสี่ยงจำกัดอยู่ที่ค่าพรีเมียมที่จ่ายไป

Put-Call Parity คืออะไร และนักลงทุนไทยสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?

Put-Call Parity คือความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ที่แสดงถึงความเท่าเทียมกันของราคา Call Option, Put Option, สินทรัพย์อ้างอิง และตราสารหนี้ ที่มีราคาใช้สิทธิและวันหมดอายุเดียวกัน
นักลงทุนไทยสามารถนำหลักการนี้ไปใช้ประโยชน์ในการ

  • ตรวจสอบว่าราคา Option ในตลาดมีประสิทธิภาพหรือไม่ (ไม่แพงหรือถูกเกินไป)
  • สร้างกลยุทธ์การลงทุนแบบ Arbitrage เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา
  • ช่วยในการทำความเข้าใจโครงสร้างราคาและสร้างกลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้น

การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้วย Option ทำได้อย่างไรในพอร์ตการลงทุนของคนไทย?

นักลงทุนไทยสามารถใช้ Option เพื่อป้องกันความเสี่ยงได้ เช่น หากคุณถือหุ้นจำนวนมากและกังวลว่าราคาจะลดลง คุณสามารถ “ซื้อ Put Option” ของหุ้นนั้น (หรือ SET50 Index Option หากถือหุ้นใน SET50) ซึ่งจะทำกำไรเมื่อราคาหุ้นลดลง ช่วยชดเชยการขาดทุนในพอร์ตหุ้นของคุณได้ หรือหากคุณมีแผนจะซื้อหุ้นในอนาคตแต่กลัวราคาจะขึ้นไปก่อน คุณสามารถ “ซื้อ Call Option” เพื่อล็อคราคาซื้อได้

การเลือกโบรกเกอร์ (Broker) สำหรับเทรด Option ในประเทศไทย ควรพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง?

การเลือกโบรกเกอร์สำหรับเทรด Option ในประเทศไทยควรพิจารณาจาก

  • ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และเป็นสมาชิกของ TFEX
  • ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นที่สมเหตุสมผล
  • แพลตฟอร์มการซื้อขายที่เสถียร ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่จำเป็น
  • บริการลูกค้าและการสนับสนุนที่รวดเร็ว
  • มีแหล่งความรู้หรือสัมมนาเกี่ยวกับการเทรด Option
  • วงเงิน Initial Margin ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ

發佈留言