เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ไม่ใช่แค่ชื่อบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหุ้นธรรมดาๆ แต่เป็นเหมือนอาณาจักรยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนที่สะท้อนแนวคิดการลงทุนแบบมุ่งเน้นคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังที่ใครๆ ก็เรียกว่า “เทพเจ้าแห่งโอมาฮา” สำหรับนักลงทุนชาวไทยที่อยากขยายพอร์ตไปสู่ตลาดต่างประเทศ การศึกษาความเป็นมาของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการเรียนรู้จากตำนานการเงินระดับโลก บทความนี้จะพาคุณสำรวจทุกมุมมอง ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ แนวคิดการลงทุน โครงสร้างหุ้น ไปจนถึงเคล็ดลับปฏิบัติจริงสำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจจริงจัง

## เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ คืออะไร? ทำความเข้าใจบริษัทโฮลดิ้งระดับโลก
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ คือบริษัทโฮลดิ้งสัญชาติอเมริกันที่โด่งดังไปทั่วโลก กล่าวคือ มันไม่ได้ผลิตสินค้าหรือให้บริการโดยตรง แต่สร้างรายได้หลักจากการถือครองและจัดการบริษัทลูกนับไม่ถ้วน รวมถึงการลงทุนในหุ้นของบริษัทอื่นๆ ที่จดทะเบียนในตลาด ลองนึกภาพมันเป็นร่มใหญ่ที่ปกคลุมธุรกิจหลากหลายสาขา ตั้งแต่ประกันภัย พลังงาน การผลิต ไปจนถึงการค้าปลีก ซึ่งช่วยให้บริษัทมีฐานะที่มั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

### คำจำกัดความเบื้องต้นของ Berkshire Hathaway
ในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์มักเข้าซื้อกิจการหรือถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทต่างๆ เพื่อกำกับดูแลการดำเนินงานและรับส่วนแบ่งกำไรจากพวกนั้น สิ่งนี้ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดและสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งนำไปลงทุนต่อยอดได้อีก มันจึงเป็นตัวอย่างชั้นนำของการสร้างมูลค่าผ่านการบริหารพอร์ตธุรกิจที่หลากหลายและมีคุณภาพ แทนที่จะยึดติดกับธุรกิจหลักเพียงตัวเดียว ทำให้สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจได้ดีกว่า
### ประวัติโดยย่อ: จากโรงงานสิ่งทอสู่ยักษ์ใหญ่ทางการเงิน
เรื่องราวของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1839 ในฐานะโรงงานทอผ้าเล็กๆ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา มันทำธุรกิจสิ่งทออยู่นานหลายสิบปี จนกระทั่งปี 1965 ที่วอร์เรน บัฟเฟตต์เข้ามาควบคุมกิจการ ในตอนนั้น โรงงานกำลังเผชิญวิกฤตถดถอย แต่บัฟเฟตต์มองเห็นโอกาสที่จะใช้เงินสดจากธุรกิจนี้ไปซื้อกิจการประกันภัยและบริษัทอื่นๆ ที่มีอนาคตสดใส การตัดสินใจนี้กลายเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ ทำให้เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ค่อยๆ ปิดกิจการสิ่งทอที่กำลังซบเซา และ转型เป็นบริษัทลงทุนกับโฮลดิ้งระดับโลก สร้างตำนานใหม่ในวงการการเงินที่ยังคงน่าประทับใจจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะเมื่อมองย้อนกลับไป เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้บริษัทหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอุตสาหกรรมที่ล้าสมัย

## วอร์เรน บัฟเฟตต์: หัวใจและปรัชญาการลงทุนของ Berkshire Hathaway
วอร์เรน บัฟเฟตต์ คือบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ให้ก้าวหน้าต่อเนื่อง เขาไม่ใช่แค่ผู้บริหาร แต่ยังเป็นนักปรัชญาการลงทุนที่กำหนดทิศทางบริษัทมานานกว่า 50 ปีแล้ว
### ผู้สร้างตำนาน: บทบาทของ Warren Buffett
ในฐานะประธานกรรมการและซีอีโอ วอร์เรน บัฟเฟตต์มีส่วนตัดสินใจหลักทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกิจการ การเลือกหุ้น หรือการกระจายเงินทุน สไตล์ของเขาชนะใจนักลงทุนด้วยความเรียบง่ายแต่ได้ผลลัพธ์สูง โดยอาศัยการวิเคราะห์ธุรกิจอย่างละเอียดและลงทุนในบริษัทชั้นนำด้วยราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ชาร์ลี มังเกอร์ รองประธานและคู่คิดคู่ใจของบัฟเฟตต์ ก็ช่วยหล่อหลอมแนวคิดและวัฒนธรรมองค์กรให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ทำให้เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์กลายเป็นแบบอย่างที่หลายคนอยากเลียนแบบ
### ปรัชญา “การลงทุนแบบเน้นคุณค่า” ที่ Berkshire Hathaway ยึดถือ
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ยึดหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าอย่างเหนียวแน่น ซึ่งมีแกนกลางดังนี้
* **มองหุ้นเหมือนซื้อกิจการทั้งหมด:** เน้นวิเคราะห์พื้นฐานบริษัทอย่างจริงจัง แทนที่จะไล่ตามราคาหุ้นที่ผันผวน
* **เลือกธุรกิจชั้นนำ:** มองหาบริษัทที่มีข้อได้เปรียบแข่งขันถาวร ผู้บริหารที่น่าเชื่อถือ และศักยภาพกำไรยาวนาน
* **ซื้อตอนราคาย่อมเยา:** รอโอกาสที่ตลาดประเมินค่าต่ำกว่ามูลค่าจริง เพื่อสร้างส่วนเผื่อความปลอดภัย
* **ถือยาวเพื่อผลตอบแทนทบต้น:** ไม่สนใจความแกว่งของตลาดระยะสั้น แต่รอให้ธุรกิจเติบโตเองตามธรรมชาติ
* **ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ:** หลีกเลี่ยงธุรกิจซับซ้อนหรือไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่รู้
แนวคิดเหล่านี้ช่วยให้เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์เอาชนะตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ หากอยากศึกษาลึกกว่านี้ ลองอ่านรายงานประจำปีของบริษัทได้ที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ซึ่งเต็มไปด้วยบทเรียนจากประสบการณ์จริงของบัฟเฟตต์
## โครงสร้างหุ้น: BRK.A กับ BRK.B ต่างกันอย่างไร?
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์มีหุ้นสองคลาสที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก คือคลาส A (BRK.A) และคลาส B (BRK.B) ซึ่งแตกต่างกันชัดเจนและเหมาะกับนักลงทุนแบบต่างๆ
### ความแตกต่างระหว่างหุ้นคลาส A (BRK.A) และคลาส B (BRK.B)
| คุณสมบัติ | หุ้นคลาส A (BRK.A) | หุ้นคลาส B (BRK.B) |
| :—————- | :———————————————– | :———————————————– |
| **ราคาหุ้น** | สูงที่สุดในโลก (ราคาต่อหุ้นแพงมาก) | ต่ำกว่า BRK.A มาก (ประมาณ 1/1,500 ของ BRK.A) |
| **สิทธิออกเสียง** | 1 เสียงต่อหุ้น | 1/10,000 เสียงต่อหุ้นของ BRK.A (สิทธิน้อยมาก) |
| **การแตกหุ้น** | ไม่เคยมีการแตกหุ้น | มีการแตกหุ้นเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้ง่าย |
| **การแปลงสภาพ** | สามารถแปลงเป็น BRK.B ได้ (แต่ BRK.B แปลงเป็น BRK.A ไม่ได้) | แปลงเป็น BRK.A ไม่ได้ |
| **นักลงทุนเป้าหมาย** | นักลงทุนสถาบันหรือรายใหญ่มาก | นักลงทุนรายย่อยทั่วไป |
### ทำไม Berkshire Hathaway ถึงมีหุ้นสองประเภท?
ตอนแรกมีแต่หุ้นคลาส A ซึ่งราคาพุ่งสูงจนนักลงทุนรายเล็กเข้าถึงยาก บัฟเฟตต์จึงออกหุ้นคลาส B ในปี 1996 เพื่อเปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าร่วม โดยราคาถูกกว่าและแบ่งหุ้นย่อยเพื่อเพิ่มความคล่องตัว สิ่งนี้ช่วยรักษาสไตล์ลงทุนระยะยาวของคลาส A ในขณะที่ดึงดูดนักลงทุนรายย่อยให้มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยกัน ทำให้บริษัทเข้าถึงฐานผู้ถือหุ้นที่กว้างขึ้นโดยไม่เสียเอกลักษณ์
## อาณาจักร Berkshire Hathaway: บริษัทลูกและพอร์ตการลงทุนที่สำคัญ
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ครอบครองและลงทุนในบริษัทมากมาย ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลากหลาย ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงให้พอร์ตโดยรวม
### บริษัทในเครือที่ Berkshire Hathaway เป็นเจ้าของทั้งหมด
บริษัทเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นแหล่งกำไรและเงินสดหลัก ตัวอย่างเด่นๆ ได้แก่
* **GEICO:** บริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำในสหรัฐฯ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากนวัตกรรมดิจิทัล
* **BNSF Railway:** ผู้ให้บริการรถไฟขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกาเหนือ ช่วยเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานทั่วประเทศ
* **Berkshire Hathaway Energy:** ธุรกิจพลังงานที่ผลิตและขายไฟฟ้ากับก๊าซธรรมชาติ โดยเน้นความยั่งยืน
* **Dairy Queen:** เครือร้านอาหารจานด่วนและไอศกรีที่เป็นที่รักของครอบครัวชาวอเมริกัน
* **See’s Candies:** ผู้ผลิตขนมหวานและช็อกโกแลตคุณภาพสูง ที่รักษาเสน่ห์แบบดั้งเดิม
* **Precision Castparts Corp. (PCC):** ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมการบินและอวกาศชั้นนำ
ธุรกิจเหล่านี้ไม่เพียงสร้างรายได้สม่ำเสมอ แต่ยังเสริมจุดแข็งให้กันและกันในยามเศรษฐกิจผันผวน
### หุ้นในพอร์ตการลงทุนที่โดดเด่น
นอกจากบริษัทลูก เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ยังถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ โดยยึดหลักเน้นคุณค่าและถือยาว พอร์ตนี้มักถูกจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลก ตัวอย่างหุ้นหลักที่ถือในปี 2568 และก่อนหน้า ได้แก่
| บริษัท | อุตสาหกรรม | เหตุผลการลงทุน (ตามปรัชญา Buffett) |
| :——————- | :———————– | :————————————————————————————————————————————— |
| **Apple (AAPL)** | เทคโนโลยี | มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง, ระบบนิเวศน์ผลิตภัณฑ์ที่เหนียวแน่น, ลูกค้าภักดี, กระแสเงินสดมหาศาล, ผู้บริหารที่ยอดเยี่ยม |
| **Bank of America (BAC)** | การเงิน | เป็นธนาคารขนาดใหญ่, มีการจัดการที่ดี, มีศักยภาพในการเติบโตเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว, ซื้อในราคาที่เหมาะสม |
| **Coca-Cola (KO)** | เครื่องดื่ม | แบรนด์ระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบ, มีความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน (Moat), ผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนบริโภคประจำ, มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี |
| **American Express (AXP)** | การเงิน (บัตรเครดิต/บริการทางการเงิน) | เป็นแบรนด์พรีเมียม, มีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง, ลูกค้ามีกำลังซื้อสูง, มีโมเดลธุรกิจที่ชัดเจน |
| **Chevron (CVX)** | พลังงาน (น้ำมันและก๊าซ) | เป็นบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ที่มีต้นทุนต่ำ, ตอบสนองความต้องการพลังงานของโลก, เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีในระยะยาว |
การเลือกเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบัฟเฟตต์ที่ชื่นชอบธุรกิจที่มีฐานะแข็งแกร่งและสร้างรายได้ยั่งยืน โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีและพลังงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
## การลงทุนใน Berkshire Hathaway สำหรับนักลงทุนไทย
นักลงทุนไทยที่อยากมีส่วนร่วมในเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ สามารถทำได้ไม่ยาก แต่ต้องวางแผนให้รอบคอบทั้งช่องทางและปัจจัยอื่นๆ
### ช่องทางการซื้อหุ้น Berkshire Hathaway ในประเทศไทย
คุณสามารถซื้อหุ้นต่างประเทศอย่าง BRK.B (ซึ่งราคาเข้าถึงง่ายกว่า) ผ่านโบรกเกอร์ในไทยที่รองรับตลาดต่างประเทศ ตัวอย่างแพลตฟอร์มยอดนิยม ได้แก่
* **InnovestX:** จาก SCB Securities รองรับหุ้นหลายตลาดด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานสะดวก
* **Liberator:** โบรกเกอร์ค่าธรรมเนียมต่ำ มุ่งเน้นการเทรดหุ้นต่างประเทศสำหรับนักลงทุนทั่วไป
* **Dime!:** จาก Kiatnakin Phatra Securities เหมาะสำหรับรายย่อยที่สนใจลงทุนนอกประเทศ
* **บริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ:** เช่น KBank Private Banking หรือ Bualuang Securities ที่มีบริการครบครันจากธนาคารใหญ่
โดยปกติต้องเปิดบัญชีพิเศษ โอนเงินบาทแลกเป็นดอลลาร์สหรัฐ แล้วจึงซื้อขาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ลองดูที่ เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งมีคู่มือชัดเจน
### ข้อควรพิจารณาและภาษีที่เกี่ยวข้องสำหรับนักลงทุนไทย
ก่อนลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
* **ค่าธรรมเนียม:** รวมค่าซื้อขาย ค่าบำรุงบัญชี และค่าธรรมเนียมแลกเงิน ซึ่งอาจสะสมได้ถ้าซื้อบ่อย
* **อัตราแลกเปลี่ยน:** ความแกว่งของเงินบาทต่อดอลลาร์อาจเพิ่มหรือลดผลตอบแทนโดยไม่คาดคิด
* **ภาษีกำไรจากหุ้น (Capital Gains Tax):**
* **สำหรับบุคคลธรรมดา:** ถ้านำกำไรจากการขายหุ้นเข้ามาไทยในปีเดียวกัน ต้องรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
* **สำหรับนิติบุคคล:** กำไรต้องนำเข้าภาษีเงินได้นิติบุคคล
* **ภาษีเงินปันผล (Dividend Tax):** ถ้าบริษัทจ่ายปันผล (ปัจจุบันเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ไม่จ่าย) จะถูกหักภาษีที่สหรัฐฯ ก่อน (15% หรือ 30% ตามสนธิสัญญา) และถ้านำเข้ามาไทย ต้องคำนวณภาษีเพิ่ม แต่สนธิสัญญาไทย-สหรัฐฯ ช่วยลดภาระซ้อนได้
* **ความเสี่ยงอื่นๆ:** เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจโลก หรือกฎระเบียบตลาดต่างประเทศ
แนะนำให้ปรึกษาที่ปรึกษาภาษีเพื่อวางแผนให้เหมาะสม ข้อมูลละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ กรมสรรพากร ซึ่งอัปเดตกฎหมายล่าสุดเสมอ
## อนาคตของ Berkshire Hathaway: ความท้าทายและการปรับตัว
แม้เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์จะประสบความสำเร็จ แต่ก็ต้องเผชิญอุปสรรคใหม่ๆ ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว
### ปัญหาผู้สืบทอดตำแหน่ง: หลังยุค Warren Buffett
คำถามใหญ่ที่นักลงทุนห่วงใยคือ หลังจากบัฟเฟตต์ซึ่งอายุเกิน 90 ปีแล้ว ใครจะสานต่อ? บริษัทวางแผนชัดเจน โดยเกร็ก เอเบิล รองประธานที่ดูแลธุรกิจนอกเหนือจากประกันภัย จะเป็นซีอีโอคนต่อไป อะจิต จейн รับผิดชอบส่วนประกันภัย ขณะที่ท็อดด์ คอมบ์ส และเท็ด เวสช์เลอร์ จัดการพอร์ตลงทุน การเปลี่ยนผ่านนี้อาจปรับนโยบายเล็กน้อย แต่รากฐานปรัชญาและโครงสร้างที่แข็งแกร่งจะช่วยให้บริษัทเดินหน้าต่อได้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากประวัติที่บัฟเฟตต์เตรียมการมานาน
### การปรับตัวในยุคการลงทุนสมัยใหม่ (ESG และเทคโนโลยี)
ยุคนี้เน้น ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) และเทคโนโลยีที่พุ่งทะยาน เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์จึงต้องปรับตัว แม้บัฟเฟตต์จะยึดหลักพื้นฐานแข็งแกร่งและเงินสดไหลเวียนดี แต่การคำนึงถึง ESG ในธุรกิจลูก เช่น พลังงานสะอาด หรือนำ AI มาใช้ ก็สำคัญสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ บริษัทกำลังหาทางสมดุลระหว่างแนวคิดดั้งเดิมกับกระแสสังคม เพื่อรักษาความได้เปรียบในระยะยาว
## สรุป: Berkshire Hathaway คือมากกว่าแค่บริษัท
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ไม่ใช่แค่โฮลดิ้งที่ร่ำรวย แต่เป็นตัวแทนของปรัชญาการลงทุนที่พิสูจน์ตัวเองแล้ว การเดินทางจากโรงงานสิ่งทอที่ใกล้ล้มละลาย สู่จักรวรรดิการเงินภายใต้บัฟเฟตต์ คือบทเรียนมีค่าที่นักลงทุนทุกคนควรเรียนรู้ แนวคิดเน้นคุณค่า การมองไกล และความเรียบง่าย คือกุญแจที่ทำให้มันยืนหยัด และยังคงเป็นแรงบันดาลใจในโลกการเงินที่ซับซ้อน
## คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับ Berkshire Hathaway สำหรับนักลงทุนไทย
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ คือบริษัทอะไร และดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับอะไร?
เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ คือ บริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจผลิตสินค้าหรือบริการโดยตรง แต่เป็นเจ้าของและบริหารจัดการบริษัทลูกจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรม (เช่น ประกันภัย พลังงาน การผลิต ค้าปลีก) และยังลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ด้วย
นักลงทุนไทยสามารถซื้อหุ้น Berkshire Hathaway (BRK.A หรือ BRK.B) ได้จากโบรกเกอร์รายใดบ้างในประเทศไทย?
นักลงทุนไทยสามารถซื้อหุ้น Berkshire Hathaway (โดยเฉพาะ BRK.B) ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ในประเทศไทยที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ เช่น InnovestX, Liberator, Dime! และบริษัทหลักทรัพย์ในเครือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อื่นๆ
หุ้น BRK.A กับ BRK.B แตกต่างกันอย่างไรในแง่ของราคา สิทธิ และการเข้าถึงสำหรับนักลงทุนรายย่อยไทย?
- ราคา: BRK.A มีราคาสูงกว่า BRK.B มาก (BRK.B ประมาณ 1/1,500 ของ BRK.A)
- สิทธิออกเสียง: BRK.A มี 1 เสียงต่อหุ้น ขณะที่ BRK.B มีสิทธิออกเสียงน้อยกว่ามาก (1/10,000 ของ BRK.A)
- การเข้าถึง: BRK.B ถูกออกแบบมาสำหรับนักลงทุนรายย่อยทั่วไป เนื่องจากมีราคาถูกกว่าและมีการแตกหุ้น ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่า BRK.A ที่มีราคาสูงมาก
การลงทุนในหุ้นต่างประเทศอย่าง Berkshire Hathaway มีเรื่องภาษีที่นักลงทุนไทยต้องกังวลอะไรบ้าง?
นักลงทุนไทยต้องพิจารณาเรื่องภาษีกำไรจากการขายหุ้น (Capital Gains Tax) หากนำเงินกำไรเข้ามาในประเทศไทยภายในปีภาษีเดียวกัน และภาษีเงินปันผล (Dividend Tax) ซึ่งจะถูกหัก ณ ที่จ่ายในสหรัฐฯ ก่อน และอาจต้องนำมาคำนวณภาษีในไทยอีกครั้ง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี
ปรัชญา “การลงทุนแบบเน้นคุณค่า” ของ Warren Buffett สามารถนำมาปรับใช้กับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้อย่างไร?
สามารถปรับใช้ได้โดยการ
- ศึกษาธุรกิจอย่างลึกซึ้ง: ทำความเข้าใจโมเดลธุรกิจ งบการเงิน และความได้เปรียบทางการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียนในไทย
- มองหาธุรกิจที่ยอดเยี่ยม: เลือกบริษัทที่มีประวัติผลประกอบการดี มีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ และมี Moat ที่แข็งแกร่ง
- ซื้อในราคาที่เหมาะสม: รอจังหวะที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
- ลงทุนระยะยาว: ถือหุ้นดีๆ ไว้เพื่อรับผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว โดยไม่สนใจความผันผวนของตลาดระยะสั้น
Berkshire Hathaway มีหุ้นหรือบริษัทลูกอะไรที่เป็นที่รู้จักและทำกำไรหลักบ้างในปัจจุบัน?
บริษัทลูกที่เป็นเจ้าของทั้งหมด ได้แก่ GEICO (ประกันภัย), BNSF Railway (รถไฟขนส่งสินค้า), Berkshire Hathaway Energy (พลังงาน) และ See’s Candies (ขนมหวาน) ส่วนหุ้นที่ถือครองในพอร์ตการลงทุนที่โดดเด่น ได้แก่ Apple, Bank of America, Coca-Cola, American Express และ Chevron
ราคาหุ้น Berkshire Hathaway (โดยเฉพาะ BRK.B) ปัจจุบันอยู่ที่เท่าไหร่ และมีแนวโน้มเป็นอย่างไร?
ราคาหุ้น BRK.B มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามกลไกตลาด นักลงทุนสามารถตรวจสอบราคาปัจจุบันได้จากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มข้อมูลการลงทุนต่างๆ เช่น Google Finance หรือ Yahoo Finance ส่วนแนวโน้มขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทลูกและพอร์ตการลงทุน รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลก
หลังจากยุคของ Warren Buffett แล้ว ใครคือผู้สืบทอดตำแหน่ง และมีผลต่อทิศทางบริษัทอย่างไร?
Greg Abel ได้รับการวางตัวเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง CEO ในอนาคต ส่วน Ajit Jain จะดูแลธุรกิจประกันภัย และ Todd Combs กับ Ted Weschler จะรับผิดชอบพอร์ตการลงทุน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในสไตล์การลงทุน แต่ปรัชญาหลักและวัฒนธรรมของบริษัทคาดว่าจะยังคงอยู่
มีข้อควรระวังหรือความเสี่ยงเฉพาะใดบ้างที่นักลงทุนไทยควรทราบก่อนตัดสินใจลงทุนใน Berkshire Hathaway?
ข้อควรระวังคือ ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน, ความเสี่ยงด้านภาษีที่ซับซ้อนกว่าหุ้นในประเทศ, ความเสี่ยงด้านการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ, และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงหลังยุคบัฟเฟตต์ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางบริษัทได้
Berkshire Hathaway จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหรือไม่ และนักลงทุนไทยจะได้รับอย่างไร?
ไม่ Berkshire Hathaway มีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น โดยวอร์เรน บัฟเฟตต์เชื่อว่าการนำกำไรไปลงทุนซ้ำในธุรกิจที่มีศักยภาพจะสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นได้มากกว่าการจ่ายเงินปันผล หากนโยบายเปลี่ยนไปในอนาคต เงินปันผลจะถูกส่งผ่านโบรกเกอร์และอาจมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย
หุ้นอะไรที่ Berkshire Hathaway ถือครองมากที่สุด?
ข้อมูล ณ ปัจจุบัน (ปี 2568) หุ้นที่ Berkshire Hathaway ถือครองมากที่สุดในพอร์ตการลงทุนคือหุ้น Apple (AAPL) ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของพอร์ตการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
Berkshire Hathaway มีผลประกอบการเป็นอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา?
Berkshire Hathaway มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด สร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนี S&P 500 ในระยะยาว แม้จะมีความผันผวนในบางช่วงเวลาตามสภาวะตลาด แต่ด้วยพอร์ตธุรกิจที่หลากหลายและปรัชญาการลงทุนที่มั่นคง ทำให้บริษัทสามารถรักษาการเติบโตของมูลค่าได้ดี